จริงรึ! "อารมณ์" คือ ความต่างระหว่าง มนุษย์ กับ หุ่นยนต์

10 เม.ย. 2565 | 07:08 น.
อัปเดตล่าสุด :10 เม.ย. 2565 | 16:36 น.

วิถีแรงงานโลกยุคใหม่ คนมีความกังวลกับการถูกแทนที่ด้วยเครื่องจักรกล หรือ หุ่นยนต์ แต่นักบริหารทรัพยากรมนุษย์หลายคนต่างออกมาเน้นย้ำว่า ยังไงเสียมนุษย์ก็ยังเป็นแรงงานสำคัญ สำหรับงานอีกหลายอย่าง เพราะมนุษย์มี "อารมณ์ ความรู้สึก" ซึ่งเป็น Soft-Skills ที่หุ่นยนต์ไม่มี

ดร. ณัฐวุฒิ  พงศ์สิริ ([email protected]) อดีตนายกสมาคมการจัดการงานบุคคลแห่งประเทศไทย ได้เขียนบทความถึง เครื่องจักรกลที่มีอารมณ์ความรู้สึก (The Emotion Machine) อริสโตเติล นักปรัชญาคนสำคัญยุคกรีกโบราณเคยกล่าวไว้ว่า ‘มนุษย์เป็นสัตว์โลกประเภทเดียวที่รู้จักใช้เหตุผล’ สองพันกว่าปีต่อมา มาร์ค ทเวน นักประพันธ์วรรณกรรมอเมริกาเลื่องชื่อ ได้เสริมว่า ‘มนุษย์เป็นสัตว์โลกประเภทเดียวที่มีอารมฌ์ขัน’ 

 

เมื่อรวมสองแนวคิด เข้ากับสิ่งที่พบเห็นกันในปัจจุบัน อาจสรุปได้ว่า ‘มนุษย์ ดูจะเป็นสัตว์โลกประเภทเดียวที่หัวเราะเยาะความมีเหตุและผล’  

อย่างไรก็ตาม ในบางสถานการณ์ มนุษย์กลับเลือกที่จะแยกอารมณ์ความรู้สึกออกจากเหตุผล ดังเช่น โธมัส เพน ได้ส่งสารอันทรงพลังถึงผู้ปกครองอังกฤษ ที่กดขี่ชาวอาณานิคมอเมริกันไว้ในจุลสารการเมือง ‘Common Sense’ ตีพิมพ์ในปี ค.ศ. 1776 ว่า ‘…เป็นการให้ความเห็นใจกับขนประดับ แต่ไม่รับรู้ถึงเรือนร่างของนกที่กำลังจะหมดลม’  

 

เรอเน เดการ์ต นักปรัชญาชาวฝรั่งเศส สมัยฟื้นฟูศิลปะวิทยาการเจ้าของวลีอันโด่งดัง ‘I Think …Therefore I Am)’ หรือ ‘ฉันคิด..ดังนั้น ฉันจึงดำรงอยู่’ เป็นผู้บุกเบิกลัทธิเหตุผล และวิธีพิสูจน์ทางคณิตศาสตร์ เพื่อแสวงหาตรรกะความเชื่อมโยง และคำอธิบายอันเป็นกุญแจไขปัญหาต่างๆ

แนวคิดดังกล่าวสนับสนุนความเชื่อที่ว่า มนุษย์เป็นสิ่งมีชีวิตที่ใช้เหตุผล ขณะที่อารมณ์นั้นเป็นส่วนเกิน มีความสลับซับซ้อน คลุมเครือ ขาดความชัดเจน นำไปสู่ความรู้สึกอึดอัดที่ต้องคอยค้นหาความหมาย อารมณ์จึงควรถูกจำกัดเพื่อสร้างเหตุผล ด้วยการใช้เหตุผล ทำให้มนุษย์ฉลาด และมีวิวัฒนาการดังเช่นทุกวันนี้ ถ้าขาดความสามารถในการใช้เหตุและผล มนุษย์คงไม่ต่างจากสัตว์เดรัจฉาน ที่ทำตามสัญชาตญาณและความรู้สึกเท่านั้น 

 

ผู้ที่คัดค้านแนวคิดดังกล่าว เช่น อันโทนิโอ ดามาซิโอ นักสรีรวิทยาชาวอเมริกัน-โปรตุเกส แย้งว่า ‘มนุษย์ไม่ใช่เครื่องจักรแห่งความคิดที่มีความรู้สึก แต่มนุษย์คือเครื่องจักรแห่งความรู้สึกที่มีความคิด’ และอารมณ์ก็มีส่วนอย่างมากในกระบวนการตัดสินใจของมนุษย์  ดังนั้นเราไม่ควรพยายามแยกร่างกายออกจากจิตใจ หรือ แยกความคิดออกจากความรู้สึก ดามาซิโอ เชื่อว่าอารมณ์ความรู้สึกมีส่วนช่วยสร้างวัฒนธรรมและวิวัฒนาการของมนุษย์ผ่านการแปลงความรู้สึกจากส่วนลึกภายในให้กลายเป็นบทกวี ดนตรี และงานศิลปะต่างๆ

 

อารมณ์ความรู้สึกเป็นสิ่งที่จับต้องไม่ได้ แต่ถ้าขาดไปมนุษย์ก็จะเป็นเสมือนหุ่นยนต์ที่สามารถเล่าโศกนาฏกรรมที่เกิดขึ้นกับตนเองได้อย่างเรียบเฉย ราวกับเป็นเพียงผู้สังเกตการณ์เท่านั้น ในมุมมองของ มาร์วิน มินสกี  นักวิทยาศาสตร์คอมพิวเตอร์ หนึ่งในผู้บุกเบิกระบบปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI  เชื่อว่า ถ้าเราสามารถเติมอารมณ์และความรู้สึกให้กับเครื่องจักรกลได้ มนุษย์กับเครื่องจักรกลก็จะไม่มีความแตกต่างกัน เพราะแท้จริงแล้วมนุษย์เปรียบเสมือนเครื่องจักรกลที่มี ‘ปัญญา’ ซึ่งเกิดจากการทำงานร่วมกันของชิ้นส่วนที่ ‘ไม่มีปัญญา’ หลายๆ ชิ้นมาประกอบกัน

 

ทุกวันนี้เครื่องจักรกล หรือหุ่นยนต์ ได้รับการพัฒนาให้สามารถคิดวิเคราะห์ รวมทั้งจำแนกสิ่งต่างๆได้ดีกว่ามนุษย์ มีการเรียนรู้ที่จะทำความเข้าใจได้ด้วยตนเอง รวมทั้งหุ่นยนต์แต่ละตัวยังสามารถทำงานร่วมกันได้ หุ่นยนต์ฮิวแมนนอยด์ หรือหุ่นยนต์เสมือนมนุษย์ที่ได้รับการพูดถึงกันมาก คือ ออพติมัส ได้รับการพัฒนาโดยบริษัทเทสลา ของ อีลอน มัสก์ ติดตั้งชิปปัญญาประดิษฐ์ สามารถทำงานที่อันตราย งานที่ซ้ำซากจำเจและน่าเบื่อหน่ายแทนมนุษย์ได้เกือบทุกอย่าง อย่างไรก็ตาม ออพติมัส ยังไม่สามารถบรรลุความใฝ่ฝันสูงสุดของนักวิทยาศาสตร์ คือ ความสามารถในการแสดงออก และรับรู้อารมณ์ความรู้สึกได้เช่นเดียวกับมนุษย์ 

 

อารมณ์นั้นเกี่ยวข้องกับสภาวะนามธรรม จึงสามารถอธิบายได้ด้วยหลักปรัชญาและจิตวิทยามากกว่าจะอธิบายด้วยระบบตัวเลขฐานสอง (0 และ 1) ที่คอมพิวเตอร์เข้าใจ การสร้างการรู้จำอารมณ์ของเครื่องจักกล จะต้องมีการดึงเอารูปแบบที่มีความหมายจากข้อมูลสัญญาณที่เก็บรวบรวมไว้ ผ่านกระบวนการเรียนรู้ของเครื่อง (Machine Learning) ในหลากหลายมิติ เช่น การรู้จำคำพูด การประมวลผลภาษาธรรมชาติ การตรวจจับการแสดงออกทางสีหน้าท่าทาง ศักยภาพการแสดงออกทางอารมณ์ของเครื่องจักรกลสมัยใหม่ยังจำกัดอยู่ที่การตรวจจับรูปหน้า และวิเคราะห์ลักษณะการวางตัวของอวัยวะต่างๆ บนใบหน้า 

 

รวมทั้งการประมวลผลการใช้ภาษาเพื่อนำมาจับคู่กับสภาพอารมณ์ที่ควรจะเป็นของมนุษย์ เช่น เฟสบุ๊ค สร้างอัลกอริทึ่มตรวจจับความผิดปกติทางอารมณ์จากโพสต์ของผู้ใช้ ซึ่งอาจแสดงถึงความเสี่ยงที่ผู้ใช้จะกระทำอันตรายต่อตัวเองไปจนถึงฆ่าตัวตาย 

 

ความก้าวหน้าขึ้นไปอีกขั้นเป็นผลงานของกลุ่มนักวิจัยจาก MIT Computer Science and Artificial Intelligence Laboratory (CSAIL) ได้พัฒนา ‘EQ-Radio’ อุปกรณ์ตรวจจับความรู้สึกของมนุษย์ด้วยสัญญาณไวไฟ โดยวัดการเปลี่ยนแปลงเพียงเล็กน้อยจากการหายใจ และจังหวะการเต้นของหัวใจ อุปกรณ์นี้มีความเที่ยงตรงถึง 87% ในการตรวจจับความรู้สึกตื่นเต้น มีความสุข โกรธ หรือเศร้า เป็นการปูทางสำหรับเทคโนโลยีในอนาคตที่จะติดตามและวิเคราะห์สภาวะอารมณ์ต่างๆ ได้อย่างแม่นยำมากขึ้น รวมทั้งการสร้างหุ่นยนต์ ที่สามารถรับรู้อารมณ์ของสิ่งเร้าภายนอก เช่น หุ่นยนต์สัตว์เลี้ยงที่สามารถรับรู้อารมณ์ของผู้เลี้ยง และตอบสนองได้อย่างสมจริงมากยิ่งขึ้น

 

แมรี เชลลีย์ นักเขียนอังกฤษ เจ้าของนวนิยายแฟรงเกนสไตน์ เคยกล่าวไว้ว่า ‘ไม่มีใครเลือกทำชั่วเพราะมันเป็นความชั่วหรอก  เขาแค่เข้าใจไปว่า มันนำไปสู่ความสุขของความดีที่เขาแสวงหาต่างหาก’  ถ้านักวิทยาศาสตร์สามารถสร้างเครื่องจักรที่มีอารมณ์ความรู้สึก (The Emotion Machine) ได้สำเร็จ การตีความสภาวะนามธรรมที่แตกต่างกันระหว่างความดี - ความชั่ว คงปราศจากความคลุมเครือ สามารถแยกความถูกผิดได้ชัดเจน เช่นเดียวกับระบบตัวเลขฐานสอง