นายแพทย์สุนทร สุนทรชาติ ผู้อำนวยการสำนักอนามัยกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า สถานการณ์การติดเชื้อโควิด-19 ระลอกใหม่ในประเทศไทย ยังคงมีแนวโน้มการระบาดที่รุนแรง และพบว่ามีเด็กจำนวนมากที่ติดเชื้อโควิด-19 โดยพบเด็กอายุต่ำกว่า 1 ปี มีอัตราการป่วยและติดเชื้อที่สูง ฉะนั้นจึงมีกิจกรรม “การสร้างเสริมภูมิคุ้มกันป้องกันโควิด 19 ในเด็กเล็ก” ดำเนินงานของหน่วยงานภาครัฐเพื่อส่งเสริมคุณภาพเด็กไทยในการเข้าถึงวัคซีน
โดยเฉพาะวัคซีนป้องกันโควิด-19 ซึ่งวัคซีนไฟเซอร์ ฝาแดง สายพันธุ์ Omicron XBB.1.5 ที่ได้รับมอบจากสมาคมโรคติดเชื้อในเด็กแห่งประเทศไทย จำนวน 3,000 โดส ภายในเดือนสิงหาคมนี้ มีแผนส่งมอบวัคซีนในเดือนสิงหาคมนี้ และพร้อมให้บริการในกลุ่มเด็กอายุ 6 เดือนถึง 4 ปี ในศูนย์บริการสาธารณสุข กรุงเทพมหานคร ทั้ง 69 แห่ง โดยมีทีมกุมารแพทย์ รวมทั้งบุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุขให้ความรู้กับประชาชน พร้อมเฝ้าสังเกตอาการไม่พึงประสงค์หลังได้รับบริการอย่างใกล้ชิดเป็นอย่างน้อย 30 นาที เพื่อความปลอดภัยสูงสุดของเด็ก และลดความกังวลของผู้ปกครอง
ทั้งนี้ ยังได้เร่งทำการสื่อสารประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนทั่วไป รวมถึงผู้ปกครอง ได้มีความเข้าใจ และเชื่อมั่นในวัคซีนโควิด 19 ในกลุ่มเด็กอายุ 6 เดือนถึง 4 ปี ที่ผู้ปกครองอาจมีความกังวลเป็นอย่างมาก ซึ่งการฉีดวัคซีนจะช่วยลดอาการป่วยหนัก และช่วยลดการแพร่เชื้อไปยังครอบครัว จึงอยากให้ผู้ปกครองรณรงค์ให้บุตรหลานได้เข้ารับวัคซีนเพื่อประโยชน์แก่ครอบครัวของเด็กเองและเพื่อสังคม และหวังว่ากิจกรรมในครั้งนี้จะทำให้เด็ก ๆ ได้รับวัคซีนกันอย่างครอบคลุม เพื่อเป็นการสร้างภูมิต้านทานโรคโควิด 19 และให้เกิดความปลอดภัยทั่วประเทศ
ศาสตราจารย์ แพทย์หญิงกุลกัญญา โชคไพบูลย์กิจ นายกสมาคมโรคติดเชื้อในเด็กแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ปัจจุบันโรคโควิด-19 อยู่ในสถานการณ์การระบาดไม่ได้หายไปไหน และยังคงส่งผลกระทบเป็นวงกว้าง ถึงแม้ว่าตอนนี้ได้กลายเป็นโรคประจำถิ่นไปแล้วแต่ยังคงมีการระบาดอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ทุกคน ทุกเพศ และทุกวัยมีความเสี่ยงที่จะติดเชื้อได้เท่า ๆ กัน และสำหรับเด็กเล็กที่มีอายุต่ำกว่า 5 ปี พบว่ามีการติดเชื้อในอัตราที่สูงกว่าช่วงอายุอื่น ๆ โดยเฉพาะเด็กเล็กที่อายุต่ำกว่า 1 ปี มีอัตราการนอนโรงพยาบาลที่สูงมากหากติดเชื้อโควิด-19
สมาคมโรคติดเชื้อในเด็กแห่งประเทศไทย ในฐานะที่เป็นหน่วยงานศูนย์กลางความรู้ทางด้านวิชาการโรคติดเชื้อเด็กรวมถึงมุ่งเน้นพัฒนาการดูแลรักษา และป้องกันโรคติดเชื้อในเด็ก ยังคงมีความมุ่งมั่นเดินหน้ารณรงค์และให้ความสำคัญกับการสร้างเสริมภูมิคุ้มกันในการป้องกันโรค และลดการเสียชีวิตจากโรคมาอย่างต่อเนื่อง และได้เล็งเห็นความสำคัญของการฉีดวัคซีนในกลุ่มเด็กเล็ก ร่วมมือกับ สำนักอนามัย กรุงเทพมหานคร การดำเนินกิจกรรมดังกล่าวขึ้นมา เพื่อสร้างเสริมภูมิคุ้มกันต่อโรคโควิด-19 ในเด็กเล็ก โดยเฉพาะเด็กที่ไม่เคยได้รับวัคซีนมาก่อน เมื่อเด็กได้รับวัคซีนแล้วแม้ต้องเผชิญการติดเชื้อตามธรรมชาติอาการก็จะไม่รุนแรง และลดการเกิดภาวะแทรกซ้อนจากโรคได้
“สำหรับเด็กที่มีโรคประจำตัว หรืออยู่ในกลุ่มเสี่ยง อาทิ โรคอ้วน โรคทางเดินหายใจเรื้อรัง โรคหัวใจและหลอดเลือด โรคหลอดเลือดสมอง โรคเบาหวาน โรคไตวายเรื้อรัง กลุ่มโรคพันธุกรรม รวมทั้งกลุ่มอาการดาวน์ หรือเด็กที่มีภาวะบกพร่องทางระบบประสาทอย่างรุนแรง แนะนำให้รับวัคซีนโควิด-19 ชนิด Monovalent XBB.1.5 ของ Pfizer BioNTech ในเด็ก 6 เดือน เป็นต้นไป ผู้ปกครองควรป้องกันตนเองและบุตรหลานจากการติดเชื้อโควิด-19 ด้วยการสวมหน้ากากอนามัยเมื่ออยู่ในที่แออัด การหลีกเลี่ยงไปสถานที่คนมาก ๆ การล้างมืออย่างสม่ำเสมอ"
อย่างไรก็ตาม หากติดเชื้อโควิด-19 ขอให้สังเกตอาการอย่างใกล้ชิด และหากมีอาการที่รุนแรง เช่น ไข้สูงเกิน 39 องศาเซลเซียสต่อเนื่อง ควรรีบพาไปพบแพทย์ทันที ทั้งนี้ สามารถฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด 19 ร่วมกับวัคซีนชนิดอื่นได้ โดยไม่มีข้อจำกัดในการเว้นระยะห่างจากวัคซีนชนิดอื่น ๆ รวมถึงสามารถฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ภายในวันเดียวกันกับวัคซีนตามวัยอื่นได้อีกด้วย