23 มกราคม 2567 นายแพทย์เทวัญ ธานีรัตน์ รองอธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก เตือนคนไทยอย่าตื่นตระหนกกรณีที่มีข่าวการแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 อยู่ในขณะนี้ว่า
ปัจจุบันกระทรวงสาธารณสุข โดยกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก แนะนำให้ประชาชนที่ป่วยเป็นโรคโควิด 19 ดูแลสุขภาพตัวเองโดยการหันมาใช้ยาสมุนไพรไทย เช่น ยาฟ้าทะลายโจร ยาแก้ไอมะขามป้อม ยาอมมะแว้ง ซึ่งเป็นยาไทยและสมุนไพร เพื่อลดอาการเจ็บป่วยจากโรคโควิด 19
พร้อมทั้งใช้มาตรการในการป้องกันไม่ให้ผู้อื่นติดเชื้อ เช่น ใช้หน้ากากอนามัยในขณะเป็นหวัด เป็นไข้ ไอ และ จาม ควรใช้ ช้อนกลาง และหมั่นล้างมือ
กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก ยืนยันว่า โรคไข้หวัดจากเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 สามารถใช้ยาฟ้าทะลายโจร ซึ่งเป็นยาสมุนไพรไทยและเป็นยาสามัญประจำบ้านที่อยู่ในบัญชียาหลักแห่งชาติ ช่วยลดอาการเจ็บป่วยได้จริง มีอันตรายน้อยมากต่อทั้งตับและไต สามารถช่วยลดอาการอักเสบจากไข้หวัดที่เกิดจากการติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 ได้
สำหรับเด็กนั้น สามารถรับประทานได้ในขนาดที่มีสารสกัดแอนโดรกราโฟไลด์ 3 - 5 มิลลิกรัม/น้ำหนักตัวเป็นกิโลกรัม โดยปรึกษาแพทย์แผนไทยและเภสัชกร หรือแพทย์แผนปัจจุบันที่มีความรู้ด้านสมุนไพรและสามารถใช้ยาสมุนไพรอื่น เช่น ยาแก้ไอมะขามป้อม ยาอมมะแว้ง เป็นยาสมุนไพรที่นิยมใช้ในกระทรวงสาธารณสุข เพื่อบรรเทาอาการเจ็บป่วยได้
สำหรับ ยาฟ้าทะลายโจร นั้น กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก ได้มีการศึกษาวิจัยในช่วงที่มีการระบาดของโรคไข้หวัด จากเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 โดยลดการอักเสบจากการติดเชื้อไวรัสอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ และลดความรุนแรงจากการเจ็บป่วยได้
ทั้งนี้ อยากแนะนำให้ผู้ที่ติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 ได้หันมาดูแลตนเองโดยใช้ยาสมุนไพรฟ้าทะลายโจร ทั้งชนิดผงบดหรือสารสกัด ที่มีขายอยู่ในร้านขายยาทั่วไป ซึ่งยาฟ้าทะลายโจรที่มีมาตรฐานนั้นจะถูกขึ้นทะเบียนจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา
ขอให้ซื้อยาเฉพาะที่ระบุปริมาณของสารสกัดฟ้าทะลายโจรชัดเจนอยู่ในฉลาก และในท้องตลาด มีปริมาณสารสกัดแอนโดรกราโฟไลด์ ขนาดตั้งแต่ 10 มิลลิกรัม 20 มิลลิกรัม หรือ ขนาด 60 มิลลิกรัมแล้วแต่ชนิด
หากไม่ทราบสามารถปรึกษาแพทย์แผนไทย เภสัชกรที่มีความรู้ยาสมุนไพร หรือแพทย์ที่มีความรู้สมุนไพรได้ และหากรับประทานยาตามที่แนะนำแล้วอาการไม่ดีขึ้น จึงควรไปพบแพทย์เพื่อขอรับคำปรึกษา หรือการรักษาต่อไป และระหว่างที่ป่วย แนะนำให้ดื่มน้ำอุ่นเวลาเจ็บคอ และควรดื่มน้ำไม่น้อยกว่า 1.5 ถึง 2 ลิตรต่อวัน และควรนอนพักผ่อนให้เพียงพอ โดยให้นอนก่อนเวลา 3 ทุ่ม ตลอดระยะเวลาที่เจ็บป่วย
สำหรับเด็กเล็กและผู้ที่มีโรคประจำตัว เช่น ผู้ป่วยมะเร็ง โรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง หรือผู้ที่ต้องรับประทานยาจากการเจ็บป่วยด้วยโรคเรื้อรังอื่น ๆ หรือผู้สูงอายุที่ไม่แข็งแรงร่างกายอ่อนแอ นั้นควรปรึกษาแพทย์ก่อนที่จะใช้ยาสมุนไพรดังกล่าว