วัคซีนโควิด 2 สายพันธุ์ป้องกันเชื้อ XBB ไม่ได้ เพราะอะไร เช็คเลยที่นี่

23 มิ.ย. 2566 | 04:23 น.

วัคซีนโควิด 2 สายพันธุ์ป้องกันเชื้อ XBB ไม่ได้ เพราะอะไร เช็คเลยที่นี่มีคำตอบ เหตุเป็นการพัฒนามาจากสายพันธุ์อู่ฮั่น และเพิ่มสายพันธุ์ BA.5 หมอยงเผยการติดเชื้อซ้ำไม่ใช่เรื่องแปลก

โควิดวันนี้ล่าสุดยังคงมีการแพร่ระบาดอย่างต่อเนื่อง โดยสายพันธุ์ที่ระบาดเวลานี้ก็คือ XBB

ล่าสุดนพ.ยง ภู่วรวรรณ หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยาคลินิก ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ระบุว่า   

โควิด 19 สายพันธุ์ที่พบ XBB เกือบทั้งหมด การติดเชื้อช้ำไม่ใช่เรื่องแปลก 

หมอยงบอกว่า การระบาดของโควิดเป็นไปตามฤดูกาล ในฤดูฝนตามที่เคยคาดการณ์ไว้และคงจะระบาดไปจนถึงเดือนกรกฎาคม สิงหาคม และจะเริ่มลดลงในเดือน กันยายน 

สายพันธุ์ที่พบขณะนี้เกือบทั้งหมดเป็นสายพันธุ์ XBB โดยพบว่าสายพันธุ์ดาวดวงแก้ว XBB.1.16 เป็นสายพันธุ์หลัก 

จากข้อมูลการศึกษาพบว่าภูมิต้านทานที่เกิดจากวัคซีนที่ฉีดในอดีต โดยเริ่มต้นจากสายพันธุ์อู่ฮั่น 

และเพิ่มสายพันธุ์ BA.5 ในวัคซีน 2 สายพันธุ์ ภูมิต้านทานที่เกิดขึ้นไม่สามารถป้องกันการติดเชื้อสายพันธุ์ XBB ได้ 

การติดเชื้อซ้ำอย่างที่เคยกล่าวแล้ว การศึกษา 250 คน พบว่าความรุนแรงครั้งที่ 2 น้อยกว่าครั้งแรกมาก 

วัคซีนโควิด 2 สายพันธุ์ป้องกันเชื้อ XBB ไม่ได้

การจะติดเชื้อครั้งที่ 3 ก็ไม่ใช่เรื่องแปลก เช่นเดียวกับไข้หวัดใหญ่เมื่อสายพันธุ์เปลี่ยนไป ก็เป็นใหม่ได้อีก 

โควิด 19 ก็เช่นเดียวกันเมื่อสายพันธุ์เปลี่ยนไป ก็เป็นได้อีกแต่ภูมิคุ้มกันหลัก พอช่วยปกป้องลดความรุนแรงลงแต่ไม่ได้ป้องกันการติดเชื้อ

ในอนาคตการให้วัคซีนจะต้องมีการคาดคเน ไว้ล่วงหน้าแบบไข้หวัดใหญ่ 

ว่าสายพันธุ์ที่จะระบาดจะเปลี่ยนแปลงไปในทิศทางใด เช่นขณะนี้องค์การอนามัยโลกแนะนำบริษัทวัคซีนให้ผลิตวัคซีนที่เป็นสายพันธุ์ XBB 

แต่ในกระบวนการผลิต ต้องใช้เวลาไม่ต่ำกว่า 6 เดือน เมื่อถึงเวลานั้นไวรัสก็จะเปลี่ยนแปลงสายพันธุ์ไปอีก การวิ่งไล่จับก็จะไม่ทัน 
อย่างไรก็ตาม หมอยงบอกว่า มีเรื่องดีที่ทำการศึกษาคือ อัตราการกลายพันธุ์ ถ้าเปรียบเทียบในระยะแรกของโควิด 19 อัตราการกลายพันธุ์เร็วและสูงมาก 

แต่พอมาถึงในช่วงของปีที่ผ่านมาอัตราการกลายพันธุ์ ช้าลง อยู่ในอัตรา 1.2 - 6.7 ตำแหน่งต่อพันต่อปี 

ไวรัสนี้มีทั้งหมด 3 หมื่นตำแหน่ง เมื่อดูอัตรานี้แล้วจะใกล้เคียงไข้หวัดใหญ่ A 

ดังนั้นแนวโน้มของไวรัสนี้ ทุกอย่างก็คงจะใกล้เคียงกับไข้หวัดใหญ่ A ในอนาคต ถ้าได้รับเชื้อสายพันธุ์ที่เปลี่ยนไปก็มีโอกาสเป็นได้อีก