โรคปอดอักเสบ เป็นได้ทุกเพศทุกวัย เช็คสาเหตุ อาการที่ควรรู้

25 ก.พ. 2566 | 20:10 น.

โรคปอดอักเสบ หรือ ปอดบวม เป็นได้ทุกเพศทุกวัย แนะวิธีสังเกตอาการ ความเสี่ยงพร้อมการป้องกันตัวเองให้ห่างไกลจากโรคนี้

จากกรณีที่มีรายงานข่าว นักร้องลูกทุ่งหมอลำสาว "นิตยา สารคาม" เสียชีวิตด้วยโรคปอดอักเสบในวัยเพียง 37 ปี กลายเป็นเรื่องน่าเศร้าที่เกิดขึ้นกับวงการบันเทิงไทย ในขณะเดียวกันก็กระตุ้นให้เราต้องหันมาใส่ใจดูแลรักษาสุขภาพ รวมถึงการทำความรู้จักกับโรคนี้กันให้มากขึ้น 

โรคปอดอักเสบ หรือที่ทั่วไปเรียกกันว่า "ปอดบวม" เป็นการอักเสบของเนื้อปอดซึ่งส่วนใหญ่เกิดจากการติดเชื้อโดยเชื้อโรคที่เข้าสู่ปอด ทำให้เกิดการอักเสบของถุงลมปอดและเนื้อเยื่อโดยรอบ

การรับเชื้อสามารถเกิดได้หลายวิธี เช่น การไอ จาม หรือหายใจรดกัน การสำลัก การแพร่กระจายของเชื้อตามกระแสโลหิต เป็นต้น

พบบ่อยในช่วงฤดูฝนและฤดูหนาว สามารถพบได้ทุกเพศทุกวัย ในวัยเด็กเล็กอายุต่ำกว่า 2 ปี ผู้ที่มีอายุ 65 ปีขึ้นไป และผู้ที่มีภาวะภูมิต้านทานต่ำ บางรายการติดเชื้ออาจรุนแรงและทำให้ผู้ป่วยเสียชีวิตได้

สาเหตุของปอดอักเสบ

1.การติดเชื้อ

เป็นสาเหตุที่พบได้บ่อยที่สุด การติดเชื้อชนิดใดขึ้นกับ กลุ่มอายุ อาชีพ โรคประจำตัว ภาวะภูมิคุ้มกัน ประวัติการเดินทางต่างประเทศ การสูบบุหรี่ และสภาพแวดล้อม เช่น เชื้อไวรัส ได้แก่ เชื้อ Respiratory Syncytial Virus (RSV), เชื้อไข้หวัดใหญ่ (Influenza), เชื้อโคโรนา (Corona) เชื้อแบคทีเรีย ได้แก่ เชื้อ Streptococcus Pneumoniae, เชื้อ Haemophilus Influenzae, เชื้อ Atypical bacteria และเชื้อราซึ่งพบน้อย

2.ไม่ได้เกิดจากการติดเชื้อ

สารที่ก่อให้เกิดการระคายเคืองต่อระบบทางเดินหายใจ เช่น ฝุ่น ควัน สารเคมีที่ระเหยได้ นอกจากนี้การใช้ยาบางชนิด เช่น ยาเคมีบำบัด และยาที่ใช้ควบคุมการเต้นของหัวใจบางชนิด เป็นต้น

อาการของปอดอักเสบ

  • มีไข้ เหงื่อออก หนาวสั่น ระยะเฉียบพลัน
  • ไอมีเสมหะ
  • หายใจเร็ว หายใจหอบ เหนื่อย
  • เจ็บหน้าอกขณะหายใจหรือไอ
  • คลื่นไส้ อาเจียน หรือท้องเสีย

ผู้สูงอายุ

  • อาจมีอาการซึม ความรู้สึกสับสน อุณหภูมิร่างกายต่ำกว่าปกติ

เด็กเล็ก

  • อาจมีอาการท้องอืด อาเจียน ซึม ไม่ดูดนมหรือน้ำ

ทั้งนี้ อาการจะแตกต่างกันไปในผู้ป่วยแต่ละราย ขึ้นอยู่กับชนิดของเชื้อโรคที่ทำให้เกิดการติดเชื้อ อายุ และสุขภาพโดยรวมของผู้ป่วย

การปฏิบัติตัวเพื่อหลีกเลี่ยงการเป็นปอดอักเสบ

1.หลีกเลี่ยงการอยู่ในสถานที่แออัด หรือสถานที่ที่มีมลภาวะเป็นพิษ

  • ควันบุหรี่ ควันไฟ ควันจากท่อไอเสียรถยนต์
  • อากาศที่หนาวเย็น เป็นต้น

2.ไม่สูบบุหรี่ ไม่ดื่มสุรา

3.ไม่ใช้ของส่วนตัวร่วมกับผู้อื่น

  • ผ้าเช็ดหน้า
  • ผ้าเช็ดตัว
  • แก้วน้ำ เป็นต้น

4. เมื่อเป็นหวัด หรือไข้หวัดใหญ่อย่าปล่อยทิ้งไว้ ควรรักษาแต่เนิ่นๆ

5.การดูแลสุขอนามัยส่วนตัว

  • หมั่นล้างมือเป็นประจำ
  • ใช้ช้อนกลาง
  • การใส่หน้ากากอนามัยเมื่อออกนอกบ้าน

6.รับประทานอาหารที่มีประโยชน์

7.ออกกำลังกาย

8.นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ

9.รักษาร่างกายให้อบอุ่นอยู่เสมอ

การป้องกันปอดอักเสบ

ฉีดวัคซีนป้องกันโรค แพทย์แนะนำให้ผู้ที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยง ได้แก่ วัยเด็กเล็กอายุต่ำกว่า 2 ปี ผู้ที่มีอายุ 65 ปีขึ้นไป และผู้ที่มีภาวะภูมิต้านทานต่ำหรือมีโรคประจำตัวบางอย่าง

การฉีดวัคซีนที่ให้ผลในการลดอัตราการเกิดโรคปอดอักเสบจากการติดเชื้อ ได้แก่ วัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ (Flu vaccine) และวัคซีนป้องกันโรคปอดอักเสบ (Pneumococcal vaccine)

สำหรับป้องกันการติดเชื้อ Streptococcus pneumonia หรือที่เรียกกันว่าเชื้อนิวโมคอคคัสโดยวัคซีนนี้มี 2 ชนิด คือ

1.ชนิดคอนจูเกต ป้องกันเชื้อนิวโมคอคคัสได้ 13 ชนิด (PCV 13)

2.ชนิดโพลีแซคคาไรด์ ป้องกันเชื้อนิวโมคอคคัสได้ 23 ชนิด (PPSV 23) เป็นต้น โปรแกรมในการฉีดวัคซีนควรอยู่ใต้คำแนะนำของแพทย์

ข้อมูลจากโรงพยาบาลวิภาวดี