คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล ม.มหิดล สร้างประวัติศาสตร์ครั้งใหม่ในฐานะโรงพยาบาลรัฐแห่งแรกในเอเชียแปซิฟิกที่นำ RISE with SAP Private Cloud Edition มาประยุกต์ใช้เพื่อยกระดับระบบสารสนเทศใน “โครงการพัฒนาระบบสารสนเทศ Siriraj EPR Project” ด้วยเทคโนโลยีดิจิทัลสู่แพลตฟอร์มบนคลาวด์ การพัฒนาครั้งนี้ครอบคลุมการติดตั้ง SAP S/4HANA และ SAP SuccessFactors เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการองค์กร ทั้งด้าน บัญชี การเงิน งบประมาณ ระบบจัดซื้อและบริหารสินค้าคงคลัง และทรัพยากรบุคคล
รวมถึงการใช้ SAP Analytics Cloud (SAC) และ SAP Datasphere เพื่อการบริหารจัดการด้านการวางแผนและการติดตามและการจัดการข้อมูลสนับสนุนการตัดสินใจของผู้บริหาร
• เฟสแรกใช้เวลา 12 เดือน โดยเริ่มจากการ ติดตั้ง SAP S/4HANA และ Go Live สำเร็จเมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2567
• เฟสสองซึ่งมุ่งเน้นการปรับปรุงประสิทธิภาพการดำเนินงานด้านการบริหารจัดการด้านการวางแผนและการติดตามและการจัดการข้อมูลสนับสนุนการตัดสินใจของผู้บริหาร ให้ดียิ่งขึ้นด้วย SAC คาดว่าจะแล้วเสร็จในเดือนมีนาคม 2568
ความสำเร็จนี้เกิดจากความร่วมมือของทีมงานกว่า 300-400 คน จากศิริราชและ IT One ผู้เชี่ยวชาญด้านไอทีและดิจิทัลโซลูชันครบวงจร ซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุนระหว่าง เอคเซนเชอร์ และ SCG ผ่านประสบการณ์การทำงานร่วมกันมาอย่างยาวนานกว่า 23 ปี ความเชี่ยวชาญของ IT One จะช่วยให้การเปลี่ยนผ่านทางดิจิทัลครั้งนี้ไม่ใช่เพียงแค่การอัปเกรดระบบเท่านั้น แต่เป็นการพัฒนาเชิงกลยุทธ์ เพื่อเสริมสร้างพันธกิจในการเป็นโรงพยาบาลที่มุ่งมั่นในการให้บริการคุณภาพสูงสุด และ ยังมี SAP ผู้นำด้านระบบ ERP ระดับโลก ที่ได้นำนวัตกรรมต่างๆ มาถ่ายทอดและประยุกต์ใช้กับศิริราช
การเปลี่ยนผ่านสู่ระบบคลาวด์ครั้งนี้เปรียบเสมือนการวางรากฐานเพื่อรองรับการขยายธุรกิจ เพิ่มความคล่องตัวในการปรับเปลี่ยน และรองรับนวัตกรรมต่างๆ ได้อย่างทันท่วงที ผลลัพธ์ที่เห็นได้อย่างชัดเจนภายหลังการเปิดใช้งาน (Go Live) โครงการ
• ประสิทธิภาพการทำงานของทีมงานที่เพิ่มสูงขึ้น ลดภาระงาน Manual และเพิ่มเวลาให้บุคลากรไปปฏิบัติงานอื่นๆเพื่อเป็นประโยชน์กับองค์กรในอนาคต
• ประสิทธิภาพของการเข้าถึงข้อมูลที่เพิ่มสูงขึ้น เนื่องจากระบบที่ออกแบบใหม่มีกระบวนการบริหารจัดการข้อมูล ที่เชื่อมโยงกันอย่างมีประสิทธิภาพ ส่งผลให้การดึงข้อมูลเพื่อจัดทำรายงานมีความถูกต้อง แม่นยำ และรวดเร็ว (Real-time)
• เพิ่มความยืดหยุ่นในการทำงานด้วยการเข้าถึงระบบได้จากทุกที่
ศ. นพ.อภิชาติ อัศวมงคลกุล คณบดีคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล ม.มหิดล กล่าวว่า “ศิริราชมุ่งมั่นสู่การเป็น Intelligent Enterprise ที่พร้อมรับมือกับการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีและความต้องการของผู้ป่วยในอนาคต การปรับเปลี่ยนครั้งนี้สะท้อนความมุ่งมั่นในการเป็นสถาบันการแพทย์ชั้นนำระดับโลก
โดย “โครงการพัฒนาระบบสารสนเทศ Siriraj EPR Project” เป็นส่วนหนึ่งของแผนกลยุทธ์ด้านไอที “5 Key IT Strategic Pillars” เพื่อรองรับการขยายตัวของศิริราชทั้ง 4 หน่วยงาน ได้แก่ คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล (ประกอบด้วย การศึกษา วิจัย วิชาการ โรงพยาบาลศิริราช กองทุนประกันสังคม กองทุนหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า คลินิกพิเศษ) ศูนย์การแพทย์กาญจนาภิเษก ศูนย์วิจัยคลินิก (SiCRES) และศูนย์บริการสุขภาพผู้สูงอายุศิริราช-สมุทรสาคร เพื่อสร้างมาตรฐานใหม่ให้กับโรงพยาบาลรัฐในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก และขับเคลื่อนศิริราชไปสู่การเป็น “สถาบันการแพทย์ของแผ่นดิน ที่สร้างองค์ความรู้และบริการอันเป็นประโยชน์ต่อระบบสุขภาพระดับโลก ได้อย่างแท้จริง”
เสาหลักสำคัญ 5 ด้านของแผนกลยุทธ์ด้าน IT ของคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล ม.มหิดล
1. การสนับสนุนนวัตกรรมในการค้นคว้าวิจัยทางการแพทย์: ส่งเสริมการใช้ High Performance Computing (HPC) และเครื่องมือดิจิทัลที่ทันสมัยสาหรับงานวิจัย
2. การส่งมอบการดูแลสุขภาพขั้นสูง: เพิ่มประสิทธิภาพของการวินิจฉัยโรคและการรักษาด้วย AI และการแพทย์ทางไกล
3. การสร้างโครงสร้างพื้นฐานด้านไอทีระดับโลก: ปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานด้วย Hybrid Cloud และ IoT
4. การยกระดับความปลอดภัยของข้อมูล: ใช้ Zero-trust security และมาตรฐานสากลเพื่อปกป้องข้อมูลสำคัญ
5. การพัฒนาศักยภาพบุคลากร: ฝึกอบรมบุคลากรในเทคโนโลยีใหม่ ๆ เช่น AI, Cloud Computing และ Cybersecurity
และนอกจากนี้ศิริราชยังคงมุ่งเน้นสานต่อวิสัยทัศน์ที่มุ่งมั่นจะเป็นผู้นำด้านการแพทย์ระดับโลกโดยได้ร่วมมือกับบริษัท IT One ทำ Digital Transformation ระบบบริหารจัดการโรงพยาบาล (HIS-Hospital Information System) เพื่อให้การบริหารจัดการระบบคนไข้ มีประสิทธิภาพ ครบวงจร ตามมาตรฐานสากล และยกระดับคุณภาพการบริการให้ดียิ่งขึ้น รวมถึงเพื่อให้สอดคล้องกับวิสัยทัศน์การเป็นสถาบันการแพทย์ระดับสากลและรองรับความต้องการของผู้ป่วยที่เพิ่มขึ้น”
นางสาวกุลวิภา ปิยวัฒนเมธา กรรมการผู้จัดการประจำภูมิภาคอินโดจีน บริษัท SAP กล่าวว่า “การใช้ RISE with SAP S/4HANA Cloud ของโรงพยาบาลศิริราชถือเป็นก้าวสำคัญในการพัฒนาระบบการดูแลสุขภาพของภาครัฐในประเทศไทยและสนับสนุนการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลในวงกว้างของประเทศซึ่งโซลูชันของ SAP จะช่วยปรับปรุงการดำเนินงานและการตัดสินใจที่ต้องขับเคลื่อนด้วยข้อมูลช่วยให้โรงพยาบาลสามารถเข้าใกล้วิสัยทัศน์บริการด้านสุขภาพที่ยั่งยืนและยกระดับนวัตกรรมทางการแพทย์ด้วยการปรับปรุงระบบให้ทันสมัยและถือเป็นตัวอย่างเชิงบวกที่แสดงให้เห็นว่านวัตกรรมดิจิทัลสามารถขับเคลื่อนการปรับปรุงด้านการดูแลสุขภาพได้อย่างไรและเสริมความแข็งแกร่งให้กับตำแหน่งของประเทศไทยในฐานะผู้นำระดับภูมิภาคในด้านนี้ด้วย”
ทางด้าน นางสาวปฐมา จันทรักษ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัทเอคเซนเชอร์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ตั้งแต่ ปี 2545 ได้นำ SAP ซึ่งเป็นเทคโนโลยีระดับโลก มาประยุกต์ใช้ในโรงพยาบาลรัฐขนาดใหญ่เป็นแห่งแรกของประเทศ และในครั้งนี้นับเป็นอีกก้าวสำคัญในการเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัลของศิริราช โดยการย้ายระบบ Infrastructure จาก On Premise สู่ On Cloud ด้วย RISE with SAP Private Cloud Edition
ความสำเร็จในครั้งนี้ เป็นความภาคภูมิใจของบริษัท IT One ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของ เอคเซนเชอร์ โดย เอคเซนเชอร์มุ่งมั่นพัฒนาบุคลากรผู้เชี่ยวชาญตลอดมา เพื่อให้ IT One เป็นผู้นำด้านเทคโนโลยี SAP ในประเทศไทย และเป็นศูนย์กลางองค์ความรู้ด้าน Healthcare ของ เอคเซนเชอร์ในประเทศไทย โดยจะรวบรวมองค์ความรู้ด้าน Healthcare จากทั่วโลกมาปรับใช้ให้เหมาะสมกับบริบทของวงการแพทย์ไทย เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด พร้อมนำเทคโนโลยีใหม่ๆ มาขยายงานด้านดิจิทัลให้กับธุรกิจโรงพยาบาลในประเทศไทย และรองรับการเป็น Medical Hub ในระดับภูมิภาค
ความร่วมมือนี้นับเป็นก้าวสำคัญในการเปลี่ยนผ่านสู่การเป็นโรงพยาบาล ที่เป็นผู้นำทางด้านการนำเทคโนโลยีมาใช้ ซึ่งจะช่วยให้ศิริราชสามารถตอบสนองต่อความต้องการของระบบสาธารณสุขในยุคปัจจุบัน และสร้างมาตรฐานใหม่ให้กับโรงพยาบาลรัฐ”