ไบโอรอว์ พัฒนานวัตกรรมออกซิเจนกระป๋อง เจาะกลุ่มคนรักสุขภาพ

20 ม.ค. 2566 | 01:36 น.

ไบโอรอวร์ สตาร์ทอัพสัญชาติไทย เปิดตัวผลิตภัณฑ์ออกซิเจนบูสเตอร์ ออกซิเจนเสริมบรรจุกระป๋อง มาตรฐานเยอรมัน เจาะกลุ่มคนรักสุขภาพ นักกีฬา พร้อมรุกตลาดในประเทศ และส่งออก ตั้งเป้ายอดขาย 200 ล้านบาทปีนี้

นายรติ ไอร้อนทราย กรรมการผู้จัดการ และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไบโอรอว์ จำกัด เปิดเผยว่า ไบโอรอว์ เป็นธุรกิจสตาร์ทอัพ ที่ผลิตและจำหน่ายออกซิเจนเสริมบรรจุกระป๋อง ภายใต้แบรนด์ “ออกซิเจนบูสเตอร์ (Oxygen Booster)” เริ่มวางจำหน่ายเมื่อเดือนพฤษภาคม ปี 2565 ที่ผ่านมา ถือว่าได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีเนื่องจากเป็นผลิตภัณฑ์ที่เป็นนวัตกรรมใหม่ในตลาด

นายรติ ไอร้อนทราย กรรมการผู้จัดการ และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไบโอรอว์ จำกัด

“การพัฒนาผลิตภัณฑ์ออกซิเจนเสริมบรรจุกระป๋องในครั้งนี้ ได้รับแรงบันดาลใจมาจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่หนักมากในช่วงเดือนกรกฎาคม2564 ทำให้ผู้คนทั่วโลกเห็นความสำคัญของออกซิเจนเสริม ในประเทศไทยเริ่มมีการนำเข้าออกซิเจนกระป๋องจากจีน และไต้หวัน ขณะที่ในสหรัฐอเมริกามีผลิตภัณฑ์ดังกล่าวมาแล้ว 15 ปี แต่ยังไม่แพร่หลาย เราจึงมองเป็นโอกาสในการทำตลาดในประเทศไทย เพราะถือเป็น Blue Ocean ที่น่าสนใจ”

สำหรับการพัฒนาผลิตภัณฑ์ออกซิเจนบูสเตอร์ (Oxygen Booster) บริษัทมีความตั้งใจจะผลิตสินค้าให้มีมาตรฐานเทียบเท่าระดับสากล บริษัทฯจึงเลือกใช้ออกซิเจนจากประเทศเยอรมัน ซึ่งเป็นผู้ผลิตออกซิเจนทางการแพทย์ระดับโลก ที่มีประสบการณ์ยาวนานกว่า 130 ปี โดยบรรจุในโรงงานที่ได้รับมาตรฐาน GMP จากคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) และได้รับการรับรองคุณภาพของออกซิเจนภายในกระป๋องจาก  Atlantic Analytical Laboratory ประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นห้องแล็บที่ได้รับการยอมรับในระดับสากล Oxygen Booster ถือเป็นออกซิเจนเสริมแบรนด์เดียวในตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่มีใบรับรองคุณภาพออกซิเจน

นางสาวอารยา บัลลังก์ ผู้จัดการทั่วไป บริษัท ไบโอรอว์ จำกัด 

นางสาวอารยา บัลลังก์ ผู้จัดการทั่วไป บริษัท ไบโอรอว์ จำกัด กล่าวว่า สิ่งที่สำคัญที่สุดของออกซิเจนเสริม คือความสะดวกในการใช้งาน ขณะที่ร่างกายต้องการออกซิเจนแบบฉับพลันทันใด ออกซิเจนบูสเตอร์ (Oxygen Booster) จึงได้ออกแบบมาให้มีฝาครอบเป็นหน้ากากในตัวที่สะดวกในการใช้ เพียงแค่นิ้วกด และออกแบบโค้งเว้าให้รับกับรูปหน้า โดยบริษัทได้ยื่นจดสิทธิบัตรเพื่อคุ้มครองการออกแบบบรรจุภัณฑ์ไว้แล้ว

“ตลาดนี้ ถือเป็นตลาดใหม่ เหมือนตลาดน้ำดื่มเมื่อ 10 ปีที่ผ่านมา ในอนาคตอาจมีคู่แข่งเกิดขึ้นในตลาด แต่รูปแบบดีไซน์ซึ่งเป็นหนึ่งในปัจจัยหลักที่ลูกค้าเลือกซื้อ ไม่สามารถลอกเลียนแบบได้ ขณะที่บรรจุภัณฑ์เราเลือกใช้วัสดุอลูมิเนียมชนิดพิเศษทนแรงดันได้สูง ทำให้เราสามารถบรรจุออกซิเจนได้มากกว่า และลูกค้าไม่ต้องกังวลเรื่องการเกิดสนิมภายในกระป๋อง” นางสาวอารยากล่าว

 

นอกจากนี้ ชิ้นส่วนพลาสติกที่เป็นส่วนประกอบทั้งหมดเป็นชนิดเดียวกับที่ใช้บรรจุอาหาร ( Food Grade) ทั้งนี้บริษัทตั้งเป้าสร้างตลาดออกซิเจนเสริมในไทย ให้เป็นสินค้าสำหรับทุกคน ทุกเพศ ทุกวัย เหมือนน้ำดื่ม คือ แม้จะเป็นสิ่งที่สามารถได้มาโดยไม่มีค่าใช้จ่ายได้ แต่ขณะเดียวกันก็มีทางเลือกให้สามารถซื้อมาใช้เสริมในชีวิตประจำวัน เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีกว่าเดิมได้เช่นกัน

 

ที่ผ่านมา บริษัทเน้นทำการตลาดผ่านบุคคลที่มีชื่อเสียงในกลุ่มผู้รักการออกกำลังกาย และแวดวงกีฬา อาทิ มิสเตอร์ ราฟาเอล มอนเตโร ผู้เชี่ยวชาญด้าน Fitness Training ของทีมชาติไทยและพรีเมียร์ลีก สโมสรฟุตบอลราชบุรี เอฟซี  นักปั่นจักรยานทีมชาติไทย  นักกีฬาฮอกกี้น้ำแข็งทีมชาติไทย นักมวย  และสำนักงานการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ เป็นต้น โดยในปีนี้เตรียมขยายตัวเข้าสู่กีฬา แบดมินตันเทนนิส จักรยาน และวิ่ง

ไบโอรอว์  พัฒนานวัตกรรมออกซิเจนกระป๋อง เจาะกลุ่มคนรักสุขภาพ

สำหรับในปี 2566 บริษัทฯวางแผนที่จะขยายตลาดไปสู่คุณแม่ตั้งครรภ์ ผู้สูงอายุและผู้ที่มีอาการหลังโควิด (Post Covid) ซึ่งส่วนใหญ่จะมีภาวะหายใจไม่อิ่ม ส่งผลให้เหนื่อยง่าย และไม่กระปรี้กระเปร่า และท้ายที่สุดคือทุกคนที่ต้องสวมหน้ากากอนามัยออกจากบ้านกันทุกวัน ไม่ว่าจะสวมหน้ากากเพราะป้องกันโควิด หรือป้องกัน PM2.5 หากสวมหน้ากากฯ นานเกินกว่า 30 นาที จะเริ่มรู้สึกมึนงง ไม่สดชื่นเนื่องจากได้รับออกซิเจนไม่เต็มที่ หากมีระดับออกซิเจนที่ดีอยู่ตลอดเวลา ก็จะเป็นพื้นฐานสำคัญของสุขภาพที่ดีระดับเซลล์ โดยเฉพาะเซลล์สมอง ดังนั้นการมีออกซิเจนเสริมที่สามารถหยิบใช้ได้สะดวก ตลอดเวลา จึงเป็นอนาคตที่กำลังจะเกิดขึ้นในไม่ช้า

 

นอกจากนี้ บริษัทฯมีแผนขยายตลาดในต่างประเทศที่พัฒนาแล้ว ซึ่งผู้บริโภคมีความเข้าใจถึงประโยชน์ของออกซิเจนค่อนข้างแพร่หลาย โดยในช่วงแรกจะส่งออกสินค้าไปวางจำหน่ายในประเทศเกาหลี เยอรมัน และตะวันออกกลาง ซึ่งบริษัทฯ มีพันธมิตรในประเทศเหล่านี้ นอกจากนี้ยังเตรียมเข้าไปขยายตลาดในกลุ่มอาเซียนอีกด้วย โดยปีนี้ บริษัทจะทำการตลาดอย่างจริงจังผ่านโซเชียลมีเดีย และกลุ่มโรงพยาบาล โดยตั้งเป้ายอดขายไว้ 200 ล้านบาท แบ่งเป็นตลาดในประเทศ60% และตลาดส่งออก 40%

 

ปัจจุบัน ออกซิเจนบูสเตอร์ ว่างจำหน่ายที่ Supersports, Ari Shop, CCM Thailand บนเว็บไซด์ www. oxygen-booster.com และร้านค้าออนไลน์ทุกแพตฟอร์มหลักทั้ง Shopee, Lazada และ Line My Shop