KEY
POINTS
“การกินคลีน” กลายเป็นเทรนด์ที่ได้รับความนิยมแพร่หลายทั่วโลก รวมถึงในสังคมไทยด้วย แต่ในขณะที่หลายคนเชื่อว่าการเลือก “อาหารคลีน” ไขมันต่ำ โปรตีนสูง จะช่วยให้รูปร่างดีและน้ำหนักลดลง คำถามที่กลับเกิดขึ้นคือ “ทำไมทั้งที่กินคลีน ออกกำลังกายสม่ำเสมอ แต่น้ำหนักยังไม่ลด หรือบางรายกลับเพิ่มขึ้น?”
แม้แนวโน้มการบริโภคของคนไทยจะเริ่มเปลี่ยนไปสู่การกินเพื่อสุขภาพ แต่สถิติกลับชี้ว่าอัตราการเกิดโรคอ้วน เบาหวาน และกลุ่มอาการเมตาบอลิก (Metabolic Syndrome) ยังคงเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ปรากฏการณ์นี้ทำให้ผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพเริ่มชี้ชัดว่า การลดน้ำหนักไม่ใช่แค่สมการพลังงานเข้า-ออกอีกต่อไป แต่คือ “การรักษาสมดุลของฮอร์โมน” ที่ควบคุมทั้งความหิว ความอิ่ม และการสะสมไขมันในร่างกาย
นพ.พิจักษณ์ วงศ์วิศิษฎ์ แพทย์เวชศาสตร์ป้องกันและฟื้นฟูสุขภาพ W9 Wellness Center อธิบายว่า การควบคุมน้ำหนักที่ยั่งยืนขึ้นอยู่กับสมดุลของฮอร์โมนหลายชนิด เช่น อินซูลิน คอร์ติซอล เอสโตรเจน และเลปติน ฮอร์โมนเหล่านี้มีบทบาทโดยตรงต่อระบบเผาผลาญและความอยากอาหาร หากเสียสมดุล ต่อให้เลือกกินคลีนหรือออกกำลังกายสม่ำเสมอ น้ำหนักก็ไม่ลดลงตามคาด
กับดักสำคัญอยู่ที่ “อาหารคลีนสำเร็จรูป” ซึ่งแม้จะถูกโปรโมตว่าเป็นตัวเลือกสุขภาพ แต่หลายชนิดกลับเต็มไปด้วยสารให้ความหวานเทียมและสารแต่งเติมที่กระทบต่อระบบฮอร์โมนและจุลินทรีย์ในลำไส้ ส่งผลต่ออินซูลินและการเผาผลาญโดยตรง นอกจากนี้ยังมีปัจจัยแฝงจากบรรจุภัณฑ์
เช่น สาร BPA หรือ Phthalates จากพลาสติก ที่จัดเป็น “สารก่อโรคอ้วน” (Obesogens) และรบกวนการทำงานของฮอร์โมนเพศและไทรอยด์ งานวิจัยล่าสุดยังพบว่าไมโครพลาสติกที่ปนเปื้อนในอาหารอาจกระตุ้นการอักเสบเรื้อรังและทำให้ร่างกายดื้อต่ออินซูลินมากขึ้น
อีกปัจจัยที่ถูกเข้าใจผิดบ่อยคือ “เวย์โปรตีน” ซึ่งแม้จะเป็นแหล่งโปรตีนยอดนิยมในหมู่คนรักสุขภาพ แต่ก็เป็นอาหารแปรรูปที่อาจมีสารเติมแต่ง กระตุ้นการหลั่งอินซูลินได้ไม่ต่างจากคาร์โบไฮเดรตบางชนิด และส่งผลกระทบต่อสมดุลของลำไส้ นำไปสู่อาการท้องอืดหรือการย่อยไม่สมบูรณ์ ขณะเดียวกัน การพึ่งเวย์โปรตีนแทนอาหารธรรมชาติยังทำให้ร่างกายขาดไฟเบอร์ วิตามิน และไขมันดี ซึ่งจำเป็นต่อระบบเผาผลาญ
ฮอร์โมนคอร์ติซอลก็เป็นอีกตัวแปรที่มักถูกมองข้าม คอร์ติซอลทำหน้าที่ตอบสนองต่อความเครียด หากหลั่งสูงเรื้อรัง จะกระตุ้นความอยากอาหาร โดยเฉพาะของหวาน มัน และเค็ม อีกทั้งยังทำให้เกิดภาวะดื้อต่ออินซูลินและสะสมไขมันในช่องท้องเพิ่มขึ้น ปรากฏการณ์นี้เกิดขึ้นบ่อยในคนที่แม้กินน้อยหรือเลือกอาหารคลีน แต่ไม่สามารถลดน้ำหนักได้
“เราพบผู้ป่วยที่เข้ามาปรึกษามากขึ้นในลักษณะกินคลีน ออกกำลังกาย แต่ลดน้ำหนักไม่ได้ สิ่งที่ตรวจพบคือความไม่สมดุลของฮอร์โมน ซึ่งการดูแลสุขภาพในยุคนี้ต้องไม่หยุดแค่การนับแคลอรี แต่ต้องเข้าใจผลของอาหารที่มีต่อฮอร์โมนและระบบเผาผลาญโดยตรง”
แนวทางที่ยั่งยืนคือการกลับไปสู่พื้นฐาน เช่น เลือกรับประทานอาหารสดใหม่ หลีกเลี่ยงอาหารแปรรูปหรือแช่แข็ง เลือกใช้บรรจุภัณฑ์ที่ปลอดภัย เช่น กล่องแก้วแทนพลาสติก รับประทานอาหารให้หลากหลาย ครบทั้งโปรตีน ไขมันดี และคาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อน ลดการพึ่งอาหารเสริมสำเร็จรูปมากเกินไป และให้ความสำคัญกับคุณภาพการนอน การจัดการความเครียด และการออกกำลังกายอย่างเหมาะสม
ทั้งนี้แนะนำว่าผู้ที่แม้กินคลีนแต่ยังมีปัญหาน้ำหนักเกิน ควรตรวจสมดุลฮอร์โมนและเมตาบอลิซึมเชิงลึก เพื่อวางแผนการดูแลสุขภาพแบบเฉพาะบุคคล โปรแกรม “Personalized Weight & Hormone Balance” จึงถูกออกแบบมาเพื่อแก้โจทย์นี้โดยตรง ช่วยคืนสมดุลฮอร์โมนและจัดการน้ำหนักได้อย่างตรงจุด