24 มิถุนายน 2568 นายอนุกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่คณะกรรมการสุขภาพจิตแห่งชาติ (คณะกรรมการฯ) เสนอดังนี้ 1. เห็นชอบต่อ (ร่าง) แผนพัฒนาสุขภาพจิตแห่งชาติ ฉบับที่ 1 (พ.ศ. 2561 – 2580) ระยะที่ 2 (พ.ศ. 2566 – 2570) (ร่างแผนพัฒนาสุขภาพจิตฯ ระยะที่ 2 (พ.ศ. 2566 – 2570) และ 2. เห็นชอบและมอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องนำแผนพัฒนาสุขภาพจิต ระยะที่ 2 (พ.ศ. 2566 – 2570) ไปดำเนินการตามขั้นตอนที่เกี่ยวข้อง
สำหรับแผนสุขภาพจิตแห่งชาติ (พ.ศ. 2561 - 2580) เป็นแผนระยะยาว 20 ปี จึงมีความจำเป็นต้องทบทวนเป็นระยะทุก 5 ปี เพื่อปรับปรุงการดำเนินงานให้สอดรับกับสถานการณ์ด้านสุขภาพจิตที่เปลี่ยนแปลงไปโดยที่ผ่านมากรมสุขภาพจิตได้จัดทำแผนพัฒนาสุขภาพจิตแห่งชาติฉบับที่ 1 (พ.ศ. 2561 - 2580) (แผนพัฒนาสุขภาพจิตฯ) ระยะที่ 1 (พ.ศ. 2561 - 2565) แต่ปัจจุบันสิ้นสุดระยะเวลาดำเนินงานแล้ว กรมสุขภาพจิตจึงได้จัดทำ (ร่าง) แผนพัฒนาสุขภาพจิตฯระยะที่ 2 (พ.ศ. 2566 - 2570) มาเพื่อเสนอคณะรัฐมนตรีในครั้งนี้
ส่วนร่างแผนพัฒนาสุขภาพจิตฯ ระยะที่ 2 (พ.ศ. 2566 -2570) มีจุดมุ่งหมายเพื่อพัฒนาและขับเคลื่อนงานสุขภาพจิตและจิตเวชให้มีประสิทธิภาพประกอบด้วย 4 ยุทธศาสตร์ เช่นเดียวกับแผนพัฒนาสุขภาพจิตฯ ระยะที่ 1 (พ.ศ. 2561 – 2565) ได้แก่
ยุทธศาสตร์ที่ 1 ส่งเสริมและป้องกันปัญหาสุขภาพจิตตลอดช่วงชีวิต
ยุทธศาสตร์ที่ 2 พัฒนาระบบบริการสุขภาพจิตและจิตเวช
ยุทธศาสตร์ที่ 3 ขับเคลื่อนและผลักดันมาตรการทางกฎหมาย สังคม และสวัสดิการ
ยุทธศาสตร์ที่ 4 พัฒนาวิชาการและกลไกการดำเนินงานด้านสุขภาพจิตแต่มีการปรับปรุงแนวทางการดำเนินงานในบางประเด็น เช่น ปรับกลุ่มเป้าหมายจาก คนไทย เป็น คนทุกช่วงวัย เพื่อให้ครอบคลุมประชากรทุกคนที่อยู่ในประเทศไทย และปรับเพิ่มกลยุทธ์ในแต่ละยุทธศาสตร์ (เดิมในแผนระยะที่ 1 ไม่ได้มีการกำหนดกลยุทธ์) เพื่อให้มีแนวทางการดำเนินงานที่ชัดเจนยิ่งขึ้น
ทั้งนี้ สภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ในคราวประชุมครั้งที่ 10/2566 เมื่อวันที่ 4 ตุลาคม 2566 และคณะกรรมการสุขภาพจิตแห่งชาติในคราวประชุมครั้งที่ 1/2567 เมื่อวันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2567 ได้มีมติเห็นชอบร่างแผนพัฒนาสุขภาพจิตฯ ระยะที่ 2 (พ.ศ. 2566 – 2570) ด้วยแล้ว