6 มิถุนายน 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะประธานกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (บอร์ด สปสช.) ได้มีมติเห็นชอบ "ข้อเสนอการปรับปรุงรายการและอัตราจ่ายการตรวจวินิจฉัยและรักษาทางเวชศาสตร์นิวเคลียร์และอุปกรณ์สำหรับรักษาผู้ป่วยเด็กโรคหัวใจ" ในระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (บัตรทอง 30 บาท) เพื่อให้เป็นไปตามความเหมาะสมในการดูแลผู้ป่วยและการจ่ายชดเชยค่าบริการในปัจจุบัน
นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ในส่วนของการรักษาทางเวชศาสตร์นิวเคลียร์นั้น เนื่องด้วย สปสช. ได้รับหนังสือจากสมาคมเวชศาสตร์นิวเคลียร์แห่งประเทศไทยลงวันที่ 21 พ.ย. 2566 เรื่อง ขอปรับราคาการตรวจวินิจฉัยและรักษาทางเวชศาสตร์นิวเคลียร์ จำนวน 54 รายการ โดยแบ่งเป็น การปรับอัตราจ่าย จำนวน 43 รายการ และเพิ่มรายการ 11 รายการ ซึ่งทาง สปสช. ได้มีการหารือร่วมกับสมาคมเวชศาสตร์นิวเคลียร์ฯ เพื่อข้อมูลเพิ่มเติมและได้นำเข้ากระบวนการพิจารณาในส่วนของหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ
ทั้งนี้ จากการพิจารณาโดยคณะกรรมการและคณะทำงานชุดต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง อาทิ คณะทำงานกำหนดอัตราค่าใช้จ่ายเพื่อบริการสาธารณสุขในระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ, คณะกรรมการพัฒนาระบบและกำกับคุณภาพมาตรฐานบริการสาธารณสุข และคณะกรรมการควบคุมคุณภาพและมาตรฐานที่ได้ร่วมดำเนินการอย่างรอบคอบ โดยมีการเปรียบเทียบข้อมูลรายการตรวจวินิจฉัยและรักษาทางเวชศาสตร์นิวเคลียร์
นอกจากนี้ให้ยกเลิกรายการตรวจวินิจฉัยและรักษาทางเวชศาสตร์นิวเคลียร์ จำนวน 3 รายการ และมอบ สปสช. จัดทำประกาศ หลักเกณฑ์ วิธีการและเงื่อนไขอัตราการจ่ายฯ เพื่อแจ้งให้ทราบต่อไป ทั้งนี้ขอให้ทำความเข้าใจกับหน่วยบริการให้ชัดเจนในรายการที่ยกเลิกว่าที่มีรายการใดสามารถทดแทนให้บริการผู้ป่วยได้ เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบต่อผู้ป่วย
นพ.จเด็จ ธรรมธัชอารี เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) กล่าวต่อว่า ส่วนอุปกรณ์สำหรับรักษาผู้ป่วยเด็กโรคหัวใจนั้น ในวันนี้บอร์ด สปสช. ได้เห็นชอบตามที่สมาคมโรคหัวใจเด็ก (แห่งประเทศไทย) ได้มีหนังสือถึง สปสช. ลงวันที่ 25 พฤศจิกายน 2567 ในส่วนการปรับราคาเบิกจ่ายอุปกรณ์สำหรับรักษาผู้ป่วยเด็กโรคหัวใจ จำนวน 2 รายการ ได้แก่
โดยในส่วนงบประมาณที่ต้องใช้เพิ่มขึ้นประมาณ 1.5 ล้านบาท จะนำมาจากงบประมาณที่ สปสช. ได้ทำการทบทวนอุปกรณ์หมวดหัวใจของปีงบประมาณ 2568 ที่ประหยัดได้ จำนวน 384,158,240 บาท นำมาเพิ่มเติมในส่วนนี้ทดแทน
มติบอร์ด สปสช. วันนี้ เป็นผลมาจากการมีส่วนร่วมโดยสมาคมวิชาชีพทางการแพทย์ที่มีข้อเสนอต่อ สปสช. เพื่อให้เกิดการให้บริการรักษาที่เป็นผลดีต่อผู้ป่วยสิทธิบัตรทอง 30 บาท โดย สปสช. มีความยินดีเป็นอย่างยิ่ง และได้นำเข้าสู่กระบวนการพิจารณาจากคณะกรรมการและคณะทำงานชุดต่าง ๆ อย่างรอบด้าน สะท้อนการมีส่วนร่วมของภาคส่วนต่าง ๆ เพื่อเป้าหมายการดูแลผู้ป่วยในระบบบัตรทองร่วมกัน" เลขาธิการ สปสช. กล่าว