สปสช. เห็นชอบปรับอัตราจ่าย-เพิ่มเติมรายการบริการ "บัตรทอง"

06 มิ.ย. 2568 | 07:45 น.

บอร์ด สปสช. เห็นชอบข้อเสนอ สมาคมเวชศาสตร์นิวเคลียร์ฯ ปรับปรุงอัตราจ่ายค่าบริการ 15 รายการ ไฟเขียวข้อเสนอสมาคมโรคหัวใจเด็กฯ ปรับราคาเบิกจ่ายอุปกรณ์รักษาผู้ป่วยเด็ก

6 มิถุนายน 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะประธานกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (บอร์ด สปสช.) ได้มีมติเห็นชอบ "ข้อเสนอการปรับปรุงรายการและอัตราจ่ายการตรวจวินิจฉัยและรักษาทางเวชศาสตร์นิวเคลียร์และอุปกรณ์สำหรับรักษาผู้ป่วยเด็กโรคหัวใจ" ในระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (บัตรทอง 30 บาท) เพื่อให้เป็นไปตามความเหมาะสมในการดูแลผู้ป่วยและการจ่ายชดเชยค่าบริการในปัจจุบัน
 
นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ในส่วนของการรักษาทางเวชศาสตร์นิวเคลียร์นั้น เนื่องด้วย สปสช. ได้รับหนังสือจากสมาคมเวชศาสตร์นิวเคลียร์แห่งประเทศไทยลงวันที่ 21 พ.ย. 2566 เรื่อง ขอปรับราคาการตรวจวินิจฉัยและรักษาทางเวชศาสตร์นิวเคลียร์ จำนวน 54 รายการ โดยแบ่งเป็น การปรับอัตราจ่าย จำนวน 43 รายการ และเพิ่มรายการ 11 รายการ ซึ่งทาง สปสช. ได้มีการหารือร่วมกับสมาคมเวชศาสตร์นิวเคลียร์ฯ เพื่อข้อมูลเพิ่มเติมและได้นำเข้ากระบวนการพิจารณาในส่วนของหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ 

ทั้งนี้ จากการพิจารณาโดยคณะกรรมการและคณะทำงานชุดต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง อาทิ คณะทำงานกำหนดอัตราค่าใช้จ่ายเพื่อบริการสาธารณสุขในระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ, คณะกรรมการพัฒนาระบบและกำกับคุณภาพมาตรฐานบริการสาธารณสุข และคณะกรรมการควบคุมคุณภาพและมาตรฐานที่ได้ร่วมดำเนินการอย่างรอบคอบ โดยมีการเปรียบเทียบข้อมูลรายการตรวจวินิจฉัยและรักษาทางเวชศาสตร์นิวเคลียร์

สปสช. เห็นชอบปรับอัตราจ่าย-เพิ่มเติมรายการบริการ \"บัตรทอง\" รวมถึงอัตราค่าบริการกับทางกรมบัญชีกลาง จึงเห็นควรให้มีการปรับปรุงอัตราจ่ายการตรวจวินิจฉัยและรักษาทางเวชศาสตร์นิวเคลียร์ จำนวน 15 รายการ ในจำนวนนี้ 9 รายการให้เป็นราคาเท่ากับกรมบัญชีกลาง และอีก 6 รายการให้เป็นราคาตามที่ทางสมาคมฯ นำเสนอ โดยคาดว่า จะใช้งบประมาณเพิ่มขึ้นจำนวน 23.45 ล้านบาท ใช้งบประมาณจากการประหยัดทบทวนราคายาของปีงบประมาณ 2568 จำนวน 170 ล้านบาท

นอกจากนี้ให้ยกเลิกรายการตรวจวินิจฉัยและรักษาทางเวชศาสตร์นิวเคลียร์ จำนวน 3 รายการ และมอบ สปสช. จัดทำประกาศ หลักเกณฑ์ วิธีการและเงื่อนไขอัตราการจ่ายฯ เพื่อแจ้งให้ทราบต่อไป ทั้งนี้ขอให้ทำความเข้าใจกับหน่วยบริการให้ชัดเจนในรายการที่ยกเลิกว่าที่มีรายการใดสามารถทดแทนให้บริการผู้ป่วยได้ เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบต่อผู้ป่วย

นพ.จเด็จ ธรรมธัชอารี เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) กล่าวต่อว่า ส่วนอุปกรณ์สำหรับรักษาผู้ป่วยเด็กโรคหัวใจนั้น ในวันนี้บอร์ด สปสช. ได้เห็นชอบตามที่สมาคมโรคหัวใจเด็ก (แห่งประเทศไทย) ได้มีหนังสือถึง สปสช. ลงวันที่ 25 พฤศจิกายน 2567 ในส่วนการปรับราคาเบิกจ่ายอุปกรณ์สำหรับรักษาผู้ป่วยเด็กโรคหัวใจ จำนวน 2 รายการ ได้แก่

  • ขดลวดสำหรับปิดรูรั่ว (Coil) จากราคา 4,000 บาท เพิ่มเป็น 5,500 บาทต่อชุด
  • สายสวนที่มีลูกโป่งสำหรับขยายรูผนังกั้นห้องหัวใจเอเตรียม (Balloon Atrial Septostomy Catheter) จากราคา 6,000 บาท เป็น 14,175 บาทต่อชุด

โดยในส่วนงบประมาณที่ต้องใช้เพิ่มขึ้นประมาณ 1.5 ล้านบาท จะนำมาจากงบประมาณที่ สปสช. ได้ทำการทบทวนอุปกรณ์หมวดหัวใจของปีงบประมาณ 2568 ที่ประหยัดได้ จำนวน 384,158,240 บาท นำมาเพิ่มเติมในส่วนนี้ทดแทน 

มติบอร์ด สปสช. วันนี้ เป็นผลมาจากการมีส่วนร่วมโดยสมาคมวิชาชีพทางการแพทย์ที่มีข้อเสนอต่อ สปสช. เพื่อให้เกิดการให้บริการรักษาที่เป็นผลดีต่อผู้ป่วยสิทธิบัตรทอง 30 บาท โดย สปสช. มีความยินดีเป็นอย่างยิ่ง และได้นำเข้าสู่กระบวนการพิจารณาจากคณะกรรมการและคณะทำงานชุดต่าง ๆ อย่างรอบด้าน สะท้อนการมีส่วนร่วมของภาคส่วนต่าง ๆ เพื่อเป้าหมายการดูแลผู้ป่วยในระบบบัตรทองร่วมกัน" เลขาธิการ สปสช. กล่าว