จากการประชุมคณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (บอร์ด สปสช.) ที่มีนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะประธานบอร์ด สปสช. ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุม บอร์ด สปสช. กรณีเงินบำรุงโรงพยาบาลติดลบและมีการระบุอ้างถึงสาเหตุมาจากสิทธิประโยชน์ในระบบบัตรทอง 30 บาทที่บริหารจัดการโดย สปสช. และการจ่ายชดเชยค่าบริการที่ไม่สะท้อนต้นทุนค่าบริการนั้นเพื่อให้เกิดความชัดเจนนั้น
มีการนำเสนอในที่ประชุมบอร์ด สปสช. และเห็นควรตั้ง "คณะทำงานลงพื้นที่ตรวจสอบปัญหาข้อร้องเรียนต่าง ๆ" ทั้งต้นทุนการรักษา อัตราการจ่าย การกรอกข้อมูลการเบิกจ่ายที่ไม่ถูกต้อง โดยปัญหาจะถูกนำมากำหนดขอบเขตการตรวจสอบให้กับการจัดจ้างบริษัทเอกชนซึ่งเป็นกลุ่ม "บิ๊กโฟร์" 4 บริษัทตรวจสอบการเงินระดับโลกและให้รายงานต่อ บอร์ดสปสช. ภายใน 3 เดือน
ทั้งนี้ นายสมศักดิ์ กล่าวย้ำว่า จากการตรวจสอบข้อมูลเงินบำรุงโรงพยาบาลสังกัด สป.สธ. พบว่า มีโรงพยาบาลที่ขาดทุน และเงินบำรุงติดลบจริง ๆ เพียง 13 แห่ง ซึ่งมั่นใจว่า สาเหตุขาดทุน ไม่ใช่จากระบบบัตรทอง 30 บาท แต่อาจมาจากเรื่องอื่น ซี่งกำลังตรวจสอบอยู่ แต่ยืนยันว่าตัวเลขการขาดทุนไม่ได้น่าตกใจ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ประชุม บอร์ด สปสช. มีการนำเสนอข้อมูลที่เป็นข่าวโดยเฉพาะรพ.รัฐขาดทุนหนัก มี 218 แห่ง เงินบำรุงติดลบ และ สปสช.จ่ายชดเชยการรักษาผู้ป่วยในต่ำกว่าต้นทุน
ทั้งนี้ มีข้อมูลว่า สปสช.เตรียมเสนอจ่ายในอัตรา 7,100 บาทต่อค่า AdjRW จาก 8,350 บาทต่อค่า AdjRW โดยที่ประชุม บอร์ดสปสช. ย้ำว่า ไม่เป็นความจริง โดยการจ่ายเงินผู้ป่วยในยังคงอยู่ที่ 8,350 บาทต่อค่าAdjRW
นพ.นิธิวัชร์ แสงเรือง ผู้ช่วยเลขาธิการ สปสช. ได้นำเสนอข้อมูลจากกองเศรษฐกิจสุขภาพและหลักประกันสุขภาพ กระทรวงสาธารณสุข ถึงเงินบำรุงของรพ.ในสังกัด สป.สธ. พบว่า เงินบำรุงในระบบหลังหักหนี้สิน ณ ไตรมาส 2 ปีงบประมาณ 2568 ยังคงเหลือมากกว่า 46,000 ล้านบาทจาก รพ.ในสป.สธ. 902 แห่ง โดยข้อมูล รพ.ที่เงินบำรุงหลังหักหนี้สินเป็นลบอยู่ที่ 218 แห่ง เงินบำรุงหลังหักหนี้สินติดลบ 5,718.27 ล้านบาท ทุนสำรองสุทธิ 10,389.03 ล้านบาท
ส่วนเงินบำรุงหลักหักหนี้สินเป็นบวกอยู่ที่ 684 แห่งจาก 902 แห่ง เงินบำรุงหลังหักหนี้สินยังเหลือ 52,216.63 ล้านบาท ทุนสำรองสุทธิเหลือ 103,008.75 ล้านบาทแต่เมื่อตรวจสอบข้อมูลทางบัญชีต่าง ๆ แล้วจะพบว่า โรงพยาบาลที่ทุนสำรองสุทธิติดลบ อยู่ที่ 13 แห่ง โดยเงินบำรุงหลักหักหนี้สินจะติดลบอยู่ที่ 1,426.58 ล้านบาท ทุนสำรองสุทธิติดลบที่ 148.41 ล้านบาท
ส่วนรพ.ทุนสำรองสุทธิเป็นบวก อยู่ที่ 889 แห่ง มีเงินบำรุงหลักหักหนี้สินรวมกว่า 47,924.94 ล้านบาท ทุนสำรองสุทธิเหลือ 113,546.19 ล้านบาท
ทั้งนี้ รายได้ภาพรวมของรพ.สังกัดสป.สธ.จากกองทุนหลักประกันสุขภาพฯเพิ่มขึ้นจากปีงบประมาณ 2567 กว่า 1,400 ล้านบาทเทียบไตรมาส 1-3 และผลการดำเนินงานภาพรวมของ รพ.สป.สธ. ปีงบประมาณ 2568 ยังคงมีรายได้มากกว่ารายจ่าย 13,000 ล้านบาท
พร้อมกันนี้ในที่ประชุมยังนำเสนอวิเคราะห์ข้อมูลการเงินการคลัง กองเศรษฐกิจสุขภาพและหลักประกันสุขภาพ กระทรวงสาธารณสุข โดยนำเสนอข้อมูล รพ.13 แห่งที่มีปัญหาเงินบำรุงติดลบดังกล่าว ทั้งนี้ มีรายงานว่า ในวันศุกร์ที่ 6 มิถุนายนนี้ นายสมศักดิ์เตรียมนำทีมลงพื้นที่ รพ.ขอนแก่น เพื่อตรวจสอบปัญหา รพ.ขาดทุนว่า เกิดจากสาเหตุใดและจะตรวจสอบในรพ.อื่น ๆ จนครบทั้ง 13 แห่งสำหรับรายชื่อโรงพยาบาลทุนสำรองสุทธิและเงินบำรุงหลังหักหนี้สินติดลบสูงสุด 13 แห่ง ประกอบด้วย
1. โรงพยาบาลขอนแก่น
2. โรงพยาบาลละงู
3. โรงพยาบาลบางแพ
4. โรงพยาบาลอุ้มผาง
5. โรงพยาบาลยุพราชธาตุพนม
6. โรงพยาบาลหางดง
7. โรงพยาบาลดอกตำใต้
8. โรงพยาบาลฟากท่า
9. โรงพยาบาลดอยหล่อ
10. โรงพยาบาลมะนัง
11. โรงพยาบาลสะบ้าย้อย
12. โรงพยาบาลสามเงา
13. โรงพยาบาลบุ่งคล้า