บอร์ด สปสช. เคาะงบเหมาจ่ายรายหัวปี 2570 เป็น 5.2 พันบาท พร้อมเสนอ ครม.พิจารณา

01 ธ.ค. 2568 | 10:47 น.
อัปเดตล่าสุด :01 ธ.ค. 2568 | 10:52 น.

บอร์ด สปสช. เห็นชอบเสนอ ครม. “ข้อเสนองบกองทุนบัตรทองปี 2570 วงเงิน 3.23 แสนล้าน” ดูแลคนไทยผู้มีสิทธิกว่า 47 ล้านคน เข้าถึงการรักษาและบริการสาธารณสุขอย่างครอบคลุมและทั่วถึง เผย “งบเหมาจ่ายรายหัว” เพิ่มเป็น 5,299 บาทต่อประชากร พร้อมปรับอัตรางบผู้ป่วยในเพิ่มเป็น 10,000 บาทต่อ AdjRW

KEY

POINTS

  • บอร์ด สปสช. มีมติเห็นชอบข้อเสนองบประมาณกองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (บัตรทอง) ประจำปีงบประมาณ 2570
  • กำหนดงบเหมาจ่ายรายหัวสำหรับผู้มีสิทธิจำนวน 47.17 ล้านคน ในอัตรา 5,299 บาทต่อคน
  • วงเงินงบประมาณรวมทั้งสิ้น 323,291.35 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้า 57,995.77 ล้านบาท
  • เตรียมเสนอข้อเสนอดังกล่าวให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาอนุมัติตามขั้นตอนต่อไป

1 ธันวาคม 2568 จากการประชุมคณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (บอร์ด สปสช.) โดยมี นพ.วิชัย โชควิวัฒน กรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ทำหน้าที่เป็นประธานการประชุมครั้งนี้ ด้วย นายพัฒนา พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะประธานกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ติดภารกิจไม่สามารถร่วมประชุมได้

วันนี้ที่ประชุมได้มีมติเห็นชอบ “ข้อเสนองบประมาณกองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (บัตรทอง 30 บาท) ปีงบประมาณ 2570” พร้อมมอบหมายให้ สปสช. เสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาตามมาตรา 39 แห่ง พ.ร.บ.หลักประกันสุขภาพแห่งชาติ พ.ศ. 2545 ต่อไป ทั้งนี้ หากรัฐบาลมีการประกาศนโยบายที่เกี่ยวข้องกับหลักประกันสุขภาพแห่งชาติเพิ่มเติม สามารถปรับงบประมาณรองรับได้ตามความเหมาะสม

นพ.วิชัย กล่าวว่า ในวันนี้บอร์ด สปสช. ได้เห็นชอบข้อเสนองบกองทุนบัตรทอง วงเงินรวม 323,291.35 ล้านบาท โดยรวมเงินเดือน ซึ่งเพิ่มขึ้นจากปีงบประมาณที่ผ่านมาจำนวน 57,995.77 ล้านบาท (ร้อยละ 21.86) โดยเป็นงบเหมาจ่ายรายหัวจำนวน 5,299 บาท/ประชากรผู้มีสิทธิ หรือเพิ่มขึ้นจำนวน 1,123.01 บาท/ประชากรผู้มีสิทธิ อย่างไรก็ดี เมื่อหักเงินเดือนภาครัฐในระบบปกติจำนวน 74,968.64 ล้านบาทแล้ว จะเป็นจำนวนงบประมาณที่ให้ สปสช. บริหารทั้งสิ้น 248,322.72 ล้านบาท เพื่อดูแลประชากรผู้มีสิทธิจำนวน 47.17 ล้านคน

ในส่วนงบค่าบริการนอกงบเหมาจ่ายรายหัว ภาพรวมทั้งหมดอยู่ที่จำนวน 73,377.52 ล้านบาท โดยเสนอเพิ่มเติมจำนวน 6,409.81 ล้านบาท สำหรับรายการบริการ ดังนี้ ค่าบริการผู้ติดเชื้อเอชไอวีและผู้ป่วยเอดส์จำนวน 4,846.13 ล้านบาท ค่าบริการผู้ป่วยไตวายเรื้อรังจำนวน 17,517.78 ล้านบาท ค่าบริการควบคุม ป้องกัน และรักษาโรคเรื้อรังจำนวน 1,575.12 ล้านบาท ค่าบริการสาธารณสุขเพิ่มเติมสำหรับหน่วยบริการในพื้นที่กันดาร พื้นที่เสี่ยงภัย และพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้จำนวน 1,490.29 ล้านบาท ค่าบริการสาธารณสุขเพิ่มเติมสำหรับการบริการระดับปฐมภูมิและหน่วยนวัตกรรมจำนวน 5,202.88 ล้านบาท

บอร์ด สปสช. เคาะงบเหมาจ่ายรายหัวปี 2570 เป็น 5.2 พันบาท พร้อมเสนอ ครม.พิจารณา

ค่าบริการสาธารณสุขร่วมกับองค์การบริหารส่วนตำบล เทศบาล เมืองพัทยา และกรุงเทพฯ จำนวน 3,022.92 ล้านบาท ค่าบริการสาธารณสุขผู้มีภาวะพึ่งพิงในชุมชนจำนวน 6,051.14 ล้านบาท ค่าบริการสาธารณสุขร่วมกับองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) จำนวน 537.41 ล้านบาท เงินช่วยเหลือเบื้องต้นผู้รับบริการและผู้ให้บริการจำนวน 260.20 ล้านบาท และค่าบริการสร้างเสริมสุขภาพและป้องกันโรคทั่วไปจำนวน 32,833.66 ล้านบาท

 

สำหรับในส่วนกรอบวงเงินสำหรับยา วัคซีน เวชภัณฑ์ อวัยวะเทียม อุปกรณ์ทางการแพทย์ที่จำเป็นตามโครงการพิเศษที่ให้เครือข่ายหน่วยบริการด้านยาและเวชภัณฑ์จัดหาให้ปีงบประมาณ 2570 อาทิ ยาจำเป็น (ยา จ.2 ยา CL ยากำพร้า ยาต้านพิษ) ยาวัณโรค สายสวนหัวใจ ชุดประสาทหูเทียม รากฟันเทียม ถุงทวารเทียม ชุดยางรัดเส้นเลือดขอดในหลอดเลือดดำ ยาเอชไอวี น้ำยาล้างไตผ่านช่องท้อง วัคซีน ถุงยางอนามัย และยาฮอร์โมนเพื่อยืนยันเพศสภาพ เป็นต้น รวมเป็นงบประมาณจำนวน 12,253.81 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจำนวน 278.90 จากปีที่ผ่านมา

นพ.จเด็จ ธรรมธัชอารี เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ กล่าวว่า การจัดทำงบประมาณกองทุนบัตรทองปีงบประมาณ 2569 เป็นการดำเนินการภายใต้กรอบรัฐธรรมนูญฯ พ.ศ. 2560 ที่เป็นร่มใหญ่ ร่วมกับยุทธศาสตร์ แผนพัฒนา แผนปฏิรูปประเทศ นโยบายรัฐบาล/รมว.สาธารณสุข พ.ร.บ.หลักประกันสุขภาพแห่งชาติ พ.ศ. 2545 แผนปฏิบัติราชการ สปสช. ฉบับที่ 5 (ทบทวนปี 2568) และผลจากการรับฟังความคิดเห็น เป็นต้น รวมทั้งได้หารือกับหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องอย่างกระทรวงสาธารณสุข เป็นต้น พร้อมคำนึงถึงต้นทุนบริการที่เหมาะสม อัตราเงินเฟ้อ ประชากรที่เปลี่ยนแปลง ปริมาณบริการที่เพิ่มขึ้น การสนับสนุนนโยบายรัฐบาล สิทธิประโยชน์ใหม่ เทคโนโลยีทันสมัยและสิ่งแวดล้อม และเพิ่มคุณภาพบริการให้กับประชาชน โดยมีหลักการจัดทำงบประมาณ โดยประหยัด มีประสิทธิภาพ สะท้อนต้นทุนที่เหมาะสม เพียงพอต่อการเข้ารับบริการของประชาชนผู้มีสิทธิ สนับสนุนนโยบายของรัฐบาลและบอร์ด สปสช. ร่วมสร้างเศรษฐกิจสุขภาพ

เลขาธิการ สปสช. กล่าวต่อว่า ในปีงบประมาณ 2570 มีรายการที่ปรับปรุงการคำนวณ อาทิ ผู้ป่วยนอกใช้ต้นทุนจากการวิเคราะห์ต้นทุน Quick Method ใช้ข้อมูลกระทรวงสาธารณสุข ปี 2565-2567 การปรับต้นทุนบริการผู้ป่วยใน อัตรา 10,000 บาทต่อ AdjRW ผลงานบริการแพทย์แผนไทยที่คาดการณ์เพิ่มขึ้น ผู้ป่วยไตวายเรื้อรังคาดการณ์เพิ่มขึ้น 10,574 ราย เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีบริการใหม่ อาทิ การใช้เครื่องช่วยการเต้นของหัวใจถาวรแบบไร้สายในผู้ป่วยโรคหัวใจเต้นผิดปกติชนิดหัวใจเต้นช้า, บริการดูแลผู้ป่วยประคับประคองในโรงพยาบาล กรณีย้ายจากหอผู้ป่วยวิกฤติ, หัตถการใส่ลิ้นหัวใจเอออร์ติกผ่านสายสวน ชุดประสาทหูเทียมชนิดฝังก้านสมอง นวัตกรรมปัญญาประดิษฐ์ การเอกซเรย์เต้านมด้วยเครื่องแมมโมแกรม และบริการแพทย์ขั้นสูงและนวัตกรรมไทย