KEY
POINTS
14 ตุลาคม 2568 ทพ.อรรถพร ลิ้มปัญญาเลิศ รองเลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ในฐานะโฆษก สปสช.เปิดเผยว่า ขณะนี้ประกาศคณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ เรื่อง การดำเนินงานและการบริหารจัดการกองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติและค่าใช้จ่ายเพื่อบริการสาธารณสุข ประจำปีงบประมาณ 2569 ได้ตีพิมพ์ลงในราชกิจจานุเบกษาและมีผลบังคับใช้เรียบร้อยแล้ว การจัดสรรงบประมาณด้านการรักษาพยาบาลแก่ผู้มีสิทธิบัตรทองและด้านการส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรคแก่คนไทยทุกคนจะจัดสรรงบเพื่อจัดบริการสาธารณสุขตามกรอบที่ประกาศฯ ฉบับนี้กำหนดแนวทางไว้
สำหรับวงเงินงบประมาณที่ สปสช. ได้รับจัดสรรในปี 2569 อยู่ที่ 265,295.5821 ล้านบาท โดยแบ่งงบประมาณออกเป็น 9 ด้าน คือ
1. งบค่ารักษาพยาบาลผู้ป่วยนอกและผู้ป่วยในเหมาจ่ายรายหัวจำนวน 198,227.7461 ล้านบาท
2. งบค่าบริการผู้ติดเชื้อเอชไอวีและผู้ป่วยเอดส์ จำนวน 4,529.3625 ล้านบาท
3. งบบริการดูแลผู้ป่วยไตวายเรื้อรังระยะสุดท้าย จำนวน 16,074.9805 ล้านบาท
4. งบควบคุมป้องกันและรักษาโรคเรื้อรัง จำนวน 1,700.6107 ล้านบาท
5. งบเพิ่มเติมสำหรับโรงพยาบาลในพื้นที่กันดาร พื้นที่เสี่ยงภัย และพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้ จำนวน 1,490.2880
6. ค่าบริการสาธารณสุขเพิ่มเติมสำหรับการบริการระดับปฐมภูมิ จำนวน 3,770.4795 ล้านบาท
7. งบบริการสาธารณสุขร่วมกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น 9,925.7 ล้านบาท ล้านบาท แบ่งเป็น
8. งบช่วยเหลือเบื้องต้นผู้รับบริการและผู้ให้บริการ จำนวน 562.2298 ล้านบาท
9. งบบริการสร้างเสริมสุขภาพและป้องกันโรค จำนวน 29,014.1892 ล้านบาท
สำหรับงบเหมาจ่ายรายหัว 198,227.74 ล้านบาทนั้น เป็นการจัดสรรเพื่อดูแลรักษาพยาบาลผู้มีสิทธิบัตรทอง 47.502 ล้านคน หรือ 4,173.04 บาทต่อหัวประชากร โดยเพิ่มขึ้นจากปีงบประมาณ 2568 จำนวน 16,386.5 ล้านบาท เมื่อหักเงินเดือนภาครัฐ 65,073.46 ล้านบาทแล้ว เหลือเป็นงบให้ สปสช. นำมาบริหารจัดการ 133,154.2813 ล้านบาท
ทั้งนี้ งบเหมาจ่ายรายหัวต่อประชากรนั้น จะแบ่งเป็น ค่าบริการผู้ป่วยนอก 1,448.86 บาทต่อประชากร เพิ่มขึ้นจากปี 2568 4.14% หรือ 57.66 บาท โดยอาจปรับอัตราจ่ายแบบเหมาจ่ายต่อผู้มีสิทธิเพื่อรองรับนโยบายรัฐบาล
งบค่าบริการผู้ป่วยในทั่วไปทุกรายการ รวมถึงบริการตามนโยบายการรับบริการผู้ป่วยในทั้งในเขตพื้นที่และข้ามพื้นที่โดยไม่ต้องใช้ใบส่งตัวจำนวน 1,850.02 บาทต่อประชากร เพิ่มขึ้น 3.31% หรือ 59.29 บาท
งบกรณีเฉพาะจำนวน 671.46 บาทต่อประชากร เพิ่มขึ้น 33.25% หรือ 167.54 บาท
งบฟื้นฟูสมรรถภาพด้านการแพทย์จำนวน 10.59 บาทต่อประชากร เพิ่มขึ้น 9.85% หรือ 0.95 บาท
งบแพทย์แผนไทยจำนวน 63.42 บาทต่อประชากร เพิ่มขึ้น 98.81% หรือ 31.52 บาท และเงินบริการทางการแพทย์ที่เบิกจ่ายในลักษณะงบลงทุนอีกจำนวน 128.69 บาทต่อประชากร