KEY
POINTS
จากมติที่ประชุมคณะกรรมการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ล่าสุดที่มีมติเห็นชอบตามที่คณะกรรมการนโยบายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ให้ปลดล็อกเวลาจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ช่วงเวลา 14.00-17.00 น. โดยคณะกรรมการควบคุมฯ มีความเห็นเพิ่มเติมให้ต้องมีการประเมินมาตรการหลังจากนี้อีก 6 เดือน
ขณะที่เรื่องของการขยายเวลาจำหน่ายในสถานบริการนั้น ทาง คณะกรรมการควบคุมฯ ไม่เห็นด้วยแต่ได้มีมติให้ "นักดื่ม" สามารถนั่งดื่มได้หลังเที่ยงคืนไปอีก 1 ชั่วโมงเกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ถึงความรีบร้อนในการพิจารณาเรื่องนี้นั้น
นายพัฒนา พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า กรณีมีมติให้ขายเหล้าได้ในช่วงเวลาที่ห้ามขาย คือ 14.00-17.00 น. โดยบอร์ดควบคุมฯ เห็นว่า ต้องมีการประเมินมาตรการดังกล่าวจากนี้อีก 6 เดือนซึ่งให้คณะกรรมการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ระดับจังหวัดทำการศึกษาผลกระทบทั้งในมุมด้านสุขภาพ ผลกระทบทางสังคม ทั้งผลลบและผลบวกในเชิงเศรษฐกิจ
เสนอกลับเข้ามายังส่วนกลางว่า ในแต่ละพื้นที่มีผล ข้อห่วงใยและอยากจะผลักดันอย่างไรต่อไปซึ่งเป็นการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ส่วนการจัดโซนนิ่งนั้น ยืนยันว่า ยังมีอยู่ ตาม พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
ต่อข้อซักถามที่ว่า มติที่ประชุมที่ออกมาถูกตั้งคำถามเนื่องจากองค์ประชุมยังไม่ครบนั้น นายพัฒนา กล่าวว่า กฎหมายระบุเอาไว้ว่ากรรมการฯ มี 2 ส่วน คือ กรรมการที่เป็นผู้แทนโดยตำแหน่งที่กำหนดไว้ตามกฎหมาย และกรรมการประเภทที่ 2 ที่จะต้องมีการเลือกผู้ทรงคุณวุฒิ อย่างไรก็ตาม พ.ร.บ.เขียนเอาไว้ชัดเจนว่า กรณีที่ยังไม่ตั้งผู้ทรงคุณวุฒิหรือตำแหน่งต่าง ๆ ก็ให้องค์ประชุมตามตำแหน่ง สามารถประชุมไปได้ ดังนั้น การประชุมจึงเป็นไปตามกฎหมาย
ถามว่าเนื่องจากองค์ประชุมที่เข้าประชุมเมื่อวานเป็นระดับปลัดกระทรวงเท่านั้นยังไม่ได้มีผู้แทนจากภาคประชาชนหรือผู้ทรงคุณวุฒิ และฝ่ายอื่น ๆ เข้าไปร่วมพิจารณาจะถูกมองว่าเป็นการลักไก่หรือไม่นั้น
นายพัฒนา กล่าวว่า คงไม่สามารถมองเป็นการลักไก่ได้เพราะกฎหมายเปิดช่องให้ดำเนินการได้ นั่นหมายความว่า กฎหมายมองเห็นถึงความจำเป็นเร่งด่วนในบางประการที่การบริหารราชการแผ่นดินจะต้องเดินหน้าต่อไปได้ โดยที่ไม่ขาดความต่อเนื่องและแน่นอนไม่ได้คิดว่า เราจะทำเรื่องต่าง ๆ ให้ชักช้า อย่างที่เรียนว่า ต้องสร้างสมดุลให้ดีระหว่างการดำเนินการทางเศรษฐกิจกับการรักษาสุขภาพของประชาชน
กรณีมีการตั้งข้อสังเกตว่า ทำไมเรื่องนี้ต้องดำเนินการอย่างเร่งรีบ เหตุใดไม่รอให้ตั้งกรรมการให้ครบองค์ประกอบก่อน นายพัฒนา รมว.สาธารณสุข กล่าวว่า ความเร่งด่วนมีหลายแง่มุม ซึ่งที่ประชุมเมื่อวานโดยผู้แทนกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาเสนอว่า ในช่วงนี้เป็นช่วงใกล้กับเทศกาลปีใหม่ ถัดไปจะเป็นสงกรานต์ พฤติกรรมของผู้บริโภค พฤติกรรมของนักท่องเที่ยวที่จะเข้ามาในช่วงนี้มีการดื่มกินกัน
ดังนั้น จึงต้องรีบทำให้เกิดความชัดเจนเพราะไม่ได้เกิดผลกระทบเฉพาะผู้บริโภคภายในประเทศเท่านั้นแต่มีผลกระทบสำหรับนักท่องเที่ยวที่จะเข้ามาในช่วงเวลาเหล่านั้นด้วย ซึ่งหลาย ๆ ประเทศก็มีความเป็นห่วงว่า กฎหมายที่มีการบังคับใช้ของไทยนั้นมีค่าปรับค่อนข้างสูงจะส่งผลกระทบต่อประชากรของเขาหรือไม่ เราจึงต้องเร่งทำความเข้าใจกับต่างชาติด้วยจึงต้องทำให้เกิดความชัดเจนและรวดเร็ว ต้องมองกว้าง ๆ ออกไปที่ประชาคมโลกด้วย
ถามว่ากังวลหรือไม่หากมีการฟ้องศาลปกครอง นายพัฒนา กล่าวว่า ถ้าฟ้องในมุมอำนาจว่า ไม่สามารถประชุมได้ตนคิดว่าด้วยกฎหมายเขียนเอาไว้ชัดเจนอยู่แล้วว่า คณะองค์ประชุมเท่าที่มีสามารถเปิดประชุมได้
ส่วนกรณีที่มีการต่อระยะเวลาอนุญาตให้นั่งดื่มภายในร้านได้อีก 1 ชั่วโมงหลังเวลาห้ามขายจะมีมาตรการตรวจสอบควบคุมอย่างไรว่า ทางร้านจะไม่ลักไก่ขายให้อีก นายพัฒนา กล่าวยืนยันว่า ระยะเวลาที่ต่อออกไปนี้ไม่ได้ครอบคลุมถึงกรณีการขายของร้าน ในส่วนของร้านค้ายังอนุญาตให้ขายได้ถึงเที่ยงคืนเท่านั้นและให้สำหรับร้านค้าที่ไม่ใช่สถานบริการ
ดังนั้น การขายก็ต้องจบเที่ยงคืนเหมือนเดิมแต่ประกาศที่ออกมาเป็นประกาศเพื่อปกป้องและอะลุ่มอล่วยให้กับผู้บริโภคที่อาจจะยังรับประทานไม่หมด หรือ มีภาระที่จะต้องพาตัวเองหรือเพื่อน ๆ กลับบ้านจะได้มีเวลาตั้งสติ ล้างหน้าล้างตา ทำตัวให้เป็นอันตรายน้อยกว่าบุคคลอื่นที่อยู่ในสังคม ทั้งนี้ หากร้านยังฝ่าฝืนที่จะขายในช่วงเวลาที่อะลุ่มอล่วยให้กับผู้บริโภคทางร้านจะมีโทษ
"ยืนยันว่า ตรงนี้เป็นมาตรการคุมร้านค้าและเปิดช่องให้ผู้ที่นั่งดื่มสามารถมีเวลาในการปรับตัว ดังนั้น จึงแนะนำร้านค้าว่าจะต้องแสดงเจตนาว่า ไม่ได้มีการขาย ไม่ว่าจะเป็นการหรี่ไฟลง ปิดแอร์ หรือจัดการข้าวของภายในร้าน ท่านไม่ควรทำให้หน่วยงานราชการ มองเห็นว่ายังมีเจตนาชัดที่จะขายต่อ ถ้ามีเจตนาค้าขายต่อจะมีความผิด" นายพัฒนา กล่าว