KEY
POINTS
6 พฤศจิกายน 2568 นายวรโชติ สุคนธ์ขจร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า กระทรวงสาธารณสุขได้เดินหน้าแผนระยะยาวเพื่อขับเคลื่อนอุตสาหกรรมยาดมสมุนไพรไทยสู่เวทีโลก หรือ Global Soft Power อย่างยั่งยืน ผ่าน 2 โครงการหลัก ได้แก่ โครงการยกระดับอุตสาหกรรมยาดมสมุนไพร สู่ Medical and Wellness S-Curve: มุ่งเน้นยกระดับคุณภาพและความปลอดภัย พร้อมสนับสนุน SME ให้ปรับปรุงโรงงานให้ได้มาตรฐาน GMP เพื่อเข้าสู่ Medical and Wellness S-Curve
อีกโครงการ คือ โครงการปัญญ์ - พัฒน์ ซึ่งมุ่งเสริมศักยภาพผู้ประกอบการในด้านมาตรฐาน, นวัตกรรม และการตลาดสู่สากล โดยสนับสนุนการวิจัยและพัฒนา (R&D) การจดทะเบียนทรัพย์สินทางปัญญา การจับคู่ธุรกิจ (Business Matching) การลงทุนในเทคโนโลยีสมัยใหม่ และการจัดตั้ง ศูนย์สารสนเทศอัจฉริยะ เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน พร้อมผลักดันให้ผู้ประกอบการได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษี
ขณะนี้ได้แจ้งผู้ประกอบการทุกแห่งให้ยึดมั่นในมาตรฐานการผลิตระดับสากล (GMP) และปฏิบัติตามพระราชบัญญัติผลิตภัณฑ์สมุนไพร พ.ศ. 2562 อย่างเคร่งครัด โดยเฉพาะการควบคุม โลหะหนัก เชื้อจุลินทรีย์ และสารกำจัดศัตรูพืช ในทุกขั้นตอนการผลิต โดยยาดมที่ขึ้นทะเบียนอย่างถูกต้องมีความปลอดภัยสูงสุด และขอให้ผู้บริโภคเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ที่มีฉลากชัดเจนเพื่อความมั่นใจ
นายวรโชติ กล่าวเพิ่มเติมว่า กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก ยังได้จัดประชุมการพัฒนาอุตสาหกรรมสมุนไพร "ยาสมุนไพร" เพื่อหาแนวทางการพัฒนาและยกระดับอุตสาหกรรมให้มีคุณภาพและความปลอดภัย ที่กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก ในวันที่ 7 พฤศจิกายน 2568 เวลา 13.30 - 16.30 น. โดยมีการประชุมผ่าน Zoom และ Facebook Live ของกรมฯ ด้วย
ทั้งนี้ เบื้องต้นมีผู้ตอบรับและจำนวนผู้ลงทะเบียนเข้าร่วมประชุมรวมแล้วถึง 327 คน โดยแบ่งเป็นหน่วยงานภาครัฐ 101 คน, หน่วยงานเอกชน 111 คน, สถาบันการศึกษา 48 คน, บุคคลทั่วไป 60 คน และวิสาหกิจชุมชน 7 คนซึ่งแสดงถึงความตื่นตัวของทุกภาคส่วนต่อทิศทางใหม่ของอุตสาหกรรมยาดมสมุนไพรไทย