รมว.สาธารณสุข เดินหน้ายกระดับ อสม. 1 หมื่นคน สู่ ผู้ช่วยสาธารณสุข

6 พฤศจิกายน 2568 นายพัฒนา พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วยนายวรโชติ สุคนธ์ขจร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข นพ.สมฤกษ์ จึงสมาน ปลัดกระทรวงสาธารณสุข เปิดงาน "ยกระดับ อสม. ยุคใหม่สู่ผู้ช่วยสาธารณสุขเพื่อสวัสดิการที่ยั่งยืนและการขับเคลื่อนนโยบาย HCV รักษาฟรี เพื่อคนไทยห่างไกลมะเร็งตับ" โดยมีคณะผู้บริหารกระทรวงสาธารณสุข และ อสม.จังหวัดเพชรบูรณ์ เข้าร่วมกว่า 2,000 คน ณ โรงเรียนเพชรพิทยาคม จังหวัดเพชรบูรณ์

นายพัฒนา กล่าวว่า รัฐบาลและกระทรวงสาธารณสุขมุ่งมั่นพัฒนาระบบบริการสาธารณสุขของประเทศให้มีคุณภาพอย่างยั่งยืน ควบคู่กับการสร้างรายได้จากทุกมิติ รวมถึงด้านเศรษฐกิจสุขภาพ เพื่อดูแลคุณภาพชีวิตและความมั่นคงให้กับประชาชนทุกกลุ่มวัย

ภายใต้นโยบาย "ยกระดับ 30 บาทรักษาทุกที่ ด้วยบัตรประชาชนใบเดียว" และยังมุ่งยกระดับอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) ซึ่งเป็นกำลังหลักของระบบสุขภาพไทย จำนวน 10,000 คน ให้เป็นผู้ช่วยสาธารณสุข ภายใน 4 เดือน

ครอบคลุมทุกตำบล เพื่อให้มีสวัสดิการที่มั่นคง โดยมุ่งเน้นเสริมความรู้ ทักษะ สมรรถนะในการปฏิบัติงาน พร้อมที่จะให้บริการสุขภาพเชิงรุกแก่ประชาชนในพื้นที่อย่างมีประสิทธิภาพ เกิดการบูรณาการความร่วมมือระหว่างเครือข่ายที่จะกันช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนอย่างยั่งยืน

นายพัฒนากล่าวต่อว่า โครงการยกระดับ อสม. ยุคใหม่ สู่ผู้ช่วยสาธารณสุข เพื่อสวัสดิการที่ยั่งยืนและการขับเคลื่อนนโยบาย HCV รักษาฟรี เพื่อคนไทยห่างไกลมะเร็งตับ มีเป้าหมายให้ อสม. ในพื้นที่เป็นกำลังเสริม ในการให้ความรู้เบื้องต้น และประชาสัมพันธ์เชิญชวนประชาชนเข้ารับการตรวจคัดกรองไวรัสตับอักเสบซีซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญของโรคตับแข็งและมะเร็งตับ รวมทั้งดูแลให้ผู้ติดเชื้อเข้าสู่การรักษาและรับประทานยาอย่างครบถ้วน

ตั้งเป้าตรวจคัดกรอง ค้นหาผู้ติดเชื้อไวรัสตับอักเสบซีในกลุ่มประชาชนที่เกิดก่อนปี พ.ศ. 2535 และกลุ่มเสี่ยงเพื่อส่งตรวจยืนยันและรับการรักษาหากผลเป็นบวก ด้วยบัตรประชาชนใบเดียว ที่โรงพยาบาลของรัฐทุกแห่ง โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายซึ่งสอดรับกับเป้าหมายขององค์การอนามัยโลกและประเทศสมาชิกที่จะกำจัดโรคไวรัสตับอักเสบซีให้สำเร็จ ภายในปี พ.ศ.2573

ทั้งนี้ เพชรบูรณ์ เป็นจังหวัดแรกของประเทศที่ริเริ่มรูปแบบการตรวจรักษาโรคไวรัสตับอักเสบซีเรื้อรังในโรงพยาบาลชุมชน ตั้งแต่ปี 2563 ซึ่งช่วยเพิ่มการเข้าถึงการรักษา ลดความชุกของผู้ติดเชื้อ และยังสามารถรักษาผู้ป่วยให้หายขาดได้กว่า 5,000 ราย หรือคิดเป็น ร้อยละ 95 ของผู้ติดเชื้อทั้งจังหวัด ถือเป็นจังหวัดต้นแบบที่ประสบความสำเร็จในการกำจัดโรคไวรัสตับอักเสบซี

ดังนั้น ขอเชิญชวนผู้ที่เกิดก่อนปี พ.ศ.2535 และกลุ่มเสี่ยงเข้ารับการตรวจคัดกรองโรคไวรัสตับอักเสบ ซี ด้วยบัตรประชาชนใบเดียว ที่โรงพยาบาลของรัฐทุกแห่งฟรี เพื่อป้องกันการเกิดตับแข็งและมะเร็งตับในอนาคต นายพัฒนากล่าว