KEY
POINTS
จากกรณีที่โรงพยาบาลพุทธชินราช ได้แถลงข่าวระบุว่า สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) เพิ่งจ่ายมาแค่ 15 ล้านบาท จากยอดหนี้คงค้าง 238 ล้านบาทพร้อมตั้งข้อสังเกตว่า สปสช. ได้งบกลางมาแล้ว 4,000 ล้านบาทแต่ยังเคลียร์หนี้ รพ.ไม่ได้นั้น
ล่าสุด ทพ.อรรถพร ลิ้มปัญญาเลิศ รองเลขาธิการ สปสช. ในฐานะโฆษก สปสช. เปิดเผยถึงกรณีดังกล่าวว่า สปสช. ขอขอบคุณ รพ.พุทธชินราชที่ให้ข้อมูลการบริหารจัดการของโรงพยาบาลและมีความห่วงใยต่อการให้บริการผู้ป่วยสิทธิหลักประกันสุขภาพแห่งชาติหรือสิทธิบัตรทอง
อย่างไรก็ตาม ในส่วนของงบกลางนั้น ขณะนี้ สปสช. ยังไม่ได้รับงบกลางขั้นตอนยังอยู่ระหว่างเสนอของบกลางต่อคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อได้รับอนุมัติมาแล้วจะต้องนำเข้าบอร์ด สปสช. เพื่อพิจารณาหลักเกณฑ์การจัดสรรอีกครั้ง
ในส่วนที่ รพ.พุทธชินราช ระบุว่า สปสช.เพิ่งโอนจ่ายให้ 15 ล้านบาทนั้นเป็นความจริงและเมื่อวันที่ 19 ตุลาคม 2568 สปสช.ได้โอนค่าบริการผู้ป่วยใน (IP) ทุกรายการในรอบบริการวันที่ 16-30 กันยายน 2568 จำนวน 3,070,363 บาทและค่าบริการประเภทบริการผู้ป่วยนอก (OP) ทุกรายการในรอบบริการวันที่ 16-30 กันยายน 2568 จำนวน 10,037,160 บาท
ในวันที่ 20 ตุลาคม 2568 สปสช. ได้โอนค่าบริการนอกกองทุนผู้ป่วยใน เช่น ค่าบริการกรณีเฉพาะ (CR) และค่าบริการสร้างเสริมสุขภาพและป้องกันโรค (PP) จำนวน 39,364,902 บาท และในวันที่ 21 ตุลาคม 2568 สปสช. จะโอนค่าบริการดูแลผู้ป่วยไตวายเรื้อรังระยะสุดท้าย (CKD) ในรอบบริการวันที่ 16-30 กันยายน 2568 จำนวน 1,087,445 บาท รวมทั้งหมดเป็นเงิน 53,559,870 บาท
ส่วนที่มีการระบุว่า จากยอดหนี้คงค้าง 238 ล้านบาทนั้น สปสช. ขอชี้แจงว่า ในการจ่ายเงินค่าบริการผู้ป่วยให้กับ รพ.นั้น สปสช. จ่ายตามระบบ DRGs หรือ กลุ่มวินิจฉัยโรคร่วมที่เป็นหลักการเดียวกับประกันสุขภาพภาครัฐของประเทศที่มีหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าให้กับประชาชน ดังนั้น ตัวเลขจึงไม่ตรงกับเงินเรียกเก็บของทางโรงพยาบาล
อย่างไรก็ตาม ในปี 2568 การบริการผู้ป่วยในเมื่อคำนวณผลงานการให้บริการ พบว่า ค่าเฉลี่ยภาพรวมทั้งประเทศประมาณ 7,800 บาทต่อ AdjRW. และ สปสช. ได้ดำเนินการของบกลางเพิ่มเติม ขณะนี้อยู่ระหว่างการเสนอเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรีเมื่อได้รับมาแล้วจะนำเข้าบอร์ด สปสช. เพื่อขอมติหลักเกณฑ์การจัดสรรงบกลางต่อไปและโอนเงินให้ รพ.ต่อไป