เตรียมปลุกกระแส ‘กัญชง–กัญชา–กระท่อม‘ ดันไทยสร้างเศรษฐกิจสุขภาพสู่ตลาดโลก

13 ต.ค. 2568 | 18:30 น.
อัปเดตล่าสุด :18 ต.ค. 2568 | 02:35 น.

สมาคมการค้าอุตสาหกรรมกัญชงไทย (TIHTA) ผนึกกำลัง เอ็น.ซี.ซี. เอ็กซิบิชั่น ออกาไนเซอร์ (NEO) เตรียมจัดงาน Asia International Hemp Expo & Forum (AIHEF 2025) สร้างโอกาสในอุตสาหกรรมกัญชง–กัญชา–กระท่อม ขับเคลื่อนเศรษฐกิจสุขภาพไทยสู่ตลาดโลก ระหว่างวันที่ 5–7 พฤศจิกายน 2568

KEY

POINTS

  • สมาคมการค้าอุตสาหกรรมกัญชงไทย (TIHTA) ร่วมมือกับภาครัฐและเอกชน ผลักดันกัญชง กัญชา และกระท่อมให้เป็นพืชเศรษฐกิจสุขภาพ เพื่อสร้างมูลค่าและขยายสู่ตลาดโลก
  • เตรียมจัดงาน AIHEF 2025 เพื่อขับเคลื่อนอุตสาหกรรมอย่างครบวงจร ตั้งแต่การปลูก แปรรูป จนถึงผลิตภัณฑ์ปลายน้ำ พร้อมเปิดตัว "กระท่อม" สู่ตลาด Wellness และ Functional Food
  • ภาครัฐเร่งยกระดับมาตรฐานการผลิตและพัฒนาสายพันธุ์ (GACP/GAP) เพื่อเสริมสร้างศักยภาพการแข่งขันของไทยในฐานะศูนย์กลางการผลิตในภูมิภาคเอเชีย

นายภูมิใจ ขำภโต นายกสมาคมการค้าอุตสาหกรรมกัญชงไทย (TIHTA) กล่าวว่า อุตสาหกรรมกัญชงไทยกำลังก้าวสู่ยุคใหม่ของเศรษฐกิจสุขภาพและสิ่งแวดล้อม โดยมีการผลักดันกฎหมายในกว่า 40 ประเทศทั่วโลกให้ใช้ประโยชน์จากพืชกัญชงในเชิงสุขภาพและวัสดุทดแทน ซึ่งไทยมีศักยภาพสูงในฐานะศูนย์กลางการผลิตและการแปรรูปในภูมิภาคเอเชีย ภายใต้กรอบกฎหมายที่ชัดเจน และมาตรฐานการผลิตที่ได้รับการสนับสนุนจากกระทรวงสาธารณสุข 

โดยกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก ทั้งในด้าน Thai Herbal Pharmacopoeia, Premium Herbal Products และ GACP มูลค่าการค้าปลีกผลิตภัณฑ์สมุนไพรในปี 2567 อยู่ที่ 44,800 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7% โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์เสริมอาหารสมุนไพรที่มีมูลค่า 8,600 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9% สะท้อนแนวโน้มผู้บริโภคที่หันมาใช้ผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติมากขึ้น

ส่วนของตลาดวัสดุทดแทนจากพืชมีมูลค่ารวมประมาณ 47,000 ล้านบาท โดยวัสดุกัญชงแม้มีสัดส่วนยังไม่ถึง 1% ของอุตสาหกรรมก่อสร้าง แต่เติบโตเฉลี่ย 15–20% ต่อปี จากแรงหนุนของนโยบาย BCG Economy และแนวโน้มบ้านประหยัดพลังงาน สมาคมฯ จึงพัฒนามาตรฐานต้นน้ำผ่านพันธุ์ TIHTA 01 เพื่อสร้างความยั่งยืนและเสริมศักยภาพการแข่งขันระดับสากล พร้อมขอขึ้นทะเบียนกับกรมวิชาการเกษตรในปี 2568

เตรียมปลุกกระแส ‘กัญชง–กัญชา–กระท่อม‘ ดันไทยสร้างเศรษฐกิจสุขภาพสู่ตลาดโลก

นายศักดิ์ชัย ภัทรปรีชากุล กรรมการบริหาร บริษัท เอ็น.ซี.ซี. เอ็กซิบิชั่น ออกาไนเซอร์ จำกัด (NEO) กล่าวว่า งาน AIHEF 2025 จะจัดขึ้นต่อเนื่องเป็นปีที่ 4 เพื่อขับเคลื่อนอุตสาหกรรมกัญชงไทยให้เป็นหนึ่งในพืชเศรษฐกิจสำคัญของประเทศ และต่อยอดสู่เศรษฐกิจสุขภาพและสิ่งแวดล้อมของไทย ภายใต้แนวคิด “Making New Waves” เพื่อสร้างคลื่นลูกใหม่จากพืชเศรษฐกิจแห่งอนาคต

ทั้งนี้ ครอบคลุมตั้งแต่ภาคการปลูก การสกัด การแปรรูป ไปจนถึงภาคอุตสาหกรรมปลายน้ำ เช่น Wellness, Building Materials, และ Functional Food โดยมุ่งสร้างระบบนิเวศทางธุรกิจ (Ecosystem) ที่เชื่อมโยงผู้ผลิต ผู้ประกอบการ และนักลงทุนให้ครบวงจร

ภายในงานจะมีโซนไฮไลต์ ได้แก่ 

  • Dispensary Blueprint Showcase
  • “Flower Wall” การจัดแสดงช่อดอกจากฟาร์มมาตรฐานทั่วประเทศ และ Hemp Product Inspiring Showcase ที่นำเสนอเทคโนโลยีวัสดุกัญชงในเชิงอุตสาหกรรม พร้อมเปิดตัวโปรไฟล์ใหม่ “กระท่อม (Kratom)” สู่ตลาด Wellness และ Functional Food ที่กำลังขยายตัวทั่วโลก

นอกจากนี้ ยังมีเวที AIHEF International Forum รวมผู้เชี่ยวชาญกว่า 20 ประเทศ และบริการ ให้คำปรึกษาแพทย์เพื่อออกใบ ภ.ท.33 โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย รวมถึงการสาธิต Hemp Crete วัสดุก่อสร้างจากกัญชงที่พัฒนาในระดับอุตสาหกรรม

เตรียมปลุกกระแส ‘กัญชง–กัญชา–กระท่อม‘ ดันไทยสร้างเศรษฐกิจสุขภาพสู่ตลาดโลก

ด้าน นายสมศักดิ์ กรีชัย รองอธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก กล่าวว่า กระทรวงสาธารณสุขมุ่งผลักดันให้กัญชงเป็นพืชเศรษฐกิจสุขภาพ โดยยกระดับมาตรฐานการผลิตสู่ระดับสากล และมีฟาร์มที่ได้รับการรับรองมาตรฐานการปลูกและการเก็บเกี่ยวแล้วกว่า 123 ฟาร์ม ภายในงานยังมีบริการนวดแผนไทยด้วยน้ำมันกัญชา การนวดบำบัดทางกีฬา และอบรมมาตรฐานสำหรับ Dispensary และ Budtender

นายทรงเมท สังข์น้อย ผู้อำนวยการกลุ่มวิจัยพืชกัญชา กัญชง และกระท่อม กรมวิชาการเกษตร ยืนยันว่ากรมฯ มุ่งพัฒนาสายพันธุ์กัญชงไทยให้ได้มาตรฐาน GAP/GACP เพื่อผลักดันให้กัญชงเป็นพืชเศรษฐกิจสำคัญของ Green & BCG Economy