นโยบายฟอกไตฟรีทุกแห่ง มีความคืบหน้าหลังจากที่ประชุมคณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ หรือ บอร์ด สปสช. ที่มีนายพัฒนา พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะประธาน บอร์ด สปสช. เป็นประธานการประชุมฯ ครั้งแรก โดยเมื่อวันที่ 6 ตุลาคม 2568 ที่ผ่านมาได้พิจารณาระเบียบวาระสำคัญตามนโยบายของรัฐบาล คือ นโยบายไตวายเรื้อรังเพื่อให้ผู้ป่วยไตวายในระบบบัตรทองฟอกไตโดยไม่มีค่าใช้จ่ายและขยายการปลูกถ่ายไต (นโยบาย 30 บาทรักษาทุกที่ ฟอกไตฟรีทุกแห่ง) ซึ่งที่ประชุมบอร์ด สปสช. มีมติเพื่อให้ดำเนินการตามนโยบายดังกล่าว
พร้อมมอบหมายให้ สปสช. ดำเนินการไม่ให้หน่วยบริการฟอกเลือดด้วยเครื่องไตเทียมในระบบบัตรทอง เรียกเก็บค่าบริการจากผู้รับบริการฟอกไตในระบบบัตรทองเพิ่มเติมไม่ว่ากรณีใดก็ตามซึ่งหากพบว่า มีหน่วยบริการฟอกเลือดใดเรียกเก็บเงินจะต้องดำเนินการทางกฎหมายในทันที
บอร์ด สปสช. มีการหารือในประเด็นการถูกเรียกเก็บค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมจากการเข้ารับการบำบัดทดแทนไตซึ่ง สปสช. จะเข้าไปจัดระบบในการดำเนินการ โดยจะให้คณะทำงานเข้าไปดำเนินการ คาดว่าใช้เวลาไม่เกิน 1 เดือนจะได้แนวทางที่ชัดเจนเรื่องนี้เป็นประเด็นสำคัญที่บอร์ด สปสช. ให้ความสำคัญอย่างมากและต้องดำเนินการทันที
ในส่วนนโยบาย 30 บาทรักษาทุกที่นอกจากจะมุ่งเน้นนโยบายฟอกไตฟรีได้ทุกแห่งแล้ว ยังมุ่งเน้นให้มีการจัดการกับหน่วยบริการที่เรียกเก็บค่าใช้จ่ายจากผู้ป่วยซึ่งยังพบอยู่และมอบหมายให้ทาง สปสช.เข้าไปดำเนินการจัดระบบการตรวจสอบให้เคร่งครัดต่อไป ขณะเดียวกันคุณภาพบริการผู้ป่วยไตวายเรื้อรังต้องมีการกำหนดคุณภาพมาตรฐานแต่ละวิธีการรักษาให้อย่างชัดเจนด้วย นพ.จเด็จ ธรรมธัชอารี เลขาธิการ สปสช. กล่าว
บอร์ด สปสช. ยังมุ่งเน้นให้มีการขยายบริการปลูกถ่ายไตในระบบบัตรทองให้เพิ่มมากขึ้นซึ่งสิทธิประโยชน์สำหรับบำบัดทดแทนไตยังคงเหมือนเดิมซึ่งแต่ละวิธีการผู้ป่วยยังคงต้องปรึกษาเลือกวิธีการบำบัดทดแทนไตกับอายุรแพทย์โรคไตอยู่เพื่อหาทางเลือกที่เหมาะสมสำหรับการรักษาให้เหมาะกับผู้ป่วยแต่ละราย มี 3 วิธีการ ดังนี้
การบำบัดทดแทนไตในระบบบัตรทองที่ผู้ป่วยยังถูกเรียกเก็บเงินเพิ่มเติมทั้งที่เป็นสิทธิประโยชน์โดยไม่มีค่าใช้จ่าย โดยเฉพาะหน่วยบริการฟอกเลือดไตเทียมที่รับส่งต่อนั้น สปสช.จะวางระบบการจัดการและควบคุมอย่างเข้มข้นมากขึ้น รวมถึงแนวทางการขยายบริการปลูกถ่ายไตและการสร้างองค์ความรู้ชะลอไตเสื่อม ก่อนจะนำเสนอต่อที่ประชุม บอร์ด สปสช. ในการประชุมครั้งต่อไป
สำหรับการขยายบริการปลูกถ่ายไตให้กับผู้ป่วยไตวายในระบบบัตรทองนั้นให้มีการพัฒนาระบบบริจาคและระบบจัดสรรไตให้มีประสิทธิภาพ ที่ประชุมให้ สปสช. ร่วมกับกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ประสานดำเนินการกับศูนย์รับบริจาคอวัยวะ สภากาชาดไทย มูลนิธิโรคไตแห่งประเทศไทย สมาคมปลูกถ่ายอวัยวะแห่งประเทศไทย และหน่วยบริการรวมถึงองค์กรอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง โดยขอให้ดำเนินการตามแนวทางดังกล่าว และเสนอ บอร์ด สปสช.อีกครั้งในการประชุมครั้งถัดไป
ทั้งยังมีมติมอบให้ สปสช. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมขับเคลื่อนการรับรู้เรื่องสุขภาพ และการส่งเสริมป้องกันเพื่อการชะลอไตเสื่อม เพื่อป้องกันไม่ให้มีผู้ป่วยไตวายเรื้อรังระยะสุดท้ายรายใหม่เข้าสู่ระบบการรักษา และยังเป็นการลดจำนวนผู้ป่วยไตในระบบสุขภาพของประเทศด้วย
ที่ประชุมบอร์ด สปสช. ยังมีมติขอให้คณะกรรมการควบคุมคุณภาพและมาตรฐานบริการสาธารณสุข (บอร์ดควบคุมฯ) พิจารณาข้อเสนอในการดำเนินการเพื่อสร้างความมั่นใจในเรื่องคุณภาพบริการ และมอบหมายให้คณะอนุกรรมการกำหนดหลักเกณฑ์การดำเนินงานและบริหารกองทุน พิจารณาผลกระทบและจัดทำข้อเสนอเตรียมการทางด้านงบประมาณเพื่อรองรับนโยบายต่อไป