KEY
POINTS
นายแพทย์ธนานันต์ นุ่มแสง แพทย์จิตเวช โรงพยาบาลพระรามเก้า เปิดเผย “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า โรคจิตเภท (Schizophrenia) เป็นหนึ่งในโรทางจิตเวชที่พบได้บ่อยในสังคมไทย และมักแสดงออกอย่างเด่นชัด เป็นภาวะที่ผู้ป่วยมีอาการหลอน หรือมีความเชื่อหลงผิด อาการที่สำคัญและเป็นแกนหลักคือ หูแว่ว ภาพหลอน และประสาทหลอนต่าง ๆ อาการเหล่านี้ทำให้ผู้ป่วยไม่สามารถใช้ชีวิตร่วมกับคนในครอบครัว หรือคนในสังคมได้
โดยทั่วไปอาจกล่าวได้ว่า เกิดจากความกดดันและความเครียดสะสมจนระเบิดอารมณ์ออกมา ในช่วงจิตใจเปาะบางที่สุดจนไม่สามารถบังคับตัวเองได้ แต่บางครั้งโรคจิตเภทอาจมีประเด็นที่ซับซ้อนกว่านั้น ยกตัวอย่าง คนไร้บ้าน (Homeless) คือบุคคลที่ไม่มีที่อยู่และไม่สามารถใช้ชีวิตอยู่ได้เนื่องจากปัญหาต่าง ๆ
สาเหตุของการเกิดโรคจิตเภทส่วนใหญ่เกี่ยวข้องทั้งด้านพันธุกรรมและการใช้สารเสพติด
“ชนิดของสารที่ทำให้เกิดอาการหลอนแตกต่างกันไปตามยุคสมัย ในอดีตมักเป็นแอมเฟตามีน (ยาบ้า) ซึ่งทำให้เกิดอาการหลอนได้ง่าย แต่ในปัจจุบันมีสารอื่น ๆ หลายรูปแบบ เช่น เคตามีน, แก๊สหัวเราะ, และกัญชาสารบางตัว เช่น กัญชาและแก๊สหัวเราะ อาจไม่ได้ทำให้เกิดอาการหลอนแบบอาการจิตเภทโดยตรง และสามารถทำให้เกิดอารมณ์ที่แปรปรวนได้ ในบางกรณีหากสภาพจิตใจไม่คงที่และควบคุมไม่ได้ จะสร้างความรุนแรงในสังคมได้ง่าย ไม่ว่าะเป็นทะเลาะวิวาทบนท้องถนนที่นำไปสู่การยิงกันหรือทำร้ายกัน”
ผู้ป่วยโรคจิตเภทส่วนใหญ่จะอยู่ในโลกของตัวเอง หรืออยู่อีกมิติหนึ่งในินตนาการ ซึ่งเป็นสาเหตุให้ถูกผลักออกจากสังคม และครอบครัวรู้สึกว่าไม่สามารถดูแลได้ พฤติกรรมที่แสดงออกซึ่งเกิดจากอาการทางจิตและนำไปสู่โรคจิตเถท คือ
• การ เก็บของพะรุงพะรัง
• การทำสิ่งที่ ไม่เหมาะสม เช่น อุจจาระ ปัสสาวะ ในที่สาธารณะ
• การดูแลตัวเองต่าง ๆ จะ หายไปหมด
• ผู้ป่วยจะไม่สนใจและไม่แคร์ต่อสภาพแวดล้อม
สมมุติตัวอย่าง ผู้ป่วยรายหนึ่งที่มีใบหน้าสวย รูปลักษณ์ดีเหมือนคนปกติทั่วไป แต่เดินแก้ผ้าอยู่ตามท้องถนนไม่อายสายตาใคร แสดงให้เห็นว่าผู้ป่วยเหมือนหลุดออกไปจากความเป็นจริง หากอาการแย่ลง อาจมีเสียงหรืออาการที่ทำให้หวาดระแวง จนอาจเกิดการทำร้ายคนอื่นได้
1. อันตรายต่อตัวเขาเอง ผู้ป่วยจะไม่คำนึงถึงความปลอดภัยของตัวเขาเองในการกระทำต่างๆ
2. อันตรายต่อคนรอบข้าง พวกเขาเหล่านี้จะไม่คิดพิจารณาว่าสิ่งที่ทำจะสร้างความเดือดร้อนหรือไม่