หูแว่ว- มีภาพหลอน ระวังป่วย ‘จิตเภท’ เสี่ยงอันตรายทั้งตัวเองและผู้อื่น

05 ต.ค. 2568 | 06:28 น.
อัปเดตล่าสุด :05 ต.ค. 2568 | 06:38 น.

แพทย์ชี้สาเหตุป่วย "จิตเภท" เกิดอาการหูแว่ว มีภาพหลอน เสี่ยงทำอันตรายตนเองและผู้อื่น ส่วนใหญ่เกิดจากการถูกผลักออกจากสังคมและปัญหากรรมพันธุ์ รวมถึงสารเสพติด (แอมเฟตามีน, เคตามีน, กัญชา) หากติดต่อกัน 2 ปีขึ้นไป จะทำลายสมองถาวร

KEY

POINTS

  • โรคจิตเภท เป็นภาวะป่วยทางจิตเวชที่มีอาการสำคัญคือหูแว่ว เห็นภาพหลอน และมีความเชื่อหลงผิด ทำให้ผู้ป่วยไม่สามารถใช้ชีวิตในสังคมได้ตามปกติ
  • สาเหตุหลักเกิดจากพันธุกรรมและการใช้สารเสพติด ซึ่งการใช้สารเสพติดเป็นเวลานานสามารถทำลายสมองและทำให้เกิดอาการหลอนถาวรได้
  • ผู้ป่วยจิตเภทมีความเสี่ยงที่จะเป็นอันตรายต่อตนเองเนื่องจากไม่คำนึงถึงความปลอดภัย และอาจเป็นอันตรายต่อผู้อื่นจากอาการหวาดระแวง

นายแพทย์ธนานันต์ นุ่มแสง แพทย์จิตเวช โรงพยาบาลพระรามเก้า เปิดเผย “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า โรคจิตเภท (Schizophrenia) เป็นหนึ่งในโรทางจิตเวชที่พบได้บ่อยในสังคมไทย และมักแสดงออกอย่างเด่นชัด เป็นภาวะที่ผู้ป่วยมีอาการหลอน หรือมีความเชื่อหลงผิด อาการที่สำคัญและเป็นแกนหลักคือ หูแว่ว ภาพหลอน และประสาทหลอนต่าง ๆ อาการเหล่านี้ทำให้ผู้ป่วยไม่สามารถใช้ชีวิตร่วมกับคนในครอบครัว หรือคนในสังคมได้

โดยทั่วไปอาจกล่าวได้ว่า เกิดจากความกดดันและความเครียดสะสมจนระเบิดอารมณ์ออกมา ในช่วงจิตใจเปาะบางที่สุดจนไม่สามารถบังคับตัวเองได้ แต่บางครั้งโรคจิตเภทอาจมีประเด็นที่ซับซ้อนกว่านั้น ยกตัวอย่าง คนไร้บ้าน (Homeless) คือบุคคลที่ไม่มีที่อยู่และไม่สามารถใช้ชีวิตอยู่ได้เนื่องจากปัญหาต่าง ๆ

สาเหตุของการเกิดโรคจิตเภท

สาเหตุของการเกิดโรคจิตเภทส่วนใหญ่เกี่ยวข้องทั้งด้านพันธุกรรมและการใช้สารเสพติด

  • ปัจจัยทางพันธุกรรม (กรรมพันธุ์) มีความเกี่ยวข้องกับญาติสายตรง เช่น พ่อ แม่ หรือ ปู่ เป็นโรคนี้ โอกาสที่จะเป็นโรคจะสูงขึ้น 2-3 เท่าของคนทั่วไป ซึ่งในปัจจุบันสาเหตุที่มาจากกรรมพันธุ์อาจลดน้อยลง เนื่องจากผู้ที่เป็นโรคจิตเภทส่วนใหญ่จะไม่ได้แต่งงานหรือมีครอบครัว
  • การใช้สารเสพติด (สาเหตุที่เพิ่มขึ้นในปัจจุบัน) สารเสพติดบางตัวสามารถทำให้เกิดอาการ หูแว่ว ภาพหลอนได้ และจำนวนผู้ที่ใช้สารเสพติดและมีอาการหลอนเหล่านี้มีจำนวนเพิมสูงขึ้นในปัจจุบัน หากใช้ติดกันเป็นระยะเวลานานจะสร้างความเสียหายต่อสมอง ในจุดที่ไม่สามารถกลับมาได้ เช่น ในระยะเวลา 1-2 ปี หรือใช้ในปริมาณมาก สมองจะถูกทำลายถาวร (ส่วนใหญ่คือการใช้ 2 ปีขึ้นไป) อาการเหล่านั้นก็จะกลายเป็นโรคจิตเภท 

“ชนิดของสารที่ทำให้เกิดอาการหลอนแตกต่างกันไปตามยุคสมัย ในอดีตมักเป็นแอมเฟตามีน (ยาบ้า) ซึ่งทำให้เกิดอาการหลอนได้ง่าย แต่ในปัจจุบันมีสารอื่น ๆ หลายรูปแบบ เช่น เคตามีน, แก๊สหัวเราะ, และกัญชาสารบางตัว เช่น กัญชาและแก๊สหัวเราะ อาจไม่ได้ทำให้เกิดอาการหลอนแบบอาการจิตเภทโดยตรง และสามารถทำให้เกิดอารมณ์ที่แปรปรวนได้ ในบางกรณีหากสภาพจิตใจไม่คงที่และควบคุมไม่ได้ จะสร้างความรุนแรงในสังคมได้ง่าย ไม่ว่าะเป็นทะเลาะวิวาทบนท้องถนนที่นำไปสู่การยิงกันหรือทำร้ายกัน”

อาการโรคจิตเภท

ผู้ป่วยโรคจิตเภทส่วนใหญ่จะอยู่ในโลกของตัวเอง หรืออยู่อีกมิติหนึ่งในินตนาการ ซึ่งเป็นสาเหตุให้ถูกผลักออกจากสังคม และครอบครัวรู้สึกว่าไม่สามารถดูแลได้ พฤติกรรมที่แสดงออกซึ่งเกิดจากอาการทางจิตและนำไปสู่โรคจิตเถท คือ

• การ เก็บของพะรุงพะรัง

• การทำสิ่งที่ ไม่เหมาะสม เช่น อุจจาระ ปัสสาวะ ในที่สาธารณะ

• การดูแลตัวเองต่าง ๆ จะ หายไปหมด

• ผู้ป่วยจะไม่สนใจและไม่แคร์ต่อสภาพแวดล้อม

สมมุติตัวอย่าง ผู้ป่วยรายหนึ่งที่มีใบหน้าสวย รูปลักษณ์ดีเหมือนคนปกติทั่วไป แต่เดินแก้ผ้าอยู่ตามท้องถนนไม่อายสายตาใคร แสดงให้เห็นว่าผู้ป่วยเหมือนหลุดออกไปจากความเป็นจริง หากอาการแย่ลง อาจมีเสียงหรืออาการที่ทำให้หวาดระแวง จนอาจเกิดการทำร้ายคนอื่นได้

ความเสี่ยงและอันตรายจากผู้ป่วยจิตเภท

1. อันตรายต่อตัวเขาเอง ผู้ป่วยจะไม่คำนึงถึงความปลอดภัยของตัวเขาเองในการกระทำต่างๆ

2. อันตรายต่อคนรอบข้าง พวกเขาเหล่านี้จะไม่คิดพิจารณาว่าสิ่งที่ทำจะสร้างความเดือดร้อนหรือไม่