KEY
POINTS
15 กันยายน 2568 นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธานเปิดการอบรมหลักสูตรเพิ่มพูนทักษะผู้ให้บริการนวดไทยตามหลักการฮาลาล โดยมีนายอรุณ บุญชม จุฬาราชมนตรี พร้อมด้วย นพ.สมฤกษ์ จึงสมาน อธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก ผู้แทนจากภาครัฐ ภาคเอกชน และองค์กรด้านฮาลาลเข้าร่วมงาน
นายสมศักดิ์ กล่าวว่า นวดไทยได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมจาก UNESCO และถือเป็น Soft Power สำคัญที่สามารถสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจให้แก่ประเทศได้อย่างมหาศาล กระทรวงสาธารณสุขจึงส่งเสริมให้สถานพยาบาลของรัฐกว่า 13,533 แห่งทั่วประเทศ เปิดให้บริการด้านการแพทย์แผนไทย ปีที่ผ่านมา มีผู้รับบริการมากกว่า 15.6 ล้านครั้ง สร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจได้กว่า 3,000 ล้านบาท
นอกจากนี้การจัดกิจกรรม "นวดไทยและผลิตภัณฑ์สมุนไพรสู่ตลาดซาอุดิอาระเบีย" เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา พบว่า ประสบความสำเร็จอย่างมากจึงมีการต่อยอดสู่การพัฒนาหลักสูตร "เพิ่มพูนทักษะผู้ให้บริการนวดไทยตามหลักการฮาลาล" เพื่อตอบสนองความต้องการของตลาดตะวันออกกลางที่มีศักยภาพ มีกำลังซื้อสูงและสามารถเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง โดยคาดว่าจะสามารถสร้างรายได้จากการนวดไทยและผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องสูงถึง 32,548 ล้านบาทในอนาคต
นายอรุณ จุฬาราชมนตรี กล่าวว่า การอบรมนวดไทยตามหลักการฮาลาลเป็นปัจจัยสำคัญที่จะช่วยสร้างความเชื่อมั่นให้กับพี่น้องชาวมุสลิมทั่วโลกในการเข้าใช้บริการนวดไทยได้อย่างมั่นใจและสบายใจว่า มีความสอดคล้องกับหลักศาสนาซึ่งขอชื่นชมกระทรวงสาธารณสุข รวมถึงกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือกที่ตระหนักถึงความสำคัญและดำเนินการเรื่องนี้อย่างจริงจัง
ด้าน นพ.สมฤกษ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า หลักสูตรการเพิ่มพูนทักษะผู้ให้บริการนวดไทยตามหลักการฮาลาลจะอบรมในรูปแบบ Onsite จำนวน 24 ชั่วโมง ผู้เข้ารับการอบรมจะได้เรียนรู้ทั้งเทคนิคการนวดที่ถูกต้องตามหลักการแพทย์แผนไทย และแนวทางปฏิบัติที่สอดคล้องกับหลักการทางศาสนาอิสลามซึ่งจะมีส่วนช่วยยกระดับมาตรฐานบริการของไทยให้เป็นที่ยอมรับในระดับสากลและสามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกโดยเฉพาะกลุ่มชาวมุสลิมได้มากขึ้น
ทั้งนี้ สำหรับผู้เข้าร่วมอบรมเป็นผู้ให้บริการนวดไทยที่ผ่านการอบรมนวดไทยและได้รับใบประกาศนียบัตรตั้งแต่ 60 ชั่วโมงขึ้นไป จากหลากหลายพื้นที่จำนวนกว่า 100 คน หลักสูตรดังกล่าวได้รับความร่วมมือจากภาคีเครือข่าย ได้แก่ วิทยาลัยนวดไทยแห่งประเทศไทย สำนักงานคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดสมุทรปราการ และสถาบันฮาลาล มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ในการพัฒนาคุณภาพบุคลากรและการบริการสุขภาพ ซึ่งจะช่วยส่งเสริมการสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจของประเทศอีกด้วย