MEDEZE เปิดรายได้-กำไรครึ่งปี 68 พร้อมเดินหน้า “Sandbox” พัฒนายาบำบัดขั้นสูง

14 ส.ค. 2568 | 21:30 น.
อัปเดตล่าสุด :14 ส.ค. 2568 | 21:31 น.

“เมดีซ กรุ๊ป” ทำกำไรสุทธิครึ่งปี 2568 รวม 129 ล้านบาท กวาดรายได้รวม 407 ล้านบาท พร้อมเดินหน้า “Sandbox” ยกระดับผลิตภัณฑ์ยาเพื่อการบำบัดรักษาขั้นสูงผลักดันไทยสู่ “HEALTH Economy”

นายแพทย์วีรพล เขมะรังสรรค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เมดีซกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ MEDEZE เปิดเผยว่า สำหรับผลประกอบการในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2568 บริษัทมีกําไรสุทธิอยู่ที่ 129.41 ล้านบาท ในขณะที่บริษัทมีรายได้รวมอยู่ที่ 407.89 ล้านบาท 

รายได้หลักของบริษัทยังคงมาจาก การให้บริการจัดเก็บเซลล์ต้นกำเนิดเนื้อเยื่อสายสะดือ หรือ Cord Tissue ที่คิดเป็นสัดส่วน 52% ในขณะที่รายได้จากการจัดเก็บเซลล์รากผมหรือ Hair Follicle ซึ่งเป็นธุรกิจใหม่ก็เติบโตอย่างต่อเนื่อง โยคิดเป็นสัดส่วนรายได้ราว 1%

ในขณะเดียวกันบริษัทฯ ยังคงรักษาความสามารถในการทำกำไรได้ตามเป้าหมาย โดยมีอัตรากำไรขั้นต้นอยู่ที่ 76% และอัตรากำไรสุทธิอยู่ที่ 32%

ทั้งนี้ บริษัทได้เพิ่มขนาดทีมขาย และการตลาด เพื่อเป็นการขยายฐานลูกค้า และการเข้าถึงบริการของลูกค้าที่มากขึ้น สำหรับการรองรับแผนในการขยายธุรกิจในอนาคต ไม่ว่าจะเป็นการลงทุนอาคารฝ่ายขายและการตลาด อาคารคลังสินค้าแห่งใหม่ และระบบพลังงานไฟฟ้า Solar Cell เป็นต้น เพื่อเป็นการรองรับในการขยายธุรกิจของกลุ่มบริษัทฯ

MEDEZE เปิดรายได้-กำไรครึ่งปี 68 พร้อมเดินหน้า “Sandbox” พัฒนายาบำบัดขั้นสูง

“ในช่วงไตรมาส 2 ที่ผ่านมาบริษัทยังคงเดินหน้าโครงการ ATMPs Sandbox ซึ่งเป็นพัฒนาการที่ถือว่าเป็นก้าวสำคัญของกลุ่มบริษัทฯและเกิดประโยชน์กับประเทศไทย เพื่อเป็นการยกระดับผลิตภัณฑ์ยาเพื่อการบำบัดรักษาขั้นสูง สร้างเศรษฐกิจสุขภาพ หรือ HEALTH Economy ดึงดูดรายได้เข้าประเทศ”

นายแพทย์วีรพล กล่าวว่า บริษัทได้จับมือกับกระทรวงสาธารณสุข กรมควบคุมโรค โดยสำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข โรงพยาบาลวชิระภูเก็ต และศูนย์การแพทย์บางรัก เปิดตัวโครงการ Advanced Therapy Medicinal Products Sandbox (ATMPs Sandbox) 

คัดเลือก MEDEZE เป็นภาคเอกชนเพียงรายเดียวที่ร่วมดำเนินโครงการ ด้วยความพร้อมทั้งด้านเทคโนโลยี มาตรฐาน และบุคลากรผู้เชี่ยวชาญ เพื่อพัฒนานวัตกรรมผลิตภัณฑ์ยาเพื่อการบำบัดรักษาขั้นสูง สำหรับการรักษาเชิงลึกแบบเฉพาะบุคคล (Precision Preventive Medicine) 

เริ่มต้นจาก 5 กลุ่มโรคที่พบมากในประเทศไทย โดยโรงพยาบาลวชิระภูเก็ตเป็น “สถานพยาบาลนำร่อง” ในการดำเนินการวิจัย ทดลอง และให้บริการทางการแพทย์ 3 โรค คือ โรคหมอนรองกระดูกเสื่อม กลุ่มโรคผิวหนังและการชะลอวัย รวมถึงมะเร็งลำไส้ และศูนย์การแพทย์บางรัก

เพื่อดำเนินการวิจัยทดลอง และให้บริการทางการแพทย์ 2 โรค “โรคข้อเข่าเสื่อม - โรคผิวหนังและการชะลอวัย” เพื่อยกระดับผลิตภัณฑ์ยาเพื่อการบำบัดรักษาขั้นสูงและผลิตภัณฑ์ทางการแพทย์จากเซลล์ต้นกำเนิดในประเทศไทย