กรมสุขภาพจิต แนะคนทำงาน สังเกต 3 สัญญาณเตือน Burnout Syndrome

18 มิ.ย. 2568 | 08:25 น.

กรมสุขภาพจิต เตือนภาระงานสะสมเสี่ยงกระทบสุขภาพจิตคนทำงาน สังเกต 3 สัญญาณเตือนพร้อม 4 วิธีเพื่อฟื้นฟูสภาพจิตใจเบื้องต้น

18 มิถุนายน 2568 กรมสุขภาพจิต เตือนภาระงานหนักส่งผลกระทบสุขภาพจิต โดยเฉพาะในหน่วยงานที่บุคลากรไม่เพียงพอ ขอความร่วมมือให้สังเกตสัญญาณเครียด เช่น หมดแรง ท้อแท้ แยกตัว พร้อมเปิดใจพูดคุย และแนะนำเข้ารับคำปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญพร้อมแนะ 4 วิธีดูแลตัวเองเบื้องต้นเมื่อรู้สึกอ่อนล้า ขอความร่วมมือสื่อมวลชนสื่อสารอย่างรับผิดชอบ หลีกเลี่ยงการเผยแพร่เนื้อหาที่อาจกระตุ้นพฤติกรรมเลียนแบบการฆ่าตัวตาย

นายแพทย์กิตติศักดิ์ อักษรวงศ์ อธิบดีกรมสุขภาพจิต กล่าวว่า จากกรณีที่มีบุคลากรทางการศึกษาเสียชีวิตโดยมีปัจจัยเกี่ยวข้องกับความเครียดในการทำงาน ถือเป็นสัญญาณเตือนสำคัญที่สะท้อนถึงแรงกดดันและภาระงานในกลุ่มผู้ปฏิบัติงาน โดยเฉพาะในหน่วยงานที่มีบุคลากรไม่เพียงพอทำให้ต้องรับผิดชอบงานเกินขีดความสามารถ ซึ่งเสี่ยงต่อการเกิดภาวะหมดไฟในการทำงาน (Burnout Syndrome)

หลายคนอาจจะมีความสับสนกับอาการของโรคซึมเศร้า ซึ่งภาวะหมดไฟในการทำงานเป็นการเปลี่ยนแปลงด้านจิตใจที่เกิดจากความเครียดเรื้อรังในการทำงาน ส่งผลกระทบต่อสุขภาพจิตและคุณภาพชีวิตในระยะยาว กรมสุขภาพจิตขอความร่วมมือจากผู้บริหาร เพื่อนร่วมงาน และคนใกล้ชิดในการช่วยสังเกตสัญญาณเบื้องต้นของผู้ที่อาจเผชิญกับความเครียดหรือภาวะหมดไฟในการทำงาน (Burnout Syndrome) โดยมีอาการสำคัญ 3 ประการ ได้แก่ 

1. ความเหนื่อยล้าทางอารมณ์ รู้สึกหมดแรงใจ อารมณ์หดหู่ 

2. การมองตนเองในแง่ลบ สูญเสียความรู้สึกประสบความสำเร็จ รู้สึกหมดพลัง ไม่อยากทำงาน

3. การมองความสัมพันธ์ในที่ทำงานอย่างห่างเหินหรือเป็นลบ ซึ่งสิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นสัญญาณเตือนสำคัญของสุขภาพจิตที่อาจส่งผลกระทบในระยะยาวหากไม่ได้รับการดูแลอย่างเหมาะสม 

กรมสุขภาพจิต ขอแนะนำให้ทุกคนตระหนักถึงสัญญาณเตือนของภาวะหมดไฟ หากพบว่าตนเองหรือคนใกล้ชิดมีอาการเหล่านี้ ควรเปิดใจพูดคุยหรือปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ หรือใช้แนวทางการจัดการ ประกอบด้วย 

1. พัฒนาทักษะการสื่อสาร การแก้ปัญหา และความยืดหยุ่น

2. เปิดใจรับฟังและเคารพความแตกต่าง

3. แสวงหาความช่วยเหลือจากที่ปรึกษาหรือผู้ที่เชื่อถือและไว้ใจ

4. หาเวลาเข้าร่วมกิจกรรมสร้างสุขภาพทั้งกายและใจ

นายแพทย์กิตติศักดิ์ อักษรวงศ์ อธิบดีกรมสุขภาพจิต กล่าวต่อว่า เพื่อป้องกันพฤติกรรมเลียนแบบการฆ่าตัวตาย (Copycat Suicide) ซึ่งอาจเกิดขึ้นในกลุ่มเปราะบางทางจิตใจ โดยเฉพาะผู้ที่มีประวัติเคยมีความคิดหรือพฤติกรรมทำร้ายตนเองมาก่อน 

กรมสุขภาพจิตขอความร่วมมือจากสื่อมวลชนและสาธารณชนในการสื่อสารอย่างรับผิดชอบ หลีกเลี่ยงการเผยแพร่จดหมายลา ข้อความสั่งเสีย หรือรายละเอียดวิธีการเสียชีวิตเพราะเนื้อหาเหล่านี้อาจกระตุ้นความรู้สึกเลียนแบบ หรือผลักดันให้ผู้ที่อยู่ในภาวะเครียดสูงตัดสินใจในทางเดียวกันโดยไม่ตั้งใจ

แนวทางสื่อสารที่ปลอดภัยควรเน้นการให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ เช่น การแสดงความเสียใจ การให้กำลังใจครอบครัวผู้เสียชีวิต การตอกย้ำถึงความสำคัญของสุขภาพจิต และแนะนำช่องทางขอความช่วยเหลือที่เข้าถึงง่าย หากพบผู้ที่มีภาวะเครียด วิตกกังวล หรือมีความคิดทำร้ายตนเอง สามารถโทรปรึกษาสายด่วนสุขภาพจิต 1323 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง เพราะความรู้สึกสามารถเปลี่ยนแปลงได้ หากได้รับความเข้าใจและการดูแลอย่างถูกวิธีจากคนรอบข้างและทีมสุขภาพจิตที่พร้อมให้การช่วยเหลือ