กรมสุขภาพจิต ชูบทเรียนต่างแดน เร่งสร้างโรงเรียนปลอดภัย

13 มิ.ย. 2568 | 04:25 น.
อัปเดตล่าสุด :13 มิ.ย. 2568 | 04:28 น.

กรมสุขภาพจิต ชวนทุกภาคส่วนเดินหน้าสร้างสังคมปลอดภัยไร้ความรุนแรง ชูบทเรียนจากต่างประเทศพัฒนาระบบป้องกันในโรงเรียนไทย

13 มิถุนายน 2568 กรมสุขภาพจิต ชี้เหตุการณ์ความรุนแรงที่เกิดขึ้นในสถานศึกษาในประเทศออสเตรียและประเทศฝรั่งเศสเมื่อวันที่ 10 มิถุนายนที่ผ่านมา เป็นข่าวที่กระทบกระเทือนความรู้สึกของคนทั้งโลก กรมสุขภาพจิตพร้อมตอบสนองนโยบายการสร้างสังคมที่ปลอดภัยไร้ความรุนแรงของปลัดกระทรวงสาธารณสุข พร้อมเสนอแนวทางป้องกันเหตุการณ์ความรุนแรงในสถานศึกษา เน้นการบูรณาการระหว่างภาครัฐ โรงเรียน และชุมชน เพื่อยกระดับระบบความปลอดภัยและสุขภาพจิตของเด็กและเยาวชนไทย ตั้งแต่การสังเกตพฤติกรรมเสี่ยง ส่งต่อรับการช่วยเหลือหากพบสัญญาณผิดปกติจากผู้เชี่ยวชาญและหน่วยงานในการป้องกันยับยั้งความรุนแรง หรือโทรสายด่วนสุขภาพจิต

นายแพทย์กิตติศักดิ์ อักษรวงศ์ อธิบดีกรมสุขภาพจิต เปิดเผยว่า บทเรียนจากเหตุการณ์รุนแรงในครั้งนี้ ไม่ใช่เพื่อนำมาเล่าให้จำแต่กระทรวงสาธารณสุขได้ให้ความสำคัญเพื่อจะขับเคลื่อนให้ร่วมกันป้องกันไม่ให้เกิดขึ้นอีก กรมสุขภาพจิตยืนยันว่าจะเดินหน้ายกระดับสุขภาพจิตในโรงเรียนอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ในการป้องกันก่อนเกิดเหตุเป็นสิ่งต้องให้ความสำคัญ โดยข้อเสนอของกรมสุขภาพจิตในการพัฒนาและป้องกัน มี 2 ประเด็นที่สำคัญ คือ

1. การป้องกันและแก้ไขปัญหาเด็กนักเรียนที่มีปัญหาด้านพฤติกรรมและสุขภาพจิต คือการใช้ระบบการเฝ้าระวังและคัดกรอง เช่นการใช้ School Health HERO เพื่อนำไปสู่การช่วยเหลือที่เหมาะสม

2. การป้องกันการก่อความรุนแรงในโรงเรียน โดยการกำหนดมาตรการป้องกัน ควบคุมการเข้า – ออกโรงเรียนและการพกพาอาวุธเข้ามาในโรงเรียน, มีแนวทางปฏิบัติเมื่อเกิดการก่อความรุนแรงในโรงเรียน และหากเกิดเหตุการณ์ขึ้น การเยียวยาจิตใจเด็กนักเรียนและผู้ปกครองหลังจากเกิดเหตุการณ์จะต้องดำเนินการอย่างรวดเร็วและมีระบบทันที สนับสนุนรณรงค์ต้านความรุนแรงในโรงเรียนอย่างต่อเนื่อง ซึ่งในขณะเดียวกันสังคมและชุมชนรอบ ๆ โรงเรียนต้องมีส่วนในการเฝ้าระวังและป้องกันการเกิดความรุนแรงขึ้นในโรงเรียน

นายแพทย์กิตติศักดิ์ อักษรวงศ์ อธิบดีกรมสุขภาพจิต กล่าวต่อว่า กรมสุขภาพจิตขอความร่วมมือจากสื่อมวลชนและ Social Influencer ให้ระมัดระวังในการนำเสนอข่าวสารในสื่อยุคปัจจุบัน ควรมุ่งเน้นที่การเรียนรู้ร่วมกันเพื่อป้องกันในอนาคตมากกว่าการเจาะจงรายละเอียดวิธีการหรือแรงจูงใจของผู้ก่อเหตุซึ่งอาจส่งผลกระทบเชิงลบต่อกลุ่มเปราะบางในสังคมเพราะการชมข่าวเกี่ยวกับเหตุการณ์สะเทือนใจ

ข่าวความรุนแรงโดยตรงหรืออ้อมผ่านสื่อบ่อยครั้ง อาจทำให้ผู้ชมโดยเฉพาะเยาวชนเกิดโรคเครียดหลังเหตุการณ์สะเทือนขวัญ หรือ PTSD และอาจกลายเป็นการตอกย้ำและบ่มเพาะพฤติกรรมเลียนแบบโดยไม่ตั้งใจ โดยเมื่อเด็กหรือเยาวชนได้รับข่าวสารที่มีภาพความรุนแรงบ่อยครั้ง โดยเฉพาะผ่านโซเชียลมีเดีย อาจมองพฤติกรรมนั้นเป็นเรื่องธรรมดา หรือแม้แต่เป็นวิธีการหนึ่งในการแก้ปัญหาในชีวิตโดยไม่รู้ตัว

กรมสุขภาพจิตขอความร่วมมือจากทุกภาคส่วน เฝ้าระวังสัญญาณเสี่ยง หากพบพฤติกรรม และสัญญาณผิดปกติ ที่จะนำไปสู่การก่อความรุนแรง ควรรีบขอรับคำปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญ เพื่อป้องกันก่อนจะสายไป