เปิดคำชี้แจงฉบับเต็ม สมศักดิ์ วีโต้ แพทยสภาลงโทษหมอรักษาทักษิณ 

12 มิ.ย. 2568 | 06:54 น.
อัปเดตล่าสุด :12 มิ.ย. 2568 | 07:12 น.

เปิดรายละเอียดคำชี้แจง "สมศักดิ์" วีโต้มติแพทยสภาลงโทษ 3 แพทย์รักษา ทักษิณ ชี้การลงโทษต้องยึดข้อเท็จจริง เผยคณะสอบสวนใช้เวลา 5 เดือน 5 วัน กังขามติสุดท้ายโทษหนักขึ้น

12 มิถุนายน 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมกรรมการแพทยสภาวันนี้มีวาระสำคัญคือการพิจารณาประเด็นการวีโต้ของ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะสภานายกพิเศษแพทยสภากรณีที่แพทยสภาลงมติลงโทษแพทย 3 รายซึ่งเกี่ยวข้องกับการรักษานายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ชั้น 14 รพ.ตำรวจ เพื่อพิจารณาลงมติว่าจะยืนยันมติเดิมอีกครั้งหรือไม่

ทั้งนี้ ก่อนหน้านี้ นายสมศักดิ์ รมว.สาธารณสุข ได้ทำหนังสือถึง ศ.เกียรติคุณ พญ.สมศรี เผ่าสวัสดิ์ นายกแพทยสภาเพื่อขอเข้าร่วมประชุมชี้แจงประเด็นและอธิบายการวีโต้ดังกล่าวโดยได้เวลา 15 นาที สำหรับรายละเอียดสาระสำคัญของคำชี้แจงมีความยาวรวม 4 หน้ากระดาษ ปรากฎรายละเอียด ดังนี้ 

อาศัยอำนาจตามมาตรา 25 แห่งพระราชบัญญัติวิชาชีพเวชกรรม พ.ศ. 2525 รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะสภานายกพิเศษ มีหน้าที่โดยตรงในการพิจารณาให้ความเห็นต่อมติของแพทยสภาซึ่งถือเป็นกลไกสำคัญในการค้ำจุนจริยธรรมของวิชาชีพแพทย์ อันเป็นเสาหลักที่ประชาชนใช้ยึดโยงความเชื่อมั่นและไว้วางใจต่อการรักษาพยาบาลในสังคมไทยจริยธรรมทางการแพทย์นั้น มิใช่เพียงข้อบังคับ

หากแต่คือแก่นของวิชาชีพที่สะท้อนความรับผิดชอบของแพทย์ต่อชีวิตและศักดิ์ศรีของผู้ป่วย โดยต้องตั้งอยู่บนหลัก 4 ประการ คือ การเคารพเจตจำนงของผู้ป่วย การให้ประโยชน์สูงสุด การไม่ก่ออันตราย และการปฏิบัติอย่างเป็นธรรม ด้วยเหตุนี้ การให้ความเห็นต่อมติลงโทษแพทย์จึงต้องดำเนินการด้วยความรอบคอบ ละเอียดอ่อน และยึดมั่นในความเป็นธรรมอย่างแท้จริง ไม่ใช่การเอาผิดเพื่อตอบต่อกระแส แต่ต้องเป็นการตัดสินที่ตั้งอยู่บนข้อเท็จจริง เจตนา และบริบทของการปฏิบัติงานอย่างซื่อสัตย์สุจริต

ผมขอเรียนทุกท่านว่า ผมได้ใช้ข้อมูลและข้อเท็จจริงทั้งหมดที่ได้จากการสอบสวนของคณะอนุกรรมการสอบสวนชุดเฉพาะกิจ ซึ่งมีท่าน ศ.เกียรติคุณ นพ.อมร ลีลารัศมี เป็นประธาน โดยคณะอนุกรรมการชุดนี้ได้ปฏิบัติหน้าที่อย่างรอบคอบและทุ่มเท ใช้เวลาดำเนินการสอบสวนยาวนานถึง 5 เดือน 5 วัน โดยผลการพิจารณาชั้นคณะอนุกรรมการสอบสวนสวนชุดเฉพาะกิจ ปรากฏดังนี้:

1. นพ.วัฒน์ชัย มิ่งบรรเจิดสุข - มีความเห็นยกข้อกล่าวหา

2. พญ.รวมทิพย์ สุภานันท์ - เห็นควรลงโทษในระดับเบา โดยมีมติให้ "ว่ากล่าวตักเตือน"

3. พล.ต.ท. นพ.โสภณรัชต์ สิงหจารุ - มีความเห็นว่า "ควรภาคทัณฑ์"

4. พล.ต.ท. นพ.ทวีศิลป์ เวชวิทารณ์ - มีความเห็นชัดเจนว่า "ไม่มีความผิดทางจริยธรรม"

แม้ภายหลังจะปรากฏว่า เมื่อเรื่องเข้าสู่การพิจารณาของคณะกลั่นกรองและคณะกรรมการแพทยสภาในชั้นสุดท้าย มติที่ออกมา "กลับพลิกผัน" ไปจากผลการสอบสวน โดยมีการลงโทษที่สูงขึ้น ทั้งในรูปแบบของการพักใช้ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพเป็นระยะเวลาหลายเดือนซึ่งเป็นการตีความที่แตกต่างอย่างมีนัยสำคัญ และยังไม่ปรากฏว่า มีข้อเท็จจริงใหม่เพิ่มเติมที่ต่างจากชั้นสอบสวนแต่สิ่งที่ผมให้ความสนใจเป็นพิเศษและไม่อาจละเลยได้ก็คือ เหตุใดคณะกรรมการแพทยสภาชุดใหญ่ จึงไม่เห็นชอบตามผลการพิจารณาของคณะอนุกรรมการสอบสวนดังกล่าว หากไม่มีพยานหลักฐานใหม่เพิ่มเติม หรือเหตุผลที่หนักแน่นเพียงพอ

การเปลี่ยนแปลงมติอย่างมีนัยสำคัญในชั้นสุดท้ายเช่นนี้ ย่อมทำให้เกิดข้อสงสัยว่า มีแรงจูงใจอื่นใดที่อยู่นอกเหนือจากข้อเท็จจริงและหลักวิชาชีพมาประกอบในการตัดสินใจหรือไม่ในระหว่างกระบวนการพิจารณา ผมได้พยายามขอข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการพิจารณาของคณะอนุกรรมการกลั่นกรองจริยธรรมถึงสองครั้ง แต่ทางแพทยสภากลับมีความเห็นว่า ได้ส่งเอกสารให้ "เพียงพอแล้ว" ซึ่งในมุมมองของผม การไม่เปิดเผยข้อมูลสำคัญเช่นนี้ อาจเป็นผลเสียต่อการใช้ดุลยพินิจและการลงมติอย่างรอบด้านในวันนี้

การลงมติในครั้งนี้ ผมก็คาดหวังว่ากรรมการทุกคนที่มาลงมติจะมิได้เป็นผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย หากแต่เป็นผู้ที่สามารถคงไว้ได้ซึ่งความเป็นกลาง ผมขอเน้นย้ำอีกครั้งว่าการพิจารณาเสนอให้ยับยั้งมติในครั้งนี้ มิได้เกิดจากความเห็นส่วนตัวหรือการวินิจฉัยอย่างผิวเผิน หากแต่เกิดจากการใคร่ครวญข้อเท็จจริงอย่างละเอียดรอบด้าน แต่เนื่องจากผมมีความเห็นแตกต่างจากที่ประชุมแพทยสภาจึงนำมาสู่การประชุมในวันนี้ เพื่อให้ท่านทั้งหลายได้ร่วมกันพิจารณาอีกครั้งด้วยความรอบคอบที่สุด โดยผมขอชี้แจงเหตุผลการยับยั้งมติดังนี้ 

กรณี นพ.วัฒน์ชัย (ผู้ถูกร้องที่ 1) ถูกกล่าวหาว่าให้ข้อมูลทางการแพทย์ไม่ตรงกับข้อเท็จจริงนั้น คณะกรรมการแพทยสภาได้วินิจฉัยโดยรอบคอบและมีมติยกข้อกล่าวหาเมื่อพิจารณาร่วมกับเอกสารและข้อเท็จจริงทั้งหมด ผมเห็นว่า มติดังกล่าว สอดคล้องกับหลักนิติธรรม และเป็นธรรมต่อทุกฝ่าย จึงเห็นชอบตามมติของคณะกรรมการแพทยสภา

กรณี พญ.รวมทิพย์ (ผู้ถูกร้องที่ 2) ถูกกล่าวหาว่า ออกใบส่งตัวผู้ต้องขังแรกรับไม่ถูกต้อง เป็นเหตุให้ผู้ต้องขังถูกส่งไปรักษานอกเรือนจำ และถูกตีความว่าเป็นการไม่รักษามาตรฐานวิชาชีพเวชกรรม

อย่างไรก็ตาม การออกใบส่งตัวล่วงหน้าในขั้นตอนตรวจร่างกายผู้ต้องขังแรกรับเป็นแนวปฏิบัติปกติในเรือนจำเพราะเรือนจำไม่ใช่โรงพยาบาล ไม่มีแพทย์ประจำหรือแพทย์เฉพาะทางครบทุกสาขาและเป็นการเตรียมความพร้อมในกรณีที่ผู้ต้องขังมีความจำเป็นต้องได้รับการรักษาเฉพาะทาง 

ในกรณีนี้ แพทย์เพียงอนุญาตให้นําใบส่งตัวเดิมไปใช้ตามคําร้องของพยาบาลเวรในภาวะฉุกเฉิน โดยไม่ได้เป็นผู้มีอํานาจตัดสินใจส่งตัวผู้ต้องขังซึ่งเป็นอํานาจของผู้บัญชาการเรือนจํา พฤติกรรมของ พญ.รวมทิพย์ จึงอยู่ในขอบเขตของวิชาชีพแพทย์อย่าง เหมาะสม ไม่ปรากฏเจตนาทุจริต และไม่ควรถือเป็นความผิดทางจริยธรรม

กรณี หมอโสภณรัชต์ (ผู้ถูกร้องที่ 3) ถูกกล่าวหาว่า ให้ข้อมูลทางการแพทย์ ไม่ตรงกับความเป็นจริง จากการให้สัมภาษณ์นักข่าวถึงอาการเจ็บป่วยของผู้ต้องขังใน โรงพยาบาลตําารวจ ซึ่งถูกตีความว่า เป็นการสร้างความเข้าใจผิดว่า ผู้ป่วยอยู่ในภาวะวิกฤติ

แต่ข้อเท็จจริง คือ หมอโสภณรัชต์ฯ ไม่ได้กล่าวว่าผู้ป่วย "วิกฤติ" แต่อย่างใด คําพูดที่ว่า "ความดันยังสูงอยู่" และ "ยังมีอาการน่าเป็นห่วง" เป็นการอธิบายสภาพ ผู้ป่วยตามเวลานั้นไม่ใช่ข้อมูลบิดเบือน และมิได้ขัดแย้งกับเวชระเบียนในฐานะผู้บริหารโรงพยาบาล ซึ่งมิใช่แพทย์เจ้าของไข้ การตอบคําถามนักข่าว ต่อหน้า โดยมิได้นัดหมาย ถือเป็นการให้ข้อมูลตามหน้าที่โดยสุจริต การตีความถ้อยคํา ดังกล่าวว่าเป็นความผิดจริยธรรมจึงไม่เป็นธรรม และไม่ควรใช้เป็นเหตุลงโทษทางวิชาชีพ

กรณี พล.ต.ท. นพ. ทวีศิลป์ (ผู้ถูกร้องที่ 4) ถูกกล่าวหาว่าเขียนใบแสดง ความเห็นแพทย์ไม่ถูกต้อง เป็นเหตุให้ผู้ต้องขังได้รับอนุญาตให้นอนพักรักษาตัวต่อใน โรงพยาบาล ซึ่งถูกตีความว่า ให้ข้อมูลไม่ตรงกับความเป็นจริงเรื่องนี้ที่ท่านลงโทษหมอทวีศิลป์เพราะว่ามีการลงความเห็นการรักษาแพทย์ที่ไม่ตรงกัน

ความเห็นที่ไม่ตรงกันเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้ในการใช้ดุลยพินิจของแพทย์ ซึ่งข้อเท็จจริงจากการสอบสวน ความเห็นในใบแสดงความเห็นแพทย์ของหมอทวีศิลป์ ไม่มีข้อความส่วนใดเป็นเท็จแต่ข้อความที่ถูกลงโทษเกิดจากความเห็นแพทย์ที่มีความเห็นไม่ตรงกัน

เปิดคำชี้แจงฉบับเต็ม สมศักดิ์ วีโต้ แพทยสภาลงโทษหมอรักษาทักษิณ 

เปิดคำชี้แจงฉบับเต็ม สมศักดิ์ วีโต้ แพทยสภาลงโทษหมอรักษาทักษิณ 

เปิดคำชี้แจงฉบับเต็ม สมศักดิ์ วีโต้ แพทยสภาลงโทษหมอรักษาทักษิณ 

เปิดคำชี้แจงฉบับเต็ม สมศักดิ์ วีโต้ แพทยสภาลงโทษหมอรักษาทักษิณ  เปิดคำชี้แจงฉบับเต็ม สมศักดิ์ วีโต้ แพทยสภาลงโทษหมอรักษาทักษิณ