นางสาวรีน่า อุดมคุณธรรม ผู้ก่อตั้ง บริษัท แร่เบฟเวอเรจ จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายเครื่องดื่มน้ำแร่ธรรมชาติ ภายใต้แบรนด์ “ซิกตี้ ดีกรี” (6ty Degrees) เปิดเผยว่า ปัจจุบันตลาดน้ำดื่มในประเทศไทยมีมูลค่ารวมประมาณ 5.5 หมื่นล้านบาทต่อปี มีสัดส่วนตลาดน้ำแร่-น้ำด่าง 10% ซึ่งเติบโตเฉลี่ยประมาณ 8% ต่อปี ตามเทรนด์การรักสุขภาพของคนยุคใหม่ที่กำลังมาแรงในปัจจุบัน โดยภูมิภาคตะวันออกเฉียงใต้ก็เติบโตราว 6-8% ต่อปีเช่นเดียวกัน
สังเกตได้ว่าตลาดน้ำแร่-น้ำด่างค่อนข้างแข่งขันสูงและมีสงครามราคา ลดราคาลงเรื่อย ๆ มีผู้ประกอบการหน้าใหม่ทั้งรายเล็ก รายใหญ่เพิ่มขึ้นในทุกปี บริษัทแร่เบฟเวอเรจก็ถือเป็นผู้เล่นรายใหม่ที่เพิ่งเปิดตลาดครั้งแรกในปี 2566 สร้างโรงงานผลิตน้ำแร่ในแบรนด์ 6ty° Degrees (Sixty Degrees: ซิกตี้ ดีกรี) จากแหล่งน้ำที่ผ่านชั้นหินที่ความลึก 350 เมตร ที่อุณหภูมิ 60 องศา ด้วยงบลงทุนประมาณ 1,000 ล้านบาท อยู่บริเวณพื้นที่ต้นน้ำของดอยเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งยูเนสโก (UNESCO) ได้ประกาศให้ดอยเชียงดาวเป็นพื้นที่สงวนชีวมณฑลแห่งใหม่ของโลกอย่างเป็นทางการ อีกจุดขายคือ ฝาขวดรักษ์โลกที่มีดีไซน์เป็นชิ้นเดียวกับตัวขวดทำให้ฝาขวดไม่หล่นหายและยังสะดวกในการคัดแยกขยะด้วย
ในปี 2568 ตั้งเป้าไว้ว่าทิศทางการดำเนินธุรกิจจะเติบโตให้ได้ทั้งในประเทศและในต่างประเทศ มีกลุ่มเป้าหมายหลัก 70% คือกลุ่มคนอายุ 19-45 ปี อีก 20% คือกลุ่มอายุ 45-55 ปี และอีก 10% จะเป็นกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่มีแนวโน้มการเติบโตสูง โดยเฉพาะกลุ่มคนที่ใส่ใจในเรื่อง Health and Well-being อยู่ระดับตลาดแมสพรีเมียม (Mass Premium) ที่ลูกค้ามีกำลังซื้อสูงที่ต้องการสินค้าคุณภาพดีในราคาที่จับต้องได้
นางสาวรีน่า กล่าวว่า จะพยายามเดินหน้าบุกตลาด สิงคโปร์ เกาหลี ญี่ปุ่น อินโดนีเซีย บรูไน UAE และ CLMV ซึ่งอยู่ระหว่างการพูดคุยกัน คาดหวังในปี 2568 จะสามารถเจาะตลาดได้ 3 ประเทศ และการร่วมงาน THAIFEX – ANUGA ASIA 2025 มั่นใจได้ว่าจะสามารถเข้าถึงผู้นำเข้าในตลาดเป้าหมายได้ ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจค้าปลีกระดับพรีเมียม หรือแม้แต่โรงแรมและร้านอาหารไทยในประเทศนั้นๆ
“การร่วมงาน THAIFEX ครั้งนี้ทำให้เรามั่นใจว่า จะช่วยทำให้สามารถเข้าถึงผู้นำเข้าในตลาดเป้าหมายได้ ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจค้าปลีกระดับพรีเมียม หรือแม้แต่โรงแรมและร้านอาหารไทยในประเทศนั้นๆ ซึ่งจะสามารถตอกย้ำถึงแหล่งกำเนิดของน้ำแร่ 6ty Degrees ที่มาจากแหล่งน้ำแร่ธรรมชาติจากประเทศไทยได้”
ส่วนการทำตลาดในประเทศไทย จะเปิดตัวแคมเปญใหม่ 6ty Manifesto เพื่อสร้าง awareness กับกลุ่มผู้บริโภค ให้เห็นความแตกต่างของแบรนด์ในตลาดน้ำแร่ ประกอบด้วย 3 กลยุทธ์ คือ 1. การสื่อสารทางการตลาดครบวงจรเพื่อสร้างการรับรู้และจดจำแบรนด์กับผู้บริโภคในวงกว้าง ผ่านแคมเปญโฆษณาที่ผสมผสานกันระหว่าง functional และ emotional engagement ภายใต้แนวคิด “ชีวิตที่ดี เริ่มต้นที่ 60 องศา”
2. เปิดประสบการณ์กับแบรนด์ (Brand Experiential Activation) ให้เข้ากับไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ ผ่านแนวคิด More Than Water Activation ที่เน้นความสนุกแปลกใหม่ “ยกระดับรสชาติ เพิ่มคุณค่าให้มื้ออร่อย” และ 3. ผลิตภัณฑ์ใหม่ (New Product Development) ภายใต้คอนเซปต์ Active Healthy Lifestyle เพื่อเพิ่มโอกาสเข้าถึงผู้บริโภคกลุ่มใหม่ และบุกเข้าตลาดขวดแก้ว (Non-returnable glass bottle) รวมถึงน้ำแร่รสชาติผลไม้ผสมวิตามินสำหรับเด็ก
อย่างไรก็ตาม เศรษฐกิจโดยรวมของโลกรวมถึงในประเทศไทยสถานการณ์ไม่แน่นอน นักท่องเที่ยวก็มีแนวโน้มลดลง การเติบโตของธุรกิจสำหรับปีนี้คือความสามารถในการเข้าถึงกลุ่มลูกค้าใหม่ และต้องเร็ว ชูจุดแข็งของแบรนด์และคุณภาพ ขณะเดียวกันก็ต้องตอบโจทย์ผู้บริโภคให้ได้