28 พฤกษาคม 2568 กลุ่มเครือข่ายเยาวชนไม่นะกัญชาและยาเสพติด (YNAC) โดย นายยศกร ขุนภักดี เครือข่ายเยาวชนไม่นะกัญชาและยาเสพติด YNAC ส่งจดหมายเปิดผนึกถึงนายกฯ และผู้ที่เกี่ยวข้อง เรื่อง ขอเสนอแนะแนวทางการควบคุมกัญชาอย่างเร่งด่วนเพื่อความสงบเรียบร้อยและภาพลักษณ์ที่ดีของประเทศต่อนานาชาติ ซึ่งมีรายละเอียดดังนี้
ด้วยสถานการณ์ปัจจุบันเกี่ยวกับการใช้กัญชาในประเทศไทยซึ่งขาดการควบคุมที่มีประสิทธิภาพและส่งผลกระทบในเชิงลบต่อภาพลักษณ์ของประเทศ ทั้งในด้านสังคม ความปลอดภัย และมุมมองของนานาชาติ
สื่อ CNA ของประเทศสิงคโปร์ได้รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของกัญชาในประเทศไทยซึ่งสื่อถึงมาตรการควบคุมที่รัฐบาลไทยดำเนินการอยู่และสะท้อนภาพว่า ประเทศไทยอาจถูกมองว่า เป็นแหล่งผลิตยาเสพติดแห่งใหม่ของภูมิภาคหรือไม่
นอกจากนี้เมื่อวันที่ 27 พฤษภาคม 2568 ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) คณะกรรมการติดตามเร่งรัดการดำเนินงานป้องกัน ปราบปราม และแก้ไขปัญหายาเสพติด ครั้งที่ 3/2568 ภายหลังจากที่ ดร.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และที่ปรึกษาประธานอาเซียน กล่าวปาฐกถาพิเศษหัวข้อ "ยาเสพติด อาชญากรรมข้ามชาติ มุมมองและความท้าทายต่อการแก้ไขปัญหาอย่างยั่งยืน"
โดย พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ถามว่า ขณะนี้มีการนำพืชบางชนิดมาผสมกัน เช่น กัญชาผสมใบกระท่อม ทำให้ต่างประเทศมองว่าไทยเป็นแหล่งผลิตยาเสพติด ควรมีมาตรการอะไรหรือไม่
ดร.ทักษิณ กล่าวว่า เราเป็นประเภทที่ขวาไม่ดีไปซ้าย ซ้ายไม่ดีไปขวา ไม่ได้ยึดทางสายกลาง การเสรีต้องควบคุม ต้องดูตัวอย่างจากหลายประเทศที่เปิดกัญชาเสรีที่ไม่ได้เดือดร้อนไม่ได้มีปัญหาเพราะเขามีการควบคุมที่ดี บางอย่างไม่ต้องแก้กฎหมายเป็นมติคณะรัฐมนตรีก็ได้ เราไม่ควบคุมตั้งแต่เรื่องการท่องเที่ยวที่นักท่องเที่ยวมองว่า หาซื้อกัญชาที่ไหนก็ได้ ไม่ควบคุมเรื่องของการปรุงที่พบตามข่าว เช่น บราวนี่ใส่กัญชา
ในหลายประเทศ การปลดล็อกกัญชาจะกระทำหลังจากที่มีกฎหมายรองรับและมีมาตรการควบคุมที่ชัดเจน แตกต่างจากประเทศไทยที่ปลดล็อกก่อนโดยไม่มีระบบควบคุมที่เหมาะสม นำไปสู่ปัญหาการใช้ในทางที่ผิด ทั้งในเชิงนันทนาการ การจำหน่ายอย่างเสรีโดยไม่มีข้อจำกัด และการปรุงอาหารหรือผลิตภัณฑ์ที่อาจก่ออันตรายต่อผู้บริโภค เช่น บราวนี่ผสมกัญชา ซึ่งส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของนักท่องเที่ยวและภาพลักษณ์โดยรวมของประเทศ จากข่าวข้างต้นทำให้ยิ่งตอกย้ำความจำเป็นในการมีมาตรการควบคุมที่ชัดเจนและเป็นรูปธรรม
ข้าพเจ้าขอเสนอให้รัฐบาลดำเนินการเร่งด่วน โดยนำกัญชากลับเข้าสู่บัญชียาเสพติดให้โทษประเภทที่ 5 ตามที่เคยมีความตั้งใจในช่วงต้นของรัฐบาล ซึ่งสามารถดำเนินการได้โดยไม่ต้องรอกฎหมายฉบับใหม่ เพียงใช้มติของคณะกรรมการควบคุมยาเสพติด (ป.ป.ส.) เห็นชอบ ก็จะสามารถควบคุมสถานการณ์ได้อย่างทันท่วงที แล้วจึงจัดทำกฎหมายเฉพาะออกมารองรับในภายหลัง
หากยังมีความเห็นต่างในหมู่ประชาชน อาจพิจารณาจัดทำ ประชามติ เพื่อให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการกำหนดทิศทางว่า ควรอนุญาตให้ใช้กัญชาเฉพาะในทางการแพทย์ หรือในรูปแบบใด และควรมีการควบคุมอย่างไร
สุดท้ายนี้ ขอเรียนว่า การตัดสินใจเรื่องนี้ต้องอาศัยความกล้าหาญและคำนึงถึงผลกระทบของประเทศชาติและประชาชนโดยเฉพาะเยาวชนของชาติ มิใช่เพียงเพื่อรักษาสมดุลของพรรคร่วมรัฐบาลเท่านั้น