YNAC วอนนายกฯ เร่งคุมกัญชา หวั่นส่งผลกระทบภาพลักษณ์ประเทศ

29 พ.ค. 2568 | 11:00 น.
อัปเดตล่าสุด :29 พ.ค. 2568 | 11:02 น.

เครือข่าย YNAC ส่งจดหมายเปิดผนึกถึงนายกฯ เรียกร้องนำกัญชากลับเข้าบัญชียาเสพติดประเภท 5 หลังพบสื่อต่างชาติรายงานสถานการณ์กัญชาไทยขาดการควบคุม กระทบภาพลักษณ์ประเทศ

28 พฤกษาคม 2568 กลุ่มเครือข่ายเยาวชนไม่นะกัญชาและยาเสพติด (YNAC) โดย นายยศกร ขุนภักดี เครือข่ายเยาวชนไม่นะกัญชาและยาเสพติด YNAC ส่งจดหมายเปิดผนึกถึงนายกฯ และผู้ที่เกี่ยวข้อง เรื่อง ขอเสนอแนะแนวทางการควบคุมกัญชาอย่างเร่งด่วนเพื่อความสงบเรียบร้อยและภาพลักษณ์ที่ดีของประเทศต่อนานาชาติ ซึ่งมีรายละเอียดดังนี้

ด้วยสถานการณ์ปัจจุบันเกี่ยวกับการใช้กัญชาในประเทศไทยซึ่งขาดการควบคุมที่มีประสิทธิภาพและส่งผลกระทบในเชิงลบต่อภาพลักษณ์ของประเทศ ทั้งในด้านสังคม ความปลอดภัย และมุมมองของนานาชาติ

สื่อ CNA ของประเทศสิงคโปร์ได้รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของกัญชาในประเทศไทยซึ่งสื่อถึงมาตรการควบคุมที่รัฐบาลไทยดำเนินการอยู่และสะท้อนภาพว่า ประเทศไทยอาจถูกมองว่า เป็นแหล่งผลิตยาเสพติดแห่งใหม่ของภูมิภาคหรือไม่

นอกจากนี้เมื่อวันที่ 27 พฤษภาคม 2568 ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) คณะกรรมการติดตามเร่งรัดการดำเนินงานป้องกัน ปราบปราม และแก้ไขปัญหายาเสพติด ครั้งที่ 3/2568 ภายหลังจากที่ ดร.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และที่ปรึกษาประธานอาเซียน กล่าวปาฐกถาพิเศษหัวข้อ "ยาเสพติด อาชญากรรมข้ามชาติ มุมมองและความท้าทายต่อการแก้ไขปัญหาอย่างยั่งยืน"

YNAC วอนนายกฯ เร่งคุมกัญชา หวั่นส่งผลกระทบภาพลักษณ์ประเทศ

โดย พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ถามว่า ขณะนี้มีการนำพืชบางชนิดมาผสมกัน เช่น กัญชาผสมใบกระท่อม ทำให้ต่างประเทศมองว่าไทยเป็นแหล่งผลิตยาเสพติด ควรมีมาตรการอะไรหรือไม่

ดร.ทักษิณ กล่าวว่า เราเป็นประเภทที่ขวาไม่ดีไปซ้าย ซ้ายไม่ดีไปขวา ไม่ได้ยึดทางสายกลาง การเสรีต้องควบคุม ต้องดูตัวอย่างจากหลายประเทศที่เปิดกัญชาเสรีที่ไม่ได้เดือดร้อนไม่ได้มีปัญหาเพราะเขามีการควบคุมที่ดี บางอย่างไม่ต้องแก้กฎหมายเป็นมติคณะรัฐมนตรีก็ได้ เราไม่ควบคุมตั้งแต่เรื่องการท่องเที่ยวที่นักท่องเที่ยวมองว่า หาซื้อกัญชาที่ไหนก็ได้ ไม่ควบคุมเรื่องของการปรุงที่พบตามข่าว เช่น บราวนี่ใส่กัญชา 

ในหลายประเทศ การปลดล็อกกัญชาจะกระทำหลังจากที่มีกฎหมายรองรับและมีมาตรการควบคุมที่ชัดเจน แตกต่างจากประเทศไทยที่ปลดล็อกก่อนโดยไม่มีระบบควบคุมที่เหมาะสม นำไปสู่ปัญหาการใช้ในทางที่ผิด ทั้งในเชิงนันทนาการ การจำหน่ายอย่างเสรีโดยไม่มีข้อจำกัด และการปรุงอาหารหรือผลิตภัณฑ์ที่อาจก่ออันตรายต่อผู้บริโภค เช่น บราวนี่ผสมกัญชา ซึ่งส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของนักท่องเที่ยวและภาพลักษณ์โดยรวมของประเทศ จากข่าวข้างต้นทำให้ยิ่งตอกย้ำความจำเป็นในการมีมาตรการควบคุมที่ชัดเจนและเป็นรูปธรรม

ข้าพเจ้าขอเสนอให้รัฐบาลดำเนินการเร่งด่วน โดยนำกัญชากลับเข้าสู่บัญชียาเสพติดให้โทษประเภทที่ 5 ตามที่เคยมีความตั้งใจในช่วงต้นของรัฐบาล ซึ่งสามารถดำเนินการได้โดยไม่ต้องรอกฎหมายฉบับใหม่ เพียงใช้มติของคณะกรรมการควบคุมยาเสพติด (ป.ป.ส.) เห็นชอบ ก็จะสามารถควบคุมสถานการณ์ได้อย่างทันท่วงที แล้วจึงจัดทำกฎหมายเฉพาะออกมารองรับในภายหลัง 

หากยังมีความเห็นต่างในหมู่ประชาชน อาจพิจารณาจัดทำ ประชามติ เพื่อให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการกำหนดทิศทางว่า ควรอนุญาตให้ใช้กัญชาเฉพาะในทางการแพทย์ หรือในรูปแบบใด และควรมีการควบคุมอย่างไร 

สุดท้ายนี้ ขอเรียนว่า การตัดสินใจเรื่องนี้ต้องอาศัยความกล้าหาญและคำนึงถึงผลกระทบของประเทศชาติและประชาชนโดยเฉพาะเยาวชนของชาติ มิใช่เพียงเพื่อรักษาสมดุลของพรรคร่วมรัฐบาลเท่านั้น