โรคไข้ดิน อาการ และสาเหตุ หลังพบเสียชีวิต 92 ราย

02 ส.ค. 2568 | 03:20 น.
อัปเดตล่าสุด :02 ส.ค. 2568 | 03:25 น.

เตือนภัยโรคไข้ดิน คร่าชีวิตแล้ว 92 ราย ป่วยกว่า 2 พัน เสี่ยงสูงในกลุ่มเกษตรกร-ช่วงหน้าฝน แนะวิธีป้องกันและสังเกตอาการก่อนสาย

จากกรณีที่ นายอนุกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ช่วงฤดูฝน นอกจากโรคติดเชื้อในระบบทางเดินหายใจแล้ว ประชาชนยังต้องระมัดระวังโรคอื่นด้วย

ซึ่งข้อมูลจากกรมควบคุมโรค รายงานว่า มีประชาชนป่วยเป็น โรคเมลิออยโดสิส หรือ โรคไข้ดินแล้ว จำนวน 2,036 ราย เสียชีวิต 92 ราย อัตราป่วยตายอยู่ที่ 4.52% โดยผู้ป่วยพบมากในอาชีพเกษตรกร และรับจ้างทั่วไป พบผู้ป่วยได้ทั่วประเทศ แต่จะสูงสุดในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

รู้จักโรคไข้ดิน

โรคเมลิออยด์” หรือ “โรคไข้ดิน” เกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรีย Burkholderia pseudomallei ที่พบได้ทั่วไปในดิน น้ำ เชื้อจะเข้าสู่ร่างกายได้จากการสัมผัสน้ำหรือดินที่มีเชื้อปนเปื้อน ดื่มน้ำหรือรับประทานอาหารที่ปนเปื้อนเชื้อ และการสูดหายใจเอาฝุ่นจากดินที่มีเชื้อเจือปนอยู่เข้าไป หลังติดเชื้อ 1 – 21 วัน จะมีอาการป่วย แต่บางรายอาจนานเป็นปี ขึ้นอยู่กับปริมาณเชื้อที่ได้รับและภูมิต้านทานของแต่ละคน

อาการ

อาการของโรคนี้ไม่มีลักษณะเฉพาะ จะมีความคล้ายโรคติดเชื้ออื่น ๆ เช่น มีไข้สูง มีฝีที่ผิวหนัง ปวดท้อง ปวดข้อปวดกระดูก มีอาการทางระบบทางเดินหายใจ บางรายพบอาการทางระบบประสาทร่วมด้วย ส่วนใหญ่มักจะเริ่มจากอาการไข้ทำให้วินิจฉัยโรคได้ยาก ต้องตรวจเพาะเชื้อทางห้องปฏิบัติการ เพื่อใช้ตรวจวินิจฉัยและรักษา

 

วิธีป้องกัน

การป้องกันโรคนี้ ให้หลีกเลี่ยงการเดินลุยน้ำย่ำโคลน หรือแช่น้ำเป็นเวลานาน หากจำเป็นควรสวมรองเท้าบูท หรือถุงพลาสติกหุ้มรองเท้าไม่ให้เท้าสัมผัสน้ำโดยตรง กรณีมีบาดแผลควรปิดด้วยพลาสเตอร์กันน้ำ หมั่นล้างมือ ล้างเท้าด้วยน้ำสบู่บ่อย ๆ และอาบน้ำทันทีหลังจากลุยน้ำ หากมีอาการไข้สูงเฉียบพลัน ปวดศีรษะ ปวดเมื่อยตามตัว ให้รีบไปพบแพทย์ทันที

 

ที่มา : ภาพกรมส่งเสริมการเกษตร

ที่มา: กรมควบคุมโรค