นายวรวิทย์ ศิริพากย์ ผู้ก่อตั้งและซีอีโอแบรนด์ปัญญ์ปุริ กล่าวว่า แบรนด์น้ำหอม และเวลเนส ไลฟ์สไตล์ (Niche Fragrance and Wellness Lifestyle Brand) “ปัญญ์ปุริ” ก้าวสู่ปีที่ 22 ด้วยความมั่นคงทางธุรกิจและความแข็งแกร่งของแบรนด์ที่มากยิ่งขึ้น โดยในปี 2568 บริษัทฯ ปิดไตรมาสแรกด้วยยอดขาย 297 ล้านบาท เติบโตกว่า 20% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปี 2567 และกวาดรายได้ครึ่งปีแรกด้วยยอดขาย 521 ล้านบาท เติบโตกว่า 6% และตั้งเป้าปิดปี 2568 ด้วยยอดขายที่โตมากกว่า 10%
ปัจจุบันสัดส่วนของธุรกิจของปัญญ์ปุริประกอบไปด้วย ธุรกิจรีเทล 85% ธุรกิจบริการ 15% โดยธุรกิจ รีเทลมีสัดส่วน ผลิตภัณฑ์น้ำหอม (Fine Fragrances) ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวกาย ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวหน้า รวมกันกว่า 70% และเครื่องหอมในบ้าน 30% สำหรับธุรกิจบริการสปา และเวลเนสทั้งหมด 4 สถาน
นำเสนอบริการระดับตลาดลักส์ชัวรี่ได้แก่ ปัญญ์ปุริ เวลเนส เกษร ทาวเวอร์, ปัญญ์ปุริ ออร์แกนิค สปา โรงแรม Park Hyatt Bangkok, ปัญญ์ปุริ เวลเนส ฮาร์เบอร์โรงแรม Andaz Pattya Jomtien Beach และปัญญ์ปุริ ออร์แกนิค สปา ปีนัง นอกจากนี้ปัญญ์ปุริยังมีการใช้กลยุทธิ์การขยายสาขาในประเทศเน้นการออกแบบตกแต่งร้านที่โดดเด่น และมีจุดเด่นที่แตกต่างในสาขาหลักๆ ซึ่งได้รับความสนใจและเสียงตอบรับที่ดีอย่างมากทั้งกลุ่มลูกค้าในประเทศ และกลุ่มลูกค้านักท่องเที่ยว
ขณะที่ภาพรวมในปี 2567 ยอดขายเติบโตกว่า 92% ในสัดส่วนกำไร 177 ล้านบาท สะท้อนถึงการตอบรับเชิงบวกจากตลาด เป็นผลมาจากการให้ความใส่ใจในการออกแบบประสบการณ์ลูกค้า (Customer Experience) ที่แตกต่างกันในแต่ละสาขา ทั้งการวางคอนเซ็ปต์ และออกแบบร้านให้มีความน่าสนใจ และเอกลักษณ์เฉพาะตัว เพื่อสร้างประสบการณ์ที่ตอบโจทย์กลุ่มเป้าหมายที่หลากหลาย
พร้อมทั้งการขยายสาขาไปในกลุ่มเป้าหมายที่สำคัญ เพื่อการเข้าถึงกลุ่มลูกค้าที่เพิ่มมากขึ้น รวมไปถึงการสนับสนุนจาก โคเซ่ คอเปอเรชั่น (KOSÉ Corporation) บริษัทความงามชั้นนำจากประเทศญี่ปุ่น ทำให้การขยายตัวทางธุรกิจมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น โดยเน้นการขยายสาขาทั้งในประเทศ และต่างประเทศ นอกจากตลาดรีเทลของปัญญ์ปุริที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง ตลาดออนไลน์ในแพลตฟอร์มต่างๆ ก็ได้รับการตอบรับที่ดีเช่นเดียวกัน
"ในปี 2567 ที่ผ่านมา ปัญญ์ปุริมียอดขายผ่านช่องทางออนไลน์เพิ่มขึ้นกว่า 85% เมื่อเทียบกับปี 2566 สอดคล้องกับการขยายตัวของกลุ่มฐานลูกค้าของแบรนด์ที่อายุน้อยลง และเปลี่ยนช่องทางการซื้อสินค้า ที่เน้นช่องทางออนไลน์ สำหรับการขยายแบรนด์ในตลาดต่างประเทศ โดยได้รับการตอบรับที่ดี ภาพรวมเติบโตอย่างต่อเนื่องมากกว่า 70% ในปี 2566 จากการทำการตลาดอย่างต่อเนื่องในกลุ่มลูกค้าชาวต่างชาติ โดยเฉพาะกลุ่มลูกค้าจีน และในช่วงปี 2567 ได้เปิดตัว Flagship Store แห่งแรกในฮ่องกง ซึ่งได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี และถือเป็นก้าวสำคัญในการขยายตลาดต่างประเทศของบริษัท"
นอกจากนี้ ยังได้จับมือร่วมมือทางธุรกิจกับ โคเซ่ คอเปอเรชั่น ที่ไม่เพียงเสริมความแข็งแกร่งเชิงกลยุทธ์ให้กับบริษัทเท่านั้น แต่ยังเป็นโอกาสสำคัญในการขยายตลาดสู่ระดับโกลบอล โดยเฉพาะในประเทศญี่ปุ่น จีน และภูมิภาคเอเชีย ซึ่งถือเป็นตลาดศักยภาพสูง โดยมีแนวทางในการขยายตัวสู่ตลาดต่างประเทศผ่านการนำเสนอจุดแข็งในฐานะแบรนด์ Niche Fragrance และ Wellness Lifestyle ในตลาดลักส์ชัวรี่
นายวรวิทย์ กล่าวว่า ปัญญ์ปุริเน้นการสื่อสารผ่านภาพลักษณ์ Storytelling ที่แตกต่าง เพื่อให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายของตลาดเฉพาะกลุ่ม สำหรับการขยายตัวทางธุรกิจในประเทศ ทั้งในส่วนของธุรกิจรีเทล และธุรกิจสปา รวมถึงเน้นกระจายและเปิดสาขาใหม่ในหลากหลายรูปแบบ ทั้งร้านแบบ Full Scale และร้าน POP UP ในทำเลศักยภาพสูง (Prime Location) ในกรุงเทพและหัวเมืองใหญ่ที่สำคัญ เพื่อขยายตลาดและเข้าถึงกลุ่มลูกค้าเป้าหมายที่หลากหลายมากขึ้น โดยตั้งเป้าขยายสาขาทั้งในประเทศและต่างประเทศ อาทิ ญี่ปุ่น จีน สิงคโปร์ และฮ่องกง มากกว่า 50 สาขา ภายในปี 2572