บุหรี่ไฟฟ้า ภัยเงียบเยาวชน! สสส. หนุน อปท. สร้างพื้นที่ปลอดภัย

30 เม.ย. 2568 | 08:44 น.
อัปเดตล่าสุด :03 พ.ค. 2568 | 08:53 น.

สสส. เตือนภัยเงียบ! "บุหรี่ไฟฟ้า" ล่อลวงเยาวชนสู่สิ่งเสพติด เร่ง อปท. ภาคเหนือใช้ Ottawa Charter เป็นเข็มทิศ สร้างชุมชนปลอดบุหรี่เข้มแข็ง ยั่งยืน

วันที่ 29 เม.ย. 2569 สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ร่วมกับ ภาคีเครือข่าย จัดเวทีการประชุมเชิงปฏิบัติการ เพื่อเสริมศักยภาพและสนับสนุนชุมชนท้องถิ่น ในการเพิ่มประสิทธิภาพการควบคุมการบริโภคบุหรี่ และบุหรี่ไฟฟ้า อย่างยั่งยืน โดยมีตัวแทนภาคีเครือข่ายทั่วประเทศเข้าร่วมแลกเปลี่ยนเรียนรู้เพื่อนำไปปรับใช้กับพื้นที่ของตนเอง

 

บุหรี่ไฟฟ้า ภัยเงียบเยาวชน! สสส. หนุน อปท. สร้างพื้นที่ปลอดภัย

 

นายพิทยา จินาวัฒน์ กรรมการบริหารแผน คณะที่ 1 สสส. เปิดเผย ถึงสถานการณ์เสพติด ในกลุ่มเยาวชน โดยย้ำว่า บุหรี่และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ถือเป็น ประตูที่นำไปสู่ยาเสพติดผิดกฎหมายชนิดอื่น ๆ พร้อมแชร์ประสบการณ์ส่วนตัวในวัยหนุ่มที่เคยใช้ชีวิตกับปัจจัยเสี่ยง แต่ตัดสินใจเลิกเพราะตระหนักได้ว่าเป็นอันตรายต่อสุขภาพและเป็นห่วงคนในครอบครัว
 

นายพิทยา กล่าวว่า แม้ปัจจุบันสถานการณ์สูบบุหรี่จะลดลง แต่ ‘บุหรี่ไฟฟ้า’ เป็นเรื่องใหม่ที่น่ากังวล เนื่องจากกลายความนิยมที่อันตรายในกลุ่มเยาวชน ด้วยรูปลักษณ์ที่ดึงดูด คล้ายของเล่น มีการตลาดแฝงผ่านโซเชียลมีเดีย และถูกเข้าใจผิดว่า “อันตรายน้อยกว่าบุหรี่มวนธรรมดา” ซึ่งไม่เป็นความจริง เพราะงานวิจัยจำนวนมากชี้ชัดถึงผลกระทบต่อปอด สมอง และพัฒนาการของเด็ก

 

นายพิทยา จินาวัฒน์ กรรมการบริหารแผน คณะที่ 1 สสส.

 

“ได้เข้ามามีบทบาทสนับสนุนการรณรงค์และป้องกัน โดยเน้นการป้องกันต้นน้ำ ผ่านการเสริมศักยภาพเครือข่าย ทั้งภาครัฐ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และภาคประชาสังคม ให้ทำหน้าที่ ตาสับปะรดเฝ้าระวังสินค้าใหม่ เทคนิคการตลาด และกลไกการเข้าถึงของเด็กและเยาวชน” นายพิทยา กล่าว
 

นายพิทยา กล่าวว่า บทบาทขององค์กรปกครองท้องถิ่น ถือว่าเป็น ‘ด่านหน้า’ ที่รู้ปัญหาของพื้นที่ดีที่สุด และต้องพิสูจน์ให้เห็นว่าสามารถยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนได้ พร้อมเรียกร้องให้ช่วยกันผลิตสื่อรณรงค์ที่เข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย โดยเฉพาะเยาวชน ด้วยภาษาและรูปแบบที่เข้าใจง่าย ภายใต้การสนับสนุนข้อมูลและผู้เชี่ยวชาญจาก สสส. และย้ำว่า “บุหรี่ไฟฟ้าไม่ใช่แค่เรื่องสุขภาพ แต่เป็น บทพิสูจน์ความเข้มแข็งของท้องถิ่น และความสามารถของสังคมไทยในการปกป้องอนาคตของเยาวชนจากภัยเสพติดรูปแบบใหม่”

 

นายแพทย์ชัย กฤติยาภิชาตกุล ผู้เชี่ยวชาญด้านการควบคุมยาสูบ

 

ขณะที่ นายแพทย์ชัย กฤติยาภิชาตกุล ผู้เชี่ยวชาญด้านการควบคุมยาสูบ กล่าวว่า ถึงการขับเคลื่อนประเด็นผ่านองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในภาคปฏิบัติ โดยยึดประชาชนเป็นศูนย์กลาง และ  Ottawa Charter ยุทธศาสตร์ที่จะช่วยขับเคลื่อนงาน อปท. ให้เกิดประสิทธิภาพ ซึ่งในอดีตคนมักจะมองว่าการควบคุมบุหรี่เป็นเรื่องของโรงพยาบาล หรือ กระทรวงสาธารณสุขเท่านั้น แต่จากการลงพื้นที่ทำงานร่วมกับ อปท. ทำให้เห็นภาพตรงกันว่า อปท. มีบทบาทสำคัญในการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมสุขภาพของประชาชน เพราะ อปท.อยู่ใกล้ชิดชุมชนมากที่สุด มีโอกาสสร้างความเข้าใจที่ลึกซึ้ง และสามารถออกแบบกิจกรรมให้เหมาะสมกับบริบทได้จริง
“เรื่องบุหรี่ไม่ใช่เรื่องสุขภาพโดยตรง ไม่เหมือนผู้ป่วยติดเชื้อแล้วเป็น แต่บุหรี่เป็นเรื่องที่มีปัญหา ทั้งเรื่อง สังคม สิ่งแวดล้อม เศรษฐกิจ สารพัดที่เกี่ยวข้อง องค์การอนามัยโลก (WHO) จึงต้องเสนอองค์การสหประชาชาติ ซึ่งดูทุกเรื่องของทุกประเทศทั่วโลก ว่าต้องอาศัยทุกภาคส่วน ต้องอาศัยกลไกในทุก ๆ ด้านมาช่วยกัน เมื่อปี 2554 ในที่ประชุมผู้นำทุกประเทศ รวมทั้งไทยด้วย ตกลงกันว่า เราจะต้องลดการตายจาก NCDs ลงให้ได้ 25% ภายในปี 2568 ซึ่งเป้าหมายของ อปท. คือการลดการสูบบุหรี่” นายแพทย์ชัย กล่าว

 

นายแพทย์ชัย ได้อธิบายถึง Ottawa Charter คือ แนวคิดหลัก 5 ด้าน ที่ อปธ. สามารถนำมาประยุกต์ใช้ ได้แก่

 

1. การกำหนดนโยบายสาธารณะที่ส่งเสริมสุขภาพ เช่น การออกข้อบัญญัติ อปท. ในการจำกัดการสูบบุหรี่ในพื้นที่สาธารณะ หรือการจัดสรรงบประมาณสนับสนุนกิจกรรมปลอดบุหรี่

 

2. การสร้างสิ่งแวดล้อมที่เอื้อต่อสุขภาพ เช่น การติดป้ายเขตปลอดบุหรี่ในสถานที่ต่าง ๆ การจัดสภาพแวดล้อมโรงเรียนหรือวัดให้เป็นพื้นที่ปลอดบุหรี่จริง

 

3. การเสริมสร้างความเข้มแข็งให้แก่ชุมชน เช่น การตั้งชมรมเยาวชนปลอดบุหรี่ หรือกลุ่มแม่บ้านรณรงค์ไม่ให้ลูกหลานเข้าถึงบุหรี่

 

บุหรี่ไฟฟ้า ภัยเงียบเยาวชน! สสส. หนุน อปท. สร้างพื้นที่ปลอดภัย

 

4. การพัฒนาทักษะส่วนบุคคล ผ่านกิจกรรมอบรมให้ความรู้ การสื่อสารในรูปแบบต่าง ๆ ให้คนในชุมชนมีความสามารถในการป้องกันตนเองจากภัยของบุหรี่

 

5. การปรับระบบบริการสุขภาพให้ตอบสนองประชาชนมากขึ้น เช่น การร่วมมือระหว่าง รพ.สต. กับ อปท. ในการเยี่ยมบ้านผู้ป่วยเรื้อรังที่ยังสูบบุหรี่ เพื่อให้คำปรึกษาและช่วยเลิกบุหรี่อย่างต่อเนื่อง

 

“การสร้างพื้นที่ปลอดบุหรี่ไม่ใช่แค่การห้ามสูบ แต่คือการสร้างวัฒนธรรมใหม่ที่ทุกคนในชุมชนมีส่วนร่วม ยิ่งมีคนเห็นด้วยมากเท่าไร พลังการเปลี่ยนแปลงก็จะมากขึ้นตามไปด้วย อปท. จำนวนไม่น้อยที่มีจุดเริ่มต้นเล็ก ๆ เช่น การไม่รับของขวัญปีใหม่จากบริษัทบุหรี่ หรือการประกาศเขตปลอดบุหรี่รอบวัด แล้วค่อย ๆ ขยายผลออกไปสู่ตลาด โรงเรียน ศูนย์เด็กเล็ก และพื้นที่ส่วนรวมอื่น ๆ ซึ่งทั้งหมดนี้คือกระบวนการสร้างการเปลี่ยนแปลงที่ยั่งยืนจากฐานราก” นายแพทย์ชัย กล่าว

 

บุหรี่ไฟฟ้า ภัยเงียบเยาวชน! สสส. หนุน อปท. สร้างพื้นที่ปลอดภัย

 

นางสวาท โกชุม นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลสันนาเม็ง อ.สันทราย จ.เชียงใหม่ กล่าวว่า เทศบาลได้จัดสรรงบประมาณเพื่อส่งเสริมการมีส่วนร่วมของเด็กและเยาวชน โดยจัดตั้งสภาเด็กและเยาวชนตำบลสันนาเม็ง เพื่อทำหน้าที่เป็นพลังขับเคลื่อนการเรียนรู้และสื่อสารเรื่องพิษภัยของบุหรี่และบุหรี่ไฟฟ้าในกลุ่มเยาวชน ขยายผลไปสู่โรงเรียนและชุมชน พร้อมประกาศขอความร่วมมืองดสูบบุหรี่ในสถานที่ราชการ และจัดทำ MOU กับผู้นำชุมชนให้งานมงคลและงานศพเป็นพื้นที่ปลอดบุหรี่และแอลกอฮอล์ นอกจากนี้ยังร่วมมือกับร้านค้าในพื้นที่ทำ MOU ไม่จำหน่ายบุหรี่ให้กับเด็กและเยาวชนอายุต่ำกว่า 18 ปี ส่งผลให้เห็นการลดลงของการสูบบุหรี่ในพื้นที่สาธารณะอย่างชัดเจน อีกหนึ่งกลไกสำคัญคือการใช้ สภาเด็กและเยาวชน และ อาสาสมัครสาธารณสุขน้อย (อสส.น้อย) ที่เป็นแกนกลางในการสร้างบทสนทนาในครอบครัวเกี่ยวกับพิษภัยของบุหรี่ ช่วยลดช่องว่างระหว่างวัย และสร้างวัฒนธรรมใหม่ในชุมชน

 

“ความสำเร็จครั้งนี้เกิดจากการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วน ทั้ง อสม. ผู้นำชุมชน เด็กและเยาวชน ผู้สูงอายุ กลุ่มสตรี แม่บ้าน และเครือข่ายภาคประชาชนที่ลุกขึ้นมาร่วมกันป้องกันภัยจากยาสูบ เราใช้สื่อหลากหลาย ทั้งออนไลน์ ป้ายประกาศ จดหมายข่าว รวมถึงจัดเวทีประชาคมอย่างสม่ำเสมอ” นางสวาท กล่าว

 

บุหรี่ไฟฟ้า ภัยเงียบเยาวชน! สสส. หนุน อปท. สร้างพื้นที่ปลอดภัย

 

นางสวาท กล่าวอีกว่า ในระบบบริการสุขภาพ เทศบาลได้ยกระดับบริการในพื้นที่ให้ครอบคลุมทั้งเชิงป้องกันและการรักษา โดยจัดคลินิก NCDs ให้คำปรึกษาเลิกบุหรี่ทุกวันจันทร์ และจัดตั้งคลินิกเลิกบุหรี่โดยแพทย์แผนไทย ที่ศูนย์บริการสาธารณสุขของเทศบาล พร้อมใช้ระบบ JHCIS คัดกรองผู้ป่วยโรคทางเดินหายใจเรื้อรัง (COPD) และผู้ติดสุราเรื้อรัง รวมถึงมีระบบส่งต่อกรณีเลิกบุหรี่ไม่สำเร็จไปยังโรงพยาบาลสันทราย ผลการดำเนินงานตลอดช่วงที่ผ่านมา มีผู้สามารถเลิกบุหรี่ได้สำเร็จแล้วถึง 40 ราย นับเป็นผลลัพธ์ที่ชี้ให้เห็นถึงพลังของการขับเคลื่อนนโยบายสาธารณะเชิงสุขภาวะอย่างยั่งยืนในระดับท้องถิ่น