'ฮุน เซน' โพสต์ยืนยัน กัมพูชา 'ไม่มีทหารรับจ้างรัสเซีย'
"ฮุน เซน" โพสต์โต้รายงานข่าวกรองไทยอย่างรุนแรง ปฏิเสธการจ้างทหารรับจ้างรัสเซียหรือต่างชาติเข้าร่วมสู้รบ/เป็นที่ปรึกษาทหาร ยืนยันปกป้องศักดิ์ศรีของกัมพูชาและรัสเซีย พร้อมเน้นย้ำ กัมพูชาไม่มีกองทัพต่างชาติบนแผ่นดินตั้งแต่ UNTAC ถอนตัวในปี 2536
สมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา ซึ่งเป็นบิดาของนายกรัฐมนตรีกัมพูชา ได้โพสต์ข้อความบนเฟซบุ๊กส่วนตัวเพื่อชี้แจงอย่างเป็นทางการและปฏิเสธรายงานข่าวจากสื่อไทยบางสำนัก ที่ระบุว่ามีทหารชาวรัสเซียและชาวต่างชาติอื่น ๆ กำลังเข้าร่วมในการสู้รบ หรือเป็นที่ปรึกษาทางทหารในประเทศกัมพูชา
เพื่อรักษาเกียรติและศักดิ์ศรีของกัมพูชา รวมถึงรัสเซียและชาวต่างชาติอื่น ๆ ที่ถูกกล่าวหา สมเด็จฮุน เซน ได้ยืนยันว่า กัมพูชาไม่มีพลเมืองชาวรัสเซียหรือชาวต่างชาติอื่น ๆ เข้าร่วมในการสู้รบในสนามรบ หรือทำหน้าที่เป็นที่ปรึกษาทางทหารให้กับกองทัพกัมพูชาแต่อย่างใด
ประธานวุฒิสภากัมพูชาเน้นย้ำว่า กัมพูชาไม่มีกองทัพต่างชาติใด ๆ บนแผ่นดินกัมพูชา นับตั้งแต่กองกำลังรักษาสันติภาพของ UNTAC (องค์การบริหารชั่วคราวแห่งสหประชาชาติในกัมพูชา) ถอนตัวออกไปจากประเทศในปี 2536 (1993)
อย่างไรก็ตาม สมเด็จฮุน เซน ระบุว่า กัมพูชาเคยมีกองทัพต่างชาติเข้ามาเพื่อทำการฝึกซ้อมรบร่วมหลายชาติหรือทวิภาคี โดยเฉพาะกองทัพเรือต่างชาติที่เดินทางเข้ามาทางท่าเรือสีหนุวิลล์ ซึ่งถือเป็นแนวปฏิบัติปกติที่ประเทศอื่น ๆ ก็ทำเช่นกันภายใต้กรอบความร่วมมือด้านการป้องกันประเทศ
นอกจากนี้ กัมพูชายังรับทราบว่าในปัจจุบันมีพลเมืองต่างชาติหลากหลายเชื้อชาติจำนวนมากอาศัยอยู่ในประเทศ โดยมีสถานะเป็น นักท่องเที่ยว นักลงทุน ผู้เชี่ยวชาญด้านเทคนิค หรือพนักงานที่ทำงานให้กับบริษัทต่างชาติหรือบริษัทในประเทศ แต่ยืนยันว่าบุคคลเหล่านี้ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับกิจการทางทหารหรือการสู้รบใด ๆ ทั้งสิ้น
บริบทของการชี้แจง
การชี้แจงของสมเด็จฮุน เซน เกิดขึ้นหลังจากที่ตำรวจภูธรพลกรัง จังหวัดนครราชสีมา ได้ออกประกาศเตือนประชาชนให้ช่วยเฝ้าระวังและแจ้งเบาะแสบุคคลต้องสงสัย โดยเฉพาะชาวรัสเซียและ "แขกขาว" เนื่องจากมีรายงานข่าวกรองที่ระบุว่าอาจมี ทหารรับจ้างชาวรัสเซียซึ่งถูกว่าจ้างจากกัมพูชา อาจลักลอบเข้ามาพักอาศัยในพื้นที่และมีเป้าหมายเข้ามาก่อเหตุในจุดยุทธศาสตร์สำคัญที่เชื่อมโยงกับสถานการณ์ปะทะบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา
ในขณะเดียวกัน สถานเอกอัครราชทูตรัสเซียประจำประเทศไทยก็ได้ออกแถลงการณ์ปฏิเสธข่าวลือดังกล่าวอย่างชัดเจน โดยระบุว่า ข่าวที่ว่าพลเมืองรัสเซียเข้ามาพัวพันในฐานะทหารรับจ้างที่ถูกกัมพูชาว่าจ้างนั้น ไม่มีมูลความจริง และเชื่อว่าข่าวดังกล่าวถูกสร้างขึ้นโดยมีเป้าหมายเพื่อสร้างความเสียหายต่อมิตรภาพอันยาวนานระหว่างรัสเซียและไทย พร้อมทั้งยืนยันจุดยืนของกระทรวงการต่างประเทศรัสเซียที่ สนับสนุนการแก้ไขข้อพิพาทบริเวณชายแดนไทยและกัมพูชาด้วยสันติวิธีเท่านั้น