อัปเดตสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ประจำวันที่ 16 ธ.ค.68

16 ธ.ค. 2568 | 08:27 น.
อัปเดตล่าสุด :16 ธ.ค. 2568 | 08:36 น.

กองทัพภาคที่ 2 อัปเดตสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ประจำวันที่ 16 ธ.ค.68 แจ้งเตือนปชช.หากเจอวัตถุต้องสงสัยคล้ายซากโดรน ห้ามเข้าใกล้เด็ดขาด

วันที่ 16 ธันวาคม 2568 ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 2 ได้สรุปสถานการณ์ตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา โดยระบุว่า จากการประเมินสถานการณ์ในภาพรวมในห้วง 8 วันที่ผ่านมา ฝ่ายกัมพูชามีการปรับเปลี่ยนรูปแบบการปฏิบัติการอย่างต่อเนื่อง ท่ามกลางแรงกดดันจากการปฏิบัติของฝ่ายเราในหลายพื้นที่สำคัญ โดยมีแนวโน้มการปฏิบัติการทางทหารต่อฝ่ายเราในห้วงเวลา ดังนี้

พื้นที่ช่องบก

  • ฝ่ายกัมพูชาเร่งเสริมความแข็งแรงของที่มั่น ปรับกำลังเข้าสู่การตั้งรับเต็มรูปแบบ มีเป้าหมายชัดเจนในการยึดตรึงกำลังฝ่ายเรา และชะลอการรุกให้ได้นานที่สุด

พื้นที่ช่องอานม้า

  • ฝ่ายกัมพูชาประสบปัญหาการบังคับบัญชาอย่างรุนแรง สถานการณ์บีบคั้นจนมีแนวโน้มต้องถอนตัวไปยังแนวต้านทานที่ 2 มิฉะนั้นอาจถูกตัดขาดโดยสมบูรณ์

พื้นที่สัตตะโสม – โดนตรวล – ซำแต

  • ฝ่ายกัมพูชาใช้การยิงสนับสนุนแบบ “ยิงแล้วย้ายฐาน” เพื่อลดความเสี่ยงจากการยิงโต้ตอบของฝ่ายเรา สะท้อนถึงความพยายามเอาตัวรอดท่ามกลางการครองอำนาจการยิงของฝ่ายเรา
     

พื้นที่พระวิหาร – ห้วยตามาเรีย

  • ฝ่ายกัมพูชาจำกัดการเคลื่อนไหว ซ่อนพรางกำลังและยุทโธปกรณ์อย่างเข้มงวด เพื่อหลีกเลี่ยงการตรวจจับและการทำลายจากอำนาจการยิงของฝ่ายเรา

พื้นที่ภูมะเขือ

  • จุดตรวจการณ์สำคัญแห่งนี้ถูกฝ่ายกัมพูชาระดมยิงกดดันอย่างต่อเนื่องเพื่อจำกัดการตรวจการณ์และการชี้เป้าของฝ่ายเรา 

พื้นที่ช่องจอม – ช่องระยี – ปลดต่า

  •  เส้นทางส่งกำลังบำรุงของฝ่ายกัมพูชาถูกตัดขาดอย่างมีนัยสำคัญ พื้นที่ส่วนหลังเริ่มมีความเสี่ยง ซึ่งถือเป็นปัจจัยวิกฤตต่อการดำรงกำลังในพื้นที่แนวหน้า

พื้นที่ช่องคนา

  • ฝ่ายกัมพูชาพยายามรวมอำนาจการยิงด้วยจรวดหลายลำกล้อง BM-21 เพื่อยิงรบกวน แต่การปฏิบัติดังกล่าวมีความเสี่ยงสูงต่อการถูกตรวจจับและทำลาย ของฝ่ายเรา

พื้นที่ปราสาทตาควาย – เนิน 350

  • ฝ่ายกัมพูชามีแนวโน้มดำรงการรบแบบหน่วงเวลา ใช้ที่มั่นดัดแปลงแข็งแรงและยุทธวิธีซุ่มโจมตี เพื่อยึดตรึงกำลังฝ่ายเราและซื้อเวลา

พื้นที่ช่องกร่าง

  • ฝ่ายกัมพูชายิงฉากป้องกันตามคำขอ เพื่อขัดขวางการรุกของฝ่ายเรา เมื่อเข้าสู่พื้นที่สังหาร ทำให้เมื่อคืนที่ผ่านมาฝ่ายเราได้รับความสูญเสีย

พื้นที่ปราสาทตาเมือน

  • ฝ่ายกัมพูชาสูญเสียขีดความสามารถในการรบอย่างชัดเจน จากการขาดแคลนอาวุธ กระสุน วัตถุระเบิด และยานเกราะ มีแนวโน้มต้องถอนตัว หรืออาจเลือกต้านทานเป็นระลอกสุดท้าย เพื่อรักษาเกียรติภูมิของหน่วย

ทั้งนี้ขอแจ้งเตือนประชาชนหากพบวัตถุต้องสงสัยคล้ายซากโดรน และวัตถุที่ตกจากโดรนห้ามเข้าใกล้โดยเด็ดขาด เพราะพบว่ามีการดัดแปลงเป็นระเบิดแสวงเครื่อง ซึ่งสามารถทำงานได้ทั้งจากถูกแรงกระทบ และสั่งระเบิดจากระยะไกลรวมทั้งระบบไฟฟ้าสถิตในพื้นที่ จนทำให้เกิดการระเบิดหากพบเห็นให้แจ้งเจ้าหน้าที่ทันทีหรือสายด่วนความมั่นคง 1374 เพื่อความปลอดภัยของทุกคน

กองทัพภาคที่ 2 ขอยืนยันว่า ได้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และดำเนินการปกป้องอธิปไตย และความปลอดภัยของประชาชนอย่างเต็มขีดความสามารถ พร้อมขอให้พี่น้องประชาชนติดตามข้อมูลจากทางราชการ และเชื่อมั่นในการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงต่อไป