KEY
POINTS
ความขัดแย้งชายแดนไทย–กัมพูชา ยังคงร้อนแรง แม้ว่าประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐอเมริกาจะออกมายืนยันว่าทั้งสองฝ่ายได้ ตกลงหยุดยิง ตามสายโทรศัพท์ระหว่างผู้นำเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา และให้กลับไปสู่ข้อตกลงสันติภาพเดิมที่เคยทำไว้ในเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา
อย่างไรก็ตาม รัฐบาลไทยและกองทัพไทยปฏิเสธอย่างชัดเจน ว่าไม่มีการหยุดยิงใด ๆ เกิดขึ้นจริงในเชิงปฏิบัติ และการสู้รบยังดำเนินต่ออย่างหนักหน่วง
นายกรัฐมนตรี อนุทิน ชาญวีรกูล ระบุหลังการหารือกับโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐ ว่า ไทยยังไม่มีการหยุดยิง กับกัมพูชา และยังคงดำเนินปฏิบัติการป้องกันอธิปไตยของชาติอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากไทยไม่ใช่ฝ่ายรุกราน แต่เป็นฝ่ายตอบโต้การละเมิดของกัมพูชา และการหยุดยิงจะต้องเริ่มจากฝั่งกัมพูชาก่อน
นายอนุทินย้ำว่า แม้ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ต้องการให้หยุดยิง แต่ไทยได้อธิบายว่าจะต้องมีการประกาศว่ากัมพูชาจะหยุดยิง ถอนกำลัง และยุติการละเมิดข้อตกลงก่อน จึงจะสามารถประกาศหยุดยิงได้จริง
แม้ทรัมป์จะกล่าวว่าไทยและกัมพูชาได้ตกลง “CEASE ALL SHOOTING” (หยุดยิงทั้งหมด หรือ ยุติการใช้อาวุธทุกชนิดทันที) แต่ในพื้นที่จริง เสียงปืนและระเบิดยังไม่หยุดลง โดยกระทรวงกลาโหมกัมพูชาระบุว่า กองทัพไทยใช้เครื่องบิน F-16 เข้าทิ้งระเบิดอย่างต่อเนื่อง บนดินแดนกัมพูชาหลายเป้าหมายในเช้าวันที่ 13 ธันวาคม ขณะที่กัมพูชายืนยันว่ายังไม่มีการหยุดยิงตามที่ทรัมป์กล่าวจริง และปฏิบัติการยังดำเนินต่อทั้งสองฝ่าย
สถานการณ์ด้านสนามรบจึงสวนทางกับภาพที่ทรัมป์พยายามนำเสนอ โดยการสู้รบยังคงเป็นไปอย่างรุนแรงและต่อเนื่อง แม้มีการอ้างว่าทั้งสองฝ่ายตกลงหยุดยิง
โดยสรุปจากข้อมูลล่าสุด ไทยยืนยันการตอบโต้เพื่อรักษาอธิปไตยและความปลอดภัยของประชาชนและไทยไม่ได้เห็นด้วยกับโดนัลด์ ทรัมป์ ที่โพสต์เฟซบุ๊ก ระบุไทย-กัมพูชาตกลงจะหยุดยิง และยุติการสู้รบทั้งหมดเริ่มตั้งแต่เย็นวันนี้ (13 ธ.ค. 2568) เป็นต้นไป โดยความจริงในพื้นที่ยังมีการปะทะกันอย่างต่อเนื่อง
ทั้งนี้ไทยต้องการให้กัมพูชาแสดงท่าที “ยุติการศึก” ก่อนที่จะสามารถประกาศหยุดยิงได้จริงในทางปฏิบัติตามที่ทรัมป์อ้างไว้ ขณะที่ปฏิบัติการยังคงดำเนินต่ออย่างเข้มข้น โดยยืนยันว่าการยุติการสู้รบจะต้องเริ่มจากฝ่ายกัมพูชาเสียก่อน จึงจะเป็นการหยุดยิงที่มีผลในทางปฏิบัติได้