รวมสุดยอดนวัตกรรม “เด็กไทยคิดเปลี่ยนโลก” จากเวทีฟอร์ด 2025

“ฟอร์ด ฟิแลนโทรพี” (Ford Philanthropy) เดินหน้าสานต่อภารกิจเพื่อสังคม ภายใต้ปรัชญา “สร้างผลกระทบที่ยั่งยืน ไม่ใช่แค่ CSR” ผ่านโครงการ Ford Smart Mobility Challenge 2025 ที่จัดขึ้นต่อเนื่องเป็นปีที่ 11 เพื่อเปิดพื้นที่ให้เยาวชนไทยได้โชว์ศักยภาพด้านนวัตกรรม และพัฒนา “ทักษะแห่งอนาคต” (Future Skills) ให้พร้อมต่อโลกการทำงานยุคใหม่

นางสาว เจน ฮอลโลเวย์ ผู้จัดการ ฟอร์ด ฟิแลนโทรพี ประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก กล่าวว่า โครงการพัฒนาเยาวชนดังกล่าวเริ่มต้นจากความสำเร็จในยุโรป ก่อนขยายมาสู่ประเทศไทย ซึ่งเป็นประเทศแรกนอกภูมิภาคที่นำโมเดลนี้มาปรับใช้ โดยมีเป้าหมายเพื่อสร้างเยาวชนที่คิดเป็น ทำเป็น และสามารถสร้างนวัตกรรมที่ยกระดับคุณภาพชีวิตของชุมชนได้จริง

แม้จะนำแนวคิดจากต่างประเทศมาใช้ แต่การพัฒนาในไทยต้องอิงบริบทของสังคมและวัฒนธรรมในประเทศ โดยเฉพาะความหมายของคำว่า “ชุมชน” ซึ่งในยุโรปอาจหมายถึงกลุ่มคนในเมืองหรือกลุ่มเฉพาะทาง แต่ในประเทศไทยหมายถึง “ชาวบ้าน” และผู้คนในท้องถิ่นที่มีชีวิตผูกพันกันอย่างใกล้ชิด จึงต้องปรับแนวทางดำเนินงานให้ตอบโจทย์สังคมจริง

ฟอร์ดมองว่า “ความสำเร็จ” ของโครงการไม่ได้วัดจากผลกำไรทางธุรกิจ แต่คือการทำให้เยาวชนสามารถเข้าถึงทรัพยากร ความรู้ และเครือข่ายที่ช่วยต่อยอดความคิดสร้างสรรค์ได้จริง

โครงการนี้จึงผสานความร่วมมือจากหลากหลายภาคส่วน ทั้งภาคเอกชน ภาคการศึกษา และองค์กรพัฒนาเอกชน เช่น

• สมาคมพัฒนาประชากรและชุมชน (PDA)
• สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (NIA)
• บริษัท ทีวีบูรพา จำกัด
• มหาวิทยาลัยชั้นนำอย่างธรรมศาสตร์และมหิดล

โดยเยาวชนจะได้รับการให้คำปรึกษาจากวิศวกรฟอร์ด (Mentor) และผู้เชี่ยวชาญด้านนวัตกรรม เพื่อพัฒนาความคิดจากต้นแบบสู่โครงการที่ใช้งานได้จริง

ในปี 2568 ฟอร์ดจัดโครงการภายใต้แนวคิด “Driving Innovation to Power the Future of Movement” หรือ “ขับเคลื่อนนวัตกรรมเพื่ออนาคตของการเดินทาง” โดยมุ่งพัฒนานวัตกรรม 3 ด้านหลัก

• การเข้าถึงและความเท่าเทียม (Mobility | Access & Inclusion)
• ความปลอดภัย (Mobility | Danger & Safety)
• สุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดี (Mobility | Wellbeing)

มีเยาวชนกว่า 138 ทีมจากทั่วประเทศ ส่งผลงานเข้าร่วมประกวด ก่อนคัดเหลือ 10 ทีมสุดท้ายเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศ เพื่อพัฒนาแนวคิดให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น โดยได้รับการอบรมเชิงลึกจากผู้เชี่ยวชาญในหัวข้อ เช่น

• เทคนิคการผลิตสื่อโดย “ทีวีบูรพา”
• แนวคิด Smart Mobility จากวิศวกรฟอร์ด
• STEAM 4 INNOVATOR จาก NIA

นางสาว เจน กล่าวต่อว่า ตลอด 11 ปีที่ผ่านมา โครงการนี้เปิดโอกาสให้เยาวชนไทยกว่า 2,000 คน จากกว่า 100 สถาบันการศึกษาทั่วประเทศ ได้เรียนรู้และพัฒนาทักษะด้านนวัตกรรม พร้อมต่อยอดความรู้สู่การสร้างธุรกิจและอาชีพในอนาคต

ปีนี้ยังเป็นปีแรกที่เปิดรับเยาวชนระดับมัธยมศึกษาและอาชีวศึกษาเข้าร่วมแข่งขัน เคียงข้างนักศึกษามหาวิทยาลัย เพื่อปลูกฝังการคิดเชิงสร้างสรรค์ตั้งแต่วัยเรียน

ฟอร์ด ฟิแลนโทรพี เป็นองค์กรอิสระจากฟอร์ด มอเตอร์ คอมพานี และไม่ใช่โครงการ CSR ในเชิงธุรกิจ แต่คือการลงทุนเพื่อ “พลังของเยาวชน” อย่างแท้จริง “สิ่งที่เราทำไม่ใช่เพื่อตอบโจทย์กฎเกณฑ์ใด ๆ แต่เพื่อรับฟังและร่วมพัฒนาสังคมอย่างยั่งยืน”

ทีมสุดยอดนวัตกรรมไทย “ขับเคลื่อนอนาคต” จากสนาม Ford Smart Mobility Challenge 2025

โครงการ Ford Smart Mobility Challenge 2025 ไม่เพียงเป็นเวทีให้เยาวชนไทยได้แสดงศักยภาพด้านความคิดสร้างสรรค์และเทคโนโลยีเท่านั้น แต่ยังสะท้อนให้เห็นถึงพลังของ “นวัตกรรมเพื่อสังคม” ที่เกิดจากความเข้าใจปัญหาในพื้นที่จริง จากโรงเรียนมัธยมจนถึงมหาวิทยาลัยชั้นนำของประเทศ เยาวชนเหล่านี้ได้พิสูจน์ว่าการเปลี่ยนโลกเริ่มต้นได้จากความคิดเล็ก ๆ ที่มุ่งแก้ปัญหาชุมชนรอบตัว

โรงเรียนกาฬสินธุ์พิทยาสรรพ์ จ.กาฬสินธุ์

“ผ้าปิดแผลรักษ์โลกจากเศษวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตร”
นวัตกรรมเพื่อสุขภาพและสิ่งแวดล้อมที่สร้างสรรค์จากวัสดุเหลือใช้ในท้องถิ่น ทีมเยาวชนได้คิดค้นผ้าปิดแผลจากเส้นใยหญ้าคา ใบอ้อย เปลือกข้าวโพด และฝ้าย เคลือบด้วยสารสกัดจากใบชะมวงและผักติ้ว ช่วยยับยั้งเชื้อ Staphylococcus aureus ซึ่งเป็นสาเหตุหลักของการติดเชื้อบริเวณแผล เป็นผลงานที่สะท้อนการนำความรู้วิทยาศาสตร์มาผสานกับภูมิปัญญาชุมชนอย่างลงตัว

โรงเรียนวารีเชียงใหม่ จ.เชียงใหม่

“ระบบเฝ้าระวังไฟป่าอัจฉริยะบนพื้นที่เสี่ยง”
ผลงานนวัตกรรมเพื่อสิ่งแวดล้อม ที่ผสานเทคโนโลยีเซ็นเซอร์และปัญญาประดิษฐ์ในการตรวจจับไฟป่าแบบเรียลไทม์ โดยวิเคราะห์ข้อมูลอุณหภูมิ ความชื้น ลม และ CO₂ รวมถึงภาพจากกล้องและข้อมูลดาวเทียมกว่า 10,000 ภาพ เพื่อทำนายการลุกลามของไฟและแจ้งเตือนผ่านโซเชียลมีเดียทันที ตัวอย่างของการใช้ข้อมูลใหญ่ (Big Data) และ IoT เพื่อรักษาทรัพยากรธรรมชาติอย่างยั่งยืน

โรงเรียนเฉลิมขวัญสตรี จ.พิษณุโลก

“เครื่องตรวจคัดกรองโรคเบาหวานเบื้องต้น”
นวัตกรรมด้านสุขภาพที่ออกแบบให้ใช้งานง่าย ปลอดภัย และเข้าถึงได้ โดยใช้เซ็นเซอร์ TGS1820 ร่วมกับสารสกัดแอนโดรกราโฟไลด์จากฟ้าทะลายโจร ตรวจจับอะซิโตนในลมหายใจ ซึ่งเป็นสัญญาณสำคัญของภาวะโรคเบาหวาน ระบบแสดงผลได้ทั้งบนหน้าจอ OLED และ Web Application แบบเรียลไทม์ ช่วยลดขั้นตอนและค่าใช้จ่ายในการตรวจเบื้องต้นของประชาชน

โรงเรียนมงฟอร์ตวิทยาลัย จ.เชียงใหม่

“BEDCARE เตียงอัจฉริยะ”
ผลงานที่ผสานกลไกหลายระบบเข้าด้วยกันเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตผู้ป่วยและผู้สูงอายุ เตียง BEDCARE มาพร้อมระบบวัดอุณหภูมิอัตโนมัติ กลไกพลิกตัวอัตโนมัติ และพัดลมระบายความร้อนเฉพาะจุด ควบคุมผ่าน PLC และ HMI เพื่อความสะดวกสบายและลดความเสี่ยงจากภาวะแผลกดทับ ถือเป็นตัวอย่างของ “นวัตกรรมเพื่อมนุษย์” ที่ออกแบบอย่างเข้าใจชีวิตจริง

วิทยาลัยเทคนิคอำนาจเจริญ จ.อำนาจเจริญ

“Smart Walk อุปกรณ์ช่วยฟื้นฟูการฝึกเดิน”
นวัตกรรมด้านกายภาพบำบัดที่ช่วยผู้สูงอายุและผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมองฝึกเดินได้อย่างปลอดภัย เชื่อมต่อระบบออนไลน์ผ่าน Touch Screen และแอปพลิเคชัน สามารถเก็บข้อมูล แจ้งเตือน และควบคุมการทำงานแบบเรียลไทม์ ลดภาระผู้ดูแลและเพิ่มประสิทธิภาพการฟื้นฟูในชุมชน

“HKA เครื่องกายภาพบำบัดสะโพก เข่า และข้อเท้า”
อีกหนึ่งผลงานจากทีมเดียวกันที่พัฒนาระบบ CPM (Continuous Passive Motion) แบบกึ่งอัตโนมัติ สำหรับผู้ป่วยในพื้นที่ห่างไกลโรงพยาบาล เพื่อให้สามารถทำกายภาพบำบัดได้ด้วยตนเอง เป็นนวัตกรรมที่ตอบโจทย์ “สังคมสูงวัย” ได้อย่างแท้จริง

วิทยาลัยเทคนิคสุราษฎร์ธานี จ.สุราษฎร์ธานี

“เครื่องซีลผักและผลไม้สุญญากาศด้วยพลังแรงดันน้ำ”
ต่อยอดภูมิปัญญาชาวบ้านสู่เครื่องมือที่ปลอดภัย ใช้งานง่าย และไม่ใช้ไฟฟ้า ด้วยหลักการรีดอากาศออกจากถุงด้วยแรงดันน้ำ ทำให้ผักไม่ช้ำ รักษาความสดได้นาน 1–2 สัปดาห์ เหมาะสำหรับเกษตรกรรายย่อยและกลุ่มแม่บ้าน เป็นนวัตกรรมเรียบง่ายแต่ทรงคุณค่าในเศรษฐกิจฐานราก

มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ จ.เชียงใหม่

“Honeycomb Speed Bump”
ลูกระนาดอัจฉริยะรูปแบบใหม่ที่ผสาน “ความปลอดภัย” เข้ากับ “พลังงานสะอาด” ด้วยโครงสร้างรังผึ้งแนวตั้ง (Out-of-Plane Honeycomb) ที่ดูดซับแรงกระแทก ลดอุบัติเหตุ และเปลี่ยนแรงกดจากรถให้เป็นพลังงานไฟฟ้าผ่านระบบเหนี่ยวนำแม่เหล็กไฟฟ้า พลังงานที่เก็บได้ถูกส่งไปยัง Supercapacitor และแบตเตอรี่ LiFePO₄ เพื่อจ่ายไฟให้ป้ายสัญญาณจราจรและไฟถนน คือการพลิกโครงสร้างพื้นฐานเดิมให้กลายเป็น “พลังงานแห่งอนาคต”

มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี จ.กรุงเทพฯ

“Graphene Battery from Leonardite Waste”
นวัตกรรมพลังงานสะอาดที่เปลี่ยนของเสียจากเหมืองถ่านหิน Leonardite ให้กลายเป็นวัตถุดิบผลิต Graphene สำหรับแบตเตอรี่ประสิทธิภาพสูง “Graphene Iodine Battery” เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและปลอดภัยต่อการใช้งาน สนับสนุนเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) และการเปลี่ยนผ่านสู่พลังงานสะอาดอย่างยั่งยืน

มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี และจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

“FloodNav: ระบบนำทางอัจฉริยะเพื่อการกู้ภัย”
ผลงานสุดล้ำที่นำเทคโนโลยีดิจิทัลมาช่วยชีวิตผู้คนในยามวิกฤติ “FloodNav” เป็นแพลตฟอร์มข้อมูลกลางที่รวบรวมภาพถ่ายดาวเทียม ข้อมูลภูมิสารสนเทศจาก GISTDA และข้อมูลภาคสนามแบบเรียลไทม์ เพื่อวิเคราะห์เส้นทางปลอดภัยสำหรับทีมกู้ภัยในสถานการณ์น้ำท่วมใหญ่ ระบบยังสามารถปรับแผนที่ตามสภาพจริงและสื่อสารระหว่างหน่วยงานได้ทันที ลดความล่าช้าในการประสานงาน คือตัวอย่างของ “เทคโนโลยีเพื่อชีวิต” ที่เกิดจากการเข้าใจปัญหาสังคมอย่างแท้จริง

ผลงานทั้งหมดนี้คือเสียงสะท้อนของคนรุ่นใหม่ที่ใช้ความรู้และเทคโนโลยีแก้ปัญหาสังคมจริง ตั้งแต่สุขภาพ สิ่งแวดล้อม ไปจนถึงการจัดการภัยพิบัติ ฟอร์ด ฟิแลนโทรพี และพันธมิตรเชื่อว่า นี่คือรากฐานของการพัฒนา “Future Innovators” ที่จะขับเคลื่อนประเทศไทยให้เดินหน้าอย่างยั่งยืน