กรมชลประทาน รายงานสถานการณ์น้ำในเขื่อนล่าสุด ประจำวันที่ 2 กันยายน 2568 ในส่วนของเขื่อนเจ้าพระยาจะมีการทยอยปรับการระบายน้ำผ่านเขื่อนเพิ่มมากขึ้น เพื่อให้สอดคล้องกับปริมาณฝนและน้ำทางตอนบน ขณะที่เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ก็จะมีการทยอยปรับเพิ่มการระบายน้ำ ทั้งนี้ขอให้ประชาชนเฝ้าระวังติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด ด้าน เขื่อนสิริกิติ์ ได้แจ้งว่าจะปรับลดการระบายน้ำ เนื่องจากอิทธิพลพายุ "หนองฟ้า" ทั้งนี้เพื่อลดผลกระทบในพื้นที่ท้ายเขื่อน
กรมชลประทาน อัปเดตสถานการณ์น้ำเจ้าพระยา วันที่ 2 กันยายน 2568 เวลา 06.00 น.
สถานี C.2 อ.เมือง จ.นครสวรรค์
สถานี C.13 เขื่อนเจ้าพระยา จ.ชัยนาท
ทั้งนี้ กรมชลประทาน ทยอยปรับการระบายน้ำผ่านเขื่อนเจ้าพระยาเพิ่มขึ้น ตั้งแต่เวลา 12.00 น. จากอัตรา 1,350 ลบ.ม./วินาที เป็น 1,450 ลบ.ม./วินาที ภายในเวลา 22.00 น. ของวันนี้(2 ก.ย. 68) และคงอัตราดังกล่าวต่อเนื่อง เพื่อให้สอดคล้องกับปริมาณน้ำทางตอนบนและฝนที่ตกในระยะนี้ ขอให้ประชาชนในพื้นที่เฝ้าระวังและติดตามข้อมูลสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด
จากการติดตามสถานการณ์ในลุ่มน้ำป่าสัก พบว่า มีแนวโน้มปริมาณน้ำไหลเข้าเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์เพิ่มขึ้น อย่างต่อเนื่อง โดยเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์มีปริมาณน้ำเก็บกัก ณ วันที่ 1 กันยายน 2568 อยู่ที่ 334 ล้าน ลบ.ม. หรือ 35 %
จากการคาดการณ์ว่าเดือนกันยายน 2568 และเดือนตุลาคม 2568 จะมีปริมาณน้ำไหลเข้าเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ รวม 2 เดือนประมาณ 1,400 ล้าน ลบ.ม. เทียบเคียงกับ ปี 2556 โดยมีแผนการระบายเดือนกันยายน 2568 รวมประมาณ 520 ล้าน ลบ.ม. (อัตรา ระบาย 200 ลบ.ม./วินาที หรือ 17.28 ล้าน ลบ.ม./วัน) และเดือนตุลาคม 2568 รวมประมาณ 900 ล้าน ลบ.ม.(อัตราระบาย 336 ลบ.ม./วินาที หรือ 29.03 ล้าน ลบ.ม./วัน) เพื่อเป็นการควบคุมระดับน้ำและปริมาณน้ำในเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ให้อยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสม
โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาป่าสักชลสิทธิ์ จะดำเนินการปรับเพิ่มการระบายน้ำจาก อัตรา 100 ลบ.ม./วินาที เป็น อัตรา 200 ลบ.ม./วินาที โดยทยอยปรับเพิ่มขึ้นเป็นลำดับ ในอัตราวันละ 20 ลบ.ม./วินาที และคงอัตรา 200 ลบ.ม./วินาที ต่อเนื่อง ทั้งนี้จะเริ่มดำเนินการ ในวันที่ 2 กันยายน 2568 ตั้งแต่เวลา 06.00 น. เป็นต้นไป
ดังนั้นเพื่อเป็นการป้องกันความเสียหายที่จะเกิดต่อทรัพย์สินของประชาชนจากการที่ระดับน้ำ ในแม่น้ำป่าสักเพิ่มสูงขึ้นจากเดิมอีกประมาณ 0.80 – 1.00 เมตร โดยระดับน้ำที่เพิ่มสูงขึ้นยังอยู่ในลำน้ำ ไม่เกิดสภาวะน้ำล้นตลิ่งแม่น้ำป่าสัก จึงใคร่ขอให้ประชาสัมพันธ์แจ้งเตือนประชาชนในพื้นที่ทราบ และติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิดต่อไป
จากอิทธิพลของพายุดีเปรสชัน “หนองฟ้า” ได้เกิดฝนตกหนักในหลายพื้นที่ ส่งผลให้น้ำไหลลงอ่างเก็บน้ำสิริกิติ์เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทั้งจากแม่น้ำสายหลัก ลำห้วยสาขา และการผันน้ำเข้าสู่เขื่อน ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อพื้นที่ท้ายเขื่อน
เพื่อเตรียมความพร้อมและลดผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น กรมชลประทานได้ร่วมกับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) กำหนดแผนการระบายน้ำจากเขื่อนสิริกิติ์ในช่วงวันที่ 1 – 7 กันยายน 2568 โดยในช่วงวันที่ 1 – 3 กันยายน จะมีการลดอัตราการระบายน้ำลงเหลือวันละ 25 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือ 290 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที และระหว่างวันที่ 4 – 7 กันยายน จะปรับเพิ่มเป็นวันละ 50 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือ 580 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ทั้งนี้จะมีการติดตาม ประเมิน และปรับแผนการระบายน้ำอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้สอดคล้องกับปริมาณฝนและระดับน้ำท้ายเขื่อนในแต่ละช่วงเวลา
อนึ่งสำนักงานชลประทานที่ 3 ได้เน้นย้ำให้เจ้าหน้าที่ในพื้นที่เฝ้าระวังสถานการณ์น้ำตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมประสานการทำงานร่วมกับหน่วยงานในพื้นที่อย่างใกล้ชิด และแจ้งเตือนประชาชนในพื้นที่เสี่ยงให้เตรียมพร้อม หากมีการเปลี่ยนแปลงของระดับน้ำที่อาจเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว