ติดเชื้อโควิดแล้วติดซ้ำจะยิ่งหนักขึ้น อันตรายอย่างไร เช็คเลย

26 ก.ค. 2565 | 20:11 น.

ติดเชื้อโควิดแล้วติดซ้ำจะยิ่งหนักขึ้น อันตรายอย่างไร เช็คเลยที่นี่มีคำตอบ หมอธีระวัฒน์ชี้ถ้าติด ควรต้องหายเร็วที่สุด

ศ.นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา (หมอธีระวัฒน์) ผู้อำนวยการศูนย์วิทยาศาสตร์สุขภาพโรคอุบัติใหม่ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว (ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา Thiravat Hemachudha)โดยมีข้อความว่า

 

ยิ่งติดซ้ำ ยิ่งหนักขึ้นในภายหลัง

 

เป็นเหตุผลที่ ถ้าติด ควรต้องหายเร็วที่สุด

 

แม้ว่าจะได้วัคซีนเต็มเหนี่ยวแล้วก็ตาม

 

แม้ว่าคราวที่แล้วเป็นเดลตา ครั้งใหม่เป็นโอมิครอนก็ตาม

 

แม้ว่าคราวที่แล้วเป็นโอมิครอน ครั้งใหม่เป็นโอมิครอนก็ตาม

 

ผลกระทบหนักขึ้นเป็นเงาตามตัว และลองโควิดยืดยาวขึ้น ในทุกๆครั้งที่ติดซ้ำใหม่ 

 

รวมถึงความเสี่ยงการเสียชีวิตจากโรคต่างๆ เช่น หัวใจ สมอง และภาระที่ต้องดูแลเพิ่มขึ้น

เป็นการวิเคราะห์ ทหารที่ปลดประจำการ จำนวน 257,427 คนที่ติดเชื้อครั้งเดียว กับ 38,926 คนที่มีติดเชื้อครั้งที่สองครั้งที่สามจนกระทั่งถึงสี่ครั้งหรือมากกว่า 

 

และเทียบกับประชากร 5.3 ล้านคนที่ไม่เคยติดเชื้อเลย

 

หมอธีระวัฒน์ยังเคยโพสต์ด้วยว่า 

 

ขอร้องทางการช่วยทำให้โควิดเป็นเรื่องปกติ 
(ด้วยความเคารพครับ)

 

ติดเชื้อโควิดแล้วติดซ้ำจะยิ่งหนักขึ้น

 

น้องๆหมอบอกว่า โรงพยาบาลเอกชนสั่งซื้อโมลนูพิราเวียร์ทำจากอินเดีย ยี่ห้อ mylan จากทางการไทย ได้ราคาชุดละ 10,600 บาท 

 

แต่หมอกันเองซื้อกัน ประมาณ 2,000 กว่าบาท ต่อชุด (40 เม็ด) 

 

หรือถูกกว่า จาก สปป ลาว เขมร อินเดีย (ยี่ห้อ เดียวกัน) เวียดนาม 


ประเทศเหล่านี้ขอความยินยอมจากบริษัทในการผลิตยาเองตั้งแต่ต้น 

ทำอย่างไรประเทศไทยถึงจะได้ราคาถูกแบบนี้และสามารถสั่งจ่ายได้เลย

 

ทั้งที่โรงพยาบาลทุกแห่งและที่สำคัญก็คือร้านขายยาทุกแห่ง ทั้งนี้ หลักเกณฑ์คือสีเหลืองขึ้นไป

 

ไม่ใช่ใช้เกินความจำเป็นจะได้ไม่ต้องกังวลเรื่องดื้อยา

 

และไม่ต้องกังวลว่าจะมียาปลอมหรือไม่ 

 

คนที่รู้จักสนิทกลับมาจากเวียดนามสองวันที่แล้ว

 

ยืนยันราคาตามนี้

 

ขายตามร้านขายยาทั่วไป

 

คนในประเทศเห็นเป็นเรื่องปกติแล้ว


ไม่สบายซื้อยาและได้ยาตามความเหมาะสมเลย

 

ไม่ใช่รออาการหนัก จนยาเหล่านี้ไม่ได้ผล (เพราะต้องใช้แต่เนิ่นๆ) และไม่ต้องหามเข้าโรงพยาบาลที่ไม่มีเตียง

 

ถ้าทางการมีการติดต่อ อย่างจริงจังเราก็น่าจะได้ผลบุญเช่นนี้