ชง ครม. เคาะแผนป้องกันแก้ปัญหา "ข่มขืน-คุกคามทางเพศ" เจอฟันวินัยร้ายแรง

15 ก.ค. 2565 | 02:11 น.

ครม. เตรียมพิจารณาเคาะแผนปฏิบัติการป้องกันและแก้ปัญหาข่มขืน-คุกคามทางเพศ หลังผ่านการเห็นชอบจากบอร์ดพัฒนาสถานภาพสตรีแห่งชาติ เรียบร้อย ปรับกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม ฟันวินัยร้ายแรงเจ้าหน้าที่ของรัฐที่ล่วงละเมิดทางเพศ

น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ขณะนี้ คณะกรรมการนโยบายและยุทธศาสตร์การพัฒนาสถานภาพสตรีแห่งชาติ (กยส.) ซึ่งมี นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานได้ให้ความเห็นชอบ (ร่าง) แผนปฏิบัติการเพื่อการป้องกันและแก้ไขปัญหาการข่มขืนกระทำชำเราและการล่วงละเมิดทางเพศแล้ว 

 

สำหรับขั้นตอนต่อจากนี้คณะกรรมการฯ จะนำเสนอแผนฉบับดังกล่าวต่อคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่อให้ความเห็นชอบต่อไป โดยรัฐบาลตระหนักถึงปัญหาการละเมิดและคุกคามทางเพศ ซึ่งเป็นปัญหาสังคมที่ต้องเร่งแก้ไขและบูรณาการความร่วมมือกันของหลายภาคส่วน

 

น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี

สำหรับแผนปฏิบัติการฯ แบ่งการดำเนินงาน 3 ส่วน ดังนี้ 

  1. ปรับความรู้และทัศนคติของสังคม โดยมีเป้าหมาย คือสร้างกลไกการป้องกันและเฝ้าระวังความรุนแรงทางเพศและการล่วงละเมิดทางเพศ ปรับระบบความคิดที่ไม่เพิกเฉยต่อปัญหาการข่มขืนกระทำชำเรา/ล่วงละเมิดทางเพศ และลดมายาคติของสังคม  สร้างพื้นที่สาธารณะที่ปลอดภัย 
  2. ปรับปรุงระบบงานเพื่อสร้างความเป็นธรรม โดยมีเป้าหมาย อาทิ ผู้เสียหายได้รับการคุ้มครองสิทธิและสวัสดิภาพ เข้าถึงบริการที่เป็นมิตรและเป็นธรรม ปรับพฤติกรรมผู้กระทำความผิดและป้องกันการกระทำผิดซ้ำ 
  3. ปรับมาตรการทางวินัย กฎหมายและกระบวนการยุติธรรม เพื่อให้ความช่วยเหลือผู้เสียหาย โดยมีเป้าหมาย อาทิ ปรับปรุงเนื้อหาของกฎหมายคุ้มครองสิทธิและสวัสดิภาพผู้เสียหายในความผิดเกี่ยวกับเพศ ปรับกระบวนการยุติธรรมเพื่อคุ้มครองสิทธิและสวัสดิภาพผู้เสียหายให้มีประสิทธิภาพ มีมาตรการให้สามารถลงโทษทางวินัยร้ายแรงแก่เจ้าหน้าที่ของรัฐที่ล่วงละเมิดทางเพศ

ทั้งตี้ตั้งแต่ปี 2563 รัฐบาลได้ออก 12 มาตรการในการป้องกันและแก้ไขปัญหาการล่วงละเมิดหรือคุกคามทางเพศในการทำงาน ตามที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและมั่นคงของมนุษย์เสนอ ประกอบด้วย มาตรการต่าง ๆ เช่น

  • หน่วยงานต้องมีการประกาศเจตนารมณ์เป็นลายลักษณ์อักษร โดยประชาสัมพันธ์ให้บุคลากรในองค์กรรับทราบอย่างทั่วถึง
  • หน่วยงานต้องมีการจัดทำแนวปฏิบัติเพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหาการล่วงละเมิดฯ โดยให้บุคลากรในหน่วยงานได้มีส่วนร่วม
  • หน่วยงานต้องปรับเปลี่ยนทัศนคติเกี่ยวกับพฤติกรรมทางเพศ และกำหนดให้เป็นประเด็นหนึ่งในหลักสูตรการพัฒนาบุคลากรทุกระดับ
  • หน่วยงานต้องเสริมสร้างความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับพฤติกรรมการล่วงละเมิดฯ และสร้างสภาพแวดล้อมที่ดีในองค์กร
  • หน่วยงานต้องมีมาตรการคุ้มครองผู้ร้องเรียนและผู้เป็นพยาน และต้องให้การคุ้มครองผู้ร้องเรียนไม่ให้ถูกกลั่นแกล้ง

 

น.ส.รัชดา กล่าวว่า รัฐบาลให้ความสำคัญต่อการแก้ปัญหาการละเมิดและคุกคามทางเพศ ซึ่งเป็นปัญหาของสังคมที่ฝังรากลึกมานาน ที่ผ่านมาได้ออกมาตรการและขับเคลื่อนการสร้างการรับรู้และตระหนักถึงความจำเป็นที่ทุกภาคส่วน องค์กรต่างๆต้องร่วมมือกัน 

 

โดยเฉพาะ 12 มาตรการในการป้องกันและแก้ไขปัญหาการล่วงละเมิดหรือคุกคามทางเพศในการทำงานที่รัฐบาลเห็นชอบไปแล้วนั้น นายกรัฐมนตรี ได้กำชับให้จัดการเผยแพร่อย่างกว้างขวาง เพื่อให้ทุกหน่วยงานดำเนินการอย่างเคร่งครัด มีมาตรฐาน จัดการกับผู้กระทำผิดให้เข็ดหลาบ รวมถึงเยียวยาผู้ได้รับความเสียหายอย่างเป็นธรรมและรวดเร็ว