“คาร์ซีท” เทียบกฎหมายบังคับใช้-บทลงโทษ Car seat 14 ประเทศ

09 พ.ค. 2565 | 06:00 น.

กฎหมาย “คาร์ซีท” ของไทยให้เด็กอายุไม่เกิน 6 ปีต้องนั่ง หากไม่ปฏิบัติ มีโทษปรับไม่เกิน 2,000 บาท มาเทียบกฎหมายบังคับใช้เเละบทลงโทษ 14 ประเทศ ว่าเป็นอย่างไรบ้าง

ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ พ.ร.บ.จราจรทางบก (ฉบับที่ 13) พ.ศ. 2565 เมื่อวันที่ 7 พ.ค. 2565 บัญญัตินี้ให้ใช้บังคับเมื่อพ้นกำหนด 120 วันนับแต่วันประกาศ โดยสาระสำคัญคือ ให้เด็กอายุไม่เกิน 6 ปีต้องนั่ง "คาร์ทซีท"

โดยพรบ.จราจรทางบก พ.ศ.2565 ประกาศใช้มีสาระสำคัญ เกี่ยวกับความปลอดภัยของเด็กในมาตรา 123 กล่าวว่า เด็กอายุไม่เกิน 6 ปี หรือผู้โดยสารที่สูงไม่เกิน 135 ซม.ต้องนั่งคาร์ซีท บูสเตอร์ซีท หรือคาดเข็มขัดนิรภัย หากไม่ปฏิบัติ มีโทษปรับไม่เกิน 2,000 บาท และจะมีผลในอีก 120 วันข้างหน้า หรือวันที่ 5 กันยายน 2565

"คาร์ซีท" เป็นอุปกรณ์ที่จำเป็นต้องมีเมื่อมีการนำบุตรหลานออกเดินทางทั้งใกล้หรือไกล สามารถปกป้องและลดความรุนแรงของการบาดเจ็บจากอุบัติเหตุให้กับเด็ก องค์การอนามัยโลก (WHO) แนะนำว่า การใช้ "คาร์ซีท" ช่วยลดการเสียชีวิตของเด็กได้ถึงร้อยละ 70 ปัจจุบัน 96 ประเทศทั่วโลก มีกฎหมายบังคับใช้ที่นั่งนิรภัยสำหรับเด็กแล้ว

 

แน่นอนว่า กฏหมายบังคับใช้คาร์ซีทในแต่ละประเทศมีความแตกต่างกันไป โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้เกิดความปลอดภัยและป้องกันอันตรายต่างๆ ที่อาจจะเกิดขึ้นกับเด็กๆ ขณะเดินทางในรถยนต์ เพื่อลดอาการบาดเจ็บจากแรงกระแทกจากอุบัติเหตุภายในหรือภายนอกรถยนต์

 

1.กฎหมายการบังคับใช้คาร์ซีทสหราชอาณาจักร

  • เด็กที่มีอายุต่ำกว่า 12 ปี หรือมีความสูงน้อยกว่า 4 ฟุต 5 นิ้ว / 135 เซนติเมตร ต้องนั่งคาร์ซีทหรือ Booster Seat เด็กที่มีอายุมากกว่า 12 ปี หรือมีความสูงมากกว่า 4 ฟุต 5 นิ้ว / 135 เซนติเมตร สามารถใช้ที่นั่งในรถยนต์ได้ตามปกติ โดยไม่จำเป็นต้องใช้Booster Seat

 

 2.กฎหมายการบังคับใช้คาร์ซีทฝรั่งเศส

  • เด็กที่มีอายุต่ำกว่า 10 ปีและมีความสูงน้อยกว่า 135 เซนติเมตรต้องใช้คาร์ซีทสำหรับเด็กที่ได้รับการรับรองจาก UN R44/R129
  • เด็กที่มีความสูงระหว่าง 135 ถึง 150 เซนติเมตร สามารถใช้ Car Seatแบบ Booster ได้หากทางคุณพ่อคุณแม่ต้องการซึ่งเป็นเบาะนั่งเสริมที่ติดตั้งได้โดยยึดกับเบาะหลังของรถยนต์
  • หากในรถยนต์ไม่มีเบาะหลังหรือไม่มีเข็มขัดนิรภัยในเบาะหลังคุณพ่อคุณแม่สามารถนำคาร์ซีทแบบ Rear-facing Seat(หันหน้าไปทางด้านหลังของรถยนต์) มาไว้ที่นั่งหน้ารถยนต์ได้
  • ไม่จำเป็นต้องใช้คาร์ซีทในแท็กซี่

 

3.กฎหมายการบังคับใช้คาร์ซีทเยอรมนี

  • ต้องมีสายรัดนิรภัยสำหรับเด็กที่ได้รับอนุมัติตาม UN R44/R129สำหรับเด็กที่มีอายุน้อยกว่า 12 ปีหรือส่วนสูงน้อยกว่า 150 เซนติเมตร
  • เด็กต้องใช้คาร์ซีทในแท็กซี่

 

4.กฎหมายการบังคับใช้คาร์ซีทเนเธอร์แลนด์

  • เด็กที่มีความสูงไม่เกิน 135 เซนติเมตรต้องใช้คาร์ซีทสำหรับเด็กที่ได้รับการรับรองจาก UN R44 / R129
  • หากรถยนต์ไม่มีเข็มขัดนิรภัยที่เบาะหลังรถยนต์ เด็กอายุ 3ปีขึ้นไปสามารถนั่งเบาะหลังได้
  • ถ้าต้องการให้เด็กจำนวนสามคนนั่งบนเบาะหลังแต่มีที่ว่างสำหรับ Car Seat แค่ 2 ที่นั่ง และเด็กอายุ 3 ปีขึ้นไปอีก 1 คนสามารถใช้เข็มขัดนิรภัยสำหรับผู้ใหญ่ได้
  • หากไม่มี Car Seat ในแท็กซี่ที่ได้รับอนุญาต (ป้ายทะเบียนสีน้ำเงิน)โดยเด็กที่มีอายุมากกว่า 3ปี
  • สามารถนั่งเบาะหลังของรถยนต์ได้โดยใช้เข็มขัดนิรภัยสำหรับผู้ใหญ่และเด็กอายุต่ำกว่า 3ปีสามารถนั่งเบาะหลังได้โดยไม่ต้องใช้เข็มขัดนิรภัย
  • ผู้โดยสารเด็กสามารถนั่งเบาะข้างหน้าของแท็กซี่ได้แต่ต้องมีความสูงมากกว่า 135 เซนติเมตร
  • ต้องคาดเข็มขัดนิรภัยของผู้ใหญ่

 

5.กฎหมายการบังคับใช้คาร์ซีทโปรตุเกส

  • เด็กทุกคนที่มีอายุต่ำกว่า 12 ปีและมีความสูงน้อยกว่า 135 เซนติเมตรต้องใช้คาร์ซีทสำหรับเด็กที่ได้รับการรับรองจาก UN R44/R129คุณพ่อคุณแม่สามารถให้เด็กอายุต่ำกว่าสามขวบนั่งเบาะด้านหน้าที่มี
  • คาร์ซีทรองรับได้ในขณะที่ถุงลมนิรภัยเสียหรือไม่ทำงาน
  • หากรถยนต์ไม่มีเข็มขัดนิรภัยที่เบาะหลังเด็กสามารถนั่งเบาะข้างหน้ารถยนต์ได้ โดยเลือก Car Seat ที่ถูกประเภทและถุงลมนิรภัยต้องไม่ทำงาน
  • หากต้องการให้เด็กสามคนนั่งเบาะหลังแต่มีที่ว่างสำหรับ Car Seat แค่ 2 ที่นั่ง และเด็กที่เหลืออีก 1คนที่อายุมากที่สุดอาจจะใช้เข็มขัดนิรภัยในที่นั่งตรงกลางได้
  • ไม่จำเป็นต้องใช้คาร์ซีทในแท็กซี่

 

6.กฎหมายการบังคับใช้คาร์ซีทไอร์แลนด์

  • เด็กที่มีส่วนสูงต่ำกว่า 150 ซม. หรือมีน้ำหนัก 36 กก. (79 ปอนด์)ต้องใช้ระบบพยุงตัวสำหรับเด็กที่เหมาะสมกับส่วนสูงและน้ำหนักที่ได้รับการอนุมัติตาม UN R44 หรือ R129
  • เด็กสามารถนั่งในที่นั่งด้านหน้าได้ตราบเท่าที่พวกเขาใช้ Car Seatที่ถูกต้องสำหรับส่วนสูงและน้ำหนักแต่การใช้คาร์ซีทแบบหันหน้าไปทางด้านหลังของรถยนต์ (Rear-Facing Seat)ในที่นั่งที่ถุงลมนิรภัยทำงานอยู่ ถือเป็นสิ่งที่ผิดกฎหมาย
  • ควรให้เด็กนั่งหลังรถยนต์โดยห่างจากถุงลมนิรภัยและแผงหน้าปัดเสมอ
  • ไม่จำเป็นต้องใช้คาร์ซีทในแท็กซี่

 

7.กฎหมายการบังคับใช้คาร์ซีทเดนมาร์ก

  • เด็กควรใช้ Car Seat ที่เหมาะสมกับส่วนสูงและน้ำหนักจนพวกเขามีความสูงถึง 135 ซม.
  • คาร์ซีทต้องได้รับการอนุมัติตาม UN R44 หรือ R129
  • ไม่ได้รับอนุญาตให้ใช้ Rear-Facing Seatแบบหันหน้าไปทางด้านหลังของรถยนต์ในที่นั่งด้านหน้าของรถยนต์ถ้าถุงลมนิรภัยยังทำงานอยู่
  • ผู้ขับรถยนต์มีหน้าที่รับผิดชอบต่อเด็กทุกคนที่มีอายุต่ำกว่า 15 ปีโดยการเลือกใช้คาร์ซีทหรือเข็มขัดนิรภัยให้ปลอดภัยอย่างเหมาะสมต่อเด็ก
  • เด็กสามารถเดินทางด้วยแท็กซี่ได้โดยไม่มี Car Seat หากไม่มีที่นั่งว่างโดยเด็กต้องนั่งเบาะหลัง และถ้าเด็กอายุ 3ปีขึ้นไปต้องคาดเข็มขัดนิรภัย

 

8.กฎหมายการบังคับใช้คาร์ซีทสเปน

  • ถ้ามีเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปีและสูงน้อยกว่า 135เซนติเมตรอยู่บนรถยนต์ จำเป็นต้องใช้คาร์ซีทที่ได้รับการรับรองจากUN R44/R129 ตรงเบาะหลังของรถยนต์
  • กรณีที่รถยนต์บางคันมีเพียงสองที่นั่ง หรือไม่สามารถใส่ Car Seat ที่เบาะหลัง สามารถติดตั้งคาร์ซีทที่เบาะหน้าได้โดยที่ถุงลมนิรภัยต้องไม่ทำงาน
  • หากพ่อแม่ถูกจับได้โดยไม่มี Car Seat ในรถยนต์ตำรวจจะขอให้คุณรอจนกว่าจะมีคนนำคาร์ซีทมาให้หรือจะพาเด็กไปขึ้นรถยนต์หรือแท็กซี่อีกคันที่มีคาร์ซีทก็ได้
  • ค่าปรับเมื่อทำผิดกฎหมายคาร์ซีทประมาณ 300 ยูโร
  • ไม่จำเป็นต้องใช้คาร์ซีทในเมืองแต่หากพ่อแม่จอดรถที่สนามบินและกำลังเดินทางนอกใจกลางเมือง จำเป็นต้องใช้ Baby Car Seat กับลูกน้อย

 

9.กฎหมายการบังคับใช้คาร์ซีทสหรัฐอเมริกา

  • แต่ละรัฐจะมีกฎหมาย Car Seatสำหรับเด็กและนักเดินทางที่ต้องปฏิบัติแตกต่างกันไปในแต่ละรัฐ
  • เช่น รัฐเซาท์ดาโคตากำหนดให้มีคาร์ซีทสำหรับเด็กสำหรับเด็กอายุต่ำกว่า 4 ปีและมีน้ำหนักน้อยกว่า 40 ปอนด์
  • ในขณะที่รัฐเทนเนสซีกำหนดให้มี Car Seat สำหรับเด็กที่มีอายุน้อยกว่า8ปีและรวมถึงมีข้อกำหนดสำหรับคาร์ซีทแบบหันหน้าไปทางด้านหลังของรถยนต์ (Rear-Facing Seat) แบบหันไปทางหน้ารถยนต์ (Forward-Facing Seat)และแบบเบาะนั่งเสริม (Booster)
  • คาร์ซีททั้งหมดในตลาดต้องผ่านข้อกำหนด(รวมถึงการทดสอบการชน) ของ FMVSS 213โดยสถาบันประกันภัยบนทางหลวงจะจัดทำตารางกฎหมายของรัฐทั้งหมด
  • ในรัฐส่วนใหญ่การเดินทางบนแท็กซี่ได้รับการยกเว้นจากกฎหมายคาร์ซีท ยกเว้นรัฐแคลิฟอร์เนีย

 

10.กฎหมายการบังคับใช้คาร์ซีทแคนาดา

  • แต่ละรัฐจะมีกฎหมาย Car Seat และ Booster Seat ที่ต้องปฏิบัติแตกต่างกันไปในแต่ละรัฐ
  • เช่น รัฐอัลเบอร์ตากำหนดให้ใช้คาร์ซีทกับเด็กอายุ 6 ปี หรือมีน้ำหนักอย่างน้อย 18 กิโลกรัม (40 ปอนด์) ส่วนกฎหมายที่นั่งเสริมยังไม่มี
  • รัฐบริติชโคลัมเบียกำหนดให้คาร์ซีทแบบหันหน้าเข้าหาเบาะ (Rear-Facing) กับเด็กอายุอย่างน้อย 1 ปี หรือมีน้ำหนัก 9 กิโลกรัม (20 ปอนด์) ส่วนกฎหมายที่นั่งเสริมให้ใช้จนเด็กสูงถึง 145 เซนติเมตรหรืออายุ 9 ปี
  • รัฐแมนิโทบาให้ใช้คาร์ซีทหรือเบาะนั่งเสริมให้เหมาะสมกับอายุ น้ำหนัก และส่วนสูงของเด็ก โดยเบาะนั่งเสริมให้ใช้จนเด็กสูงถึง 145 เซนติเมตร หรือมีน้ำหนักถึง 36 กิโลกรัม (80 ปอนด์) หรืออายุ 9 ปี

 

11.กฎหมายการบังคับใช้คาร์ซีทญี่ปุ่น

  • มีแนวทางให้ปฏิบัติตาม โดยให้ใช้คาร์ซีทแบบหันหน้าไปทางด้านหลัง (Rear-Facing Car Seat) จนกว่าเด็กจะอายุครบ 2 ปี หรือมีน้ำหนักไม่เกิน 9 กิโลกรัม (20 ปอนด์)  
  • ส่วนคาร์ซีทแบบหันไปทางหน้ารถยนต์  (Forward Facing Car Seat) ให้ใช้สำหรับเด็กอายุต่ำกว่า 4 ปี หรือมีน้ำหนักไม่เกิน 18 กิโลกรัม (40 ปอนด์) และเบาะเสริม ( Booster Seat) สำหรับเด็กอายุต่ำกว่า 8 ปี และมีน้ำหนักไม่เกิน 36 กิโลกรัม (80 ปอนด์)

 

12.กฎหมายการบังคับใช้คาร์ซีทฟิลิปปินส์

  • ต้องได้รับเครื่องหมายมาตรฐานของประเทศฟิลิปปินส์ โดยคาร์ซีทประเภทแบบหันหน้าไปทางด้านหลังของรถยนต์ (Rear-Facing Seat) และแบบหันไปทางหน้ารถยนต์ (Forward-Facing Seat) ห้ามเด็กอายุต่ำกว่า 12 ปีใช้ ส่วนน้ำหนักและส่วนสูงของเด็กตามที่ผู้ผลิตระบุ
  • คาร์ซีทประเภทเบาะนั่งเสริม (Booster) บังคับใช้กับเด็กไม่เกินอายุไม่เกิน 12 ปี และส่วนสูงไม่เกิน 150 เซนติเมตร ค่าปรับกรณีฝ่าฝืนโดยไม่ได้ให้เด็กใช้ Car Seat หรือเบาะนั่งเสริมจะถูกปรับเป็นเงินจำนวน 1,000 เปโซสำหรับความผิดครั้งแรก และ 2,000 เปโซสำหรับความผิดครั้งที่สอง และ 5,000 เปโซสำหรับความผิดครั้งที่สาม
  • ยึดใบอนุญาตขับรถยนต์ 1 ปี ในกรณีหากพบว่ามีการปลอมแปลงเครื่องหมายมาตรฐานฟิลิปปินส์จะถูกปรับเป็นเงิน 50,000 - 100,000 เปโซ
  • ไม่ต้องใช้คาร์ซีทในรถแท็กซี่

 

13.กฎหมายการบังคับใช้คาร์ซีทมาเลเซีย

  • อนุญาตให้ใช้คาร์ซีทประเภทแบบหันหน้าไปทางด้านหลังของรถยนต์ (Rear-Facing Seat)กับเด็กเล็กอายุไม่เกิน 18 เดือน หรือมีน้ำหนักตัวไม่เกิน 29 ปอนด์
  • คาร์ซีทแบบหันไปทางหน้ารถยนต์ (Forward-Facing Seat) ใช้กับเด็กอายุไม่เกิน 4 ปี หรือมีน้ำหนักตัวไม่เกิน 40 ปอนด์ และเบาะนั่งเสริม (Booster) ใช้กับเด็กอายุไม่เกิน 7 ปี และส่วนสูงไม่เกิน 135 เซนติเมตร ในกรณีที่ผู้ปกครองไม่ปฏิบัติตามกฎหมายจะเสียค่าปรับ 2,000 ริงกิต
  • ไม่ต้องใช้คาร์ซีทในรถแท็กซี่

 

14.กฎหมายการบังคับใช้คาร์ซีทสิงคโปร์

  • อนุญาตให้ใช้คาร์ซีทประเภทแบบหันหน้าไปทางด้านหลังของรถยนต์ (Rear-Facing Seat)กับเด็กเล็กอายุไม่เกิน 9 เดือน หรือมีน้ำหนักตัวไม่เกิน 22 ปอนด์
  • คาร์ซีทแบบหันไปทางหน้ารถยนต์(Forward-Facing Seat) ใช้กับเด็กอายุไม่เกิน 4 ปี หรือมีน้ำหนักตัวไม่เกิน 39 ปอนด์ และเบาะนั่งเสริม (Booster) ใช้กับเด็กอายุไม่เกิน 6 ปี มีน้ำหนักตัวไม่เกิน 55 ปอนด์ และส่วนสูงไม่เกิน 135 เซนติเมตร
  • กรณีที่ผู้ปกครองไม่ปฏิบัติตามกฎหมายจะเสียค่าปรับสูงถึง 1,000  ดอลลาร์สิงคโปร์และจำคุก 3 เดือน
  • ไม่ต้องใช้คาร์ซีทในรถแท็กซี่ เพราะแท็กซี่ได้รับการยกเว้นด้วยกฎหมายว่าด้วยการควบคุมเด็ก
  • องค์การสหประชาชาติได้กำหนดมาตรฐานความปลอดภัยสำหรับเบาะนั่งนิรภัยสำหรับเด็ก โดยออกคำสั่งห้ามที่นั่งเสริมแบบไม่มีพนักพิงสำหรับเด็กที่มีน้ำหนักน้อยกว่า 22 กก. และสูงต่ำกว่า 125 เซนติเมตร

 

ที่มา : Britax Thailand healthline