นักวิชาการศาสนา เคลียร์ชัด "สมเด็จพระวันรัต" ไม่มีเงินส่วนตัว

03 เม.ย. 2565 | 03:49 น.

นักวิชาการด้านพุทธศาสนา เคลียร์ชัดกรณี ลูกศิษย์ สมเด็จพระวันรัต ฉกเงินวัดบวรนิเวศวิหาร สมเด็จฯไม่มีเงินส่วนตัวและ ถือเรื่องการจับเงินมาก ชี้ต้องด่าโจร และสถาบันการเงิน เพราะปล่อยให้โจรเอาเงินออกไปจากระบบ หลังพบปลอมลายเซ็นยักยอกเงินเพื่อบูรณะปฏิสังขรณ์วัด

จากกรณี ฐานเศรษฐกิจ นำเสนอข่าวจับลูกศิษย์ “สมเด็จพระวันรัต” เจ้าอาวาสวัดบวรนิเวศวิหาร หลังคณะกรรมการวัดได้ประสานให้ดำเนินการตรวจสอบในทางลับจนพบว่า มีการยักยอกทรัพย์ ซึ่งเป็นสมบัติของวัดบวรนิเวศวิหาร กว่า 200 ล้านบาท ไปใช้ส่วนตัว

 

ล่าสุดนายจตุรงค์ จงอาษา นักวิชาการอิสระด้านพระพุทธศาสนา ออกมาโพสต์ผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว Jaturong Mantaso Jongarsa โดยสรุปได้ดังต่อไปนี้

 

#สมเด็จรูปนี้ไม่มีเงินส่วนตัว

 

เห็นข่าวกรณี นายเนย อมเงินวัดไปหลายร้อยล้าน เห็นหลายคนแทนที่จะด่าโจร กลับมาด่าพระ ผมขอชี้แจงตามความรู้อันน้อยนิดของผมดังนี้นะครับ

 

1. สมเด็จฯ ไม่มีเงินส่วนตัวนะครับ ส่วนใหญ่จะเป็นบัญชีวัดที่ท่านปกครองหรือเคยปกครอง ทั้งในนามเจ้าอาวาส (วัดบวรฯ) ในนามรักษาการเจ้าอาวาส (วัดมกุฏฯ/วัดตรีฯ) ในนามวัดที่ท่านสร้างเองกับมือ (ตราด/บางปะหัน) และในนามมูลนิธิฯ ต่าง ๆ

 

2. บัญชีส่วนตัวเดียวที่มีคือบัญชีปี 43 ในนามพระพรหมมุนี (ยศในขณะนั้น) ซึ่งเป็นบัญชีตาย ไม่เคยถอนทิ้งไว้เฉย ๆ ไม่มีใครทราบยอด

 

3. บัญชีเพื่อสาธารณกุศล เช่น สมเด็จพระวันรัตเพื่อกองทุนโรคหัวใจ หรือ สมเด็จพระวันรัตเพื่อพระบาลี เป็นต้น

 

4. สมเด็จฯ ถือเรื่องการจับเงิน ไม่รับเงินมาก ๆ และการที่สมเด็จเป็นธรรมยุติไม่จับ/รับเงินนี้เอง โจรมันเลยอาศัยโอกาสนี้ในการเข้าถึงธุรกรรมทางการเงินของสมเด็จฯ ที่มีในวัดต่าง ๆ /องค์กรสาธารณกุศลต่าง ๆ ในช่วงที่สมเด็จฯ รักษาตัวในโรงพยาบาล

#ดังนั้น การที่คนขับรถธรรมดา จะไปถอนเงินออกจากบัญชีต่าง ๆ เหล่านี้ได้ เราควรโทษพระเหรอครับ ทำไมไม่ ด่าโจร ด่าระบบสถาบันการเงิน ที่ปล่อยให้โจรเอาเงินออกไปจากระบบ แต่กลายเป็นสังคมทำไมต้องมาก่นด่าพระ โดยที่ไม่รู้เรื่องอะไรด้วย

 

#ย้ำนะครับ 

 

คนตายไม่เคยสะสมทรัพย์สินส่วนตัว มีแต่ดูแลทรัพย์สินคณะสงฆ์ส่วนกลาง ดูแลทรัพย์สินคณะธรรมยุติ ดูแลทรัพย์สินวัด ดูแลทรัพย์สินสาธารณกุศล

 

อย่าไปป้ายสีคนตายว่าเอาเงินไปให้กัน คนตายพูดไม่ได้ แต่เส้นทางทางการเงินที่ตำรวจมีมันชัดนะครับ ว่า.....สมเด็จฯท่านไม่ได้ให้ แต่โจรมันยักย้ายออกมาเอง 

 

อย่าไปด่าพระ กรุณาด่าโจร 

 

#เข้าใจตรงกันนะครับ

สำหรับ สมเด็จพระวันรัต (จุนท์ พฺรหฺมคุตฺโต) เจ้าอาวาสวัดบวรนิเวศวิหาร ถือเป็นสมเด็จพระราชาคณะฝ่ายธรรมยุติกนิกาย ซึ่งได้ละสังขารอย่างสงบ เมื่อเวลา 14.22 น. ของวันที่ 15 มีนาคม 2565 ด้วยโรคมะเร็งต่อมน้ำเหลือง ที่โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สิริอายุ 85 ปี 65 พรรษา

 

อย่างไรก็ตามในเรื่องของการรับปัจจัยเงินทอง นั้น ตามพระวินัย พระสงฆ์ทั้งสายธรรมยุต และมหานิกาย ย่อมไม่รับปัจจัยอยู่แล้ว แต่พระธรรมยุติจะมีความเคร่งมากกว่า คือจะไม่มีการรับหรือสัมผัสเงินเลย แต่หากจำเป็นจริงบางรูปอาจเปลี่ยนวิธีการรับโดยใช้ใบปวารณาแทน ไม่ได้รับโดยตรง ซึ่งลูกศิษย์จะเป็นช่วยผู้ดำเนินการ โดยเฉพาะเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการทำนุบำรุงพุทธศาสนา

 

โดยกรณีของนายเนย ลูกศิษย์ “สมเด็จพระวันรัต” เจ้าอาวาสวัดบวรนิเวศวิหาร ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจกองบังคับการปราบปราม สำนักงานตำตรวจแห่งชาติ ได้เข้าตรวจสอบในทางลับ ก่อนจะติดตามจับกุมตัวมาได้เมื่อช่วงประมาณวันที่ 23-25 มีนาคม ที่ผ่านมา เบื้องต้นได้แจ้งข้อกล่าวหาฉ้อโกง และอีกข้อหาคือปลอมและใช้เอกสารสิทธิ์ปลอม 

 

จากการตรวจสอบพบพฤติกรรม คือ ปลอมเอกสารเพื่อลักเงินจากบัญชีเงินฝาก ซึ่งแหล่งข่าวจากวัดบวรนิเวศวิหาร ระบุว่า การตรวจสอบขณะนี้พบบัญชีแรกมีการลักเงินออกไป ประมาณ 80 กว่าล้าน ส่วนอีกบัญชีลักไป 120 กว่าล้าน รวมเงินที่สูญหายไปเท่าที่ตรวจสอบพบในขณะนี้ก็ประมาณ 200 ล้านบาท 

 

แต่การตรวจสอบบัญชีทรัพย์สินทั้งหมดยังไม่เสร็จสิ้น โดยสามารถติดตามกลับคืนมาได้แล้วจำนวนหนึ่ง อีกส่วนหนึ่งเป็นการอายัดบัญชีที่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิด ไปถึงทรัพย์สินที่ต้องสงสัยมีการอายัดเอาไว้ตรวจสอบว่าได้มาจากเงินลักไปหรือไม่ด้วย หลายร้อยรายการ อาทิ บัญชีเงินสด พระเครื่อง รถยนต์

 

แหล่งข่าวจากวัดบวรนิเวศวิหาร ระบุว่า การยักยอกทรัพย์เกิดขึ้นครั้งใหญ่ ในช่วงที่ สมเด็จพระวันรัต เข้ารับการรักษาอาการอาพาธด้วยโรคมะเร็งถุงน้ำดี ที่โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย นายเนยเป็นไม่กี่คนที่สามารถเข้า-ออก ห้องรักษาตัวได้อย่างสนิทใจ แต่กลับพบว่าเป็นการเข้าไปดำเนินการยักยอกทรัพย์แทน 

 

“ในช่วงที่สมเด็จพระวันรัตท่านอาพาธ นายเนยได้เข้าไปเยี่ยมหลายครั้ง และมีการยักยอกเงินออกไปในช่วงนั้น โดยนายเนยได้มีการปลอมบัญชีปลอมลายเซ็นของสมเด็จพระวันรัตในส่วนที่เกี่ยวข้องกับวงเงินเพื่อบูรณะปฏิสังขรณ์วัด โดยทยอยเบิกเงินอยากหยอกจากบัญชีออกไปคราวละ 30 ล้าน 80 ล้านบาท” แหล่งข่าวให้ข้อมูลกับฐานเศรษฐกิจ

 

อย่างไรก็ตามเมื่อนายเนยได้เงินมาแล้ว กลับไม่ได้เก็บเป็นเงินสด แต่นำเงินไปซื้อบ้าน รถหรูยี่ห้อดัง อาทิ ลัมโบร์กีนี เฟอร์รารี รวมทั้งซื้อ เพชร ทอง นาฬิกาหรู มาเป็นทรัพย์สินส่วนตัว