หลังจาก สมเด็จพระวันรัต (จุนท์ พฺรหฺมคุตฺโต) เจ้าอาวาสวัดบวรนิเวศวิหาร ละสังขารอย่างสงบ เมื่อวันที่ 15 มีนาคม พ.ศ. 2565 เวลา 14.22 น. ที่โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ ด้วยโรคมะเร็งต่อมน้ำเหลือง สิริอายุ 85 ปี 65 พรรษา ถือเป็นการสูญเสียพระเถระชั้นผู้ใหญ่คนสำคัญของไทย และสร้างความอาลัยกับพุทธศาสนิกชนทั่วประเทศ
สำหรับความสำคัญของ สมเด็จพระวันรัต นั้น ปัจจุบันนับว่าเป็นราชทินนามสมเด็จพระราชาคณะรูปหนึ่งในฝ่ายธรรมยุติกนิกาย โดย สมเด็จพระวันรัต แปลว่า ผู้ยินดีในการอยู่ป่า ผู้รักการอยู่ป่า เดิมใช้คำว่า พนรัตน์ และ วันรัตน์ ซึ่งแปลว่า ป่าแก้ว
โดย วันรัตน์ เป็นนามที่ได้มาจากลังกา สันนิษฐานตามคำแปลว่าคงเป็นสังฆนายกฝ่ายอรัญวาสี คู่กับสมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ ซึ่งเป็นสังฆนายกฝ่ายคามวาสี
ในพระราชพงศาวดาร ฉบับพันจันทนุมาศ (เจิม) ปรากฏนามนี้ครั้งแรกในรัชสมัยสมเด็จพระมหาจักรพรรดิ ว่าพระพนรัตน์ป่าแก้วให้ฤกษ์แก่พระศรีสิน พระราชโอรสในสมเด็จพระไชยราชาธิราช ในการก่อกบฏ
ที่มีชื่อเสียงปรากฏเด่นชัดอีกรูปหนึ่งคือ สมเด็จพระพนรัตน์ป่าแก้ว ซึ่งได้เข้าไปถวายพระพรสมเด็จพระนเรศวรมหาราชขอพระราชทานอภัยโทษแก่แม่ทัพนายกองที่ตามเสด็จไม่ทันคราวสงครามยุทธหัตถี
สำหรับ สมเด็จพระวันรัต ในสมัยกรุงศรีอยุธยา พระมหาเถระผู้จะได้รับพระราชทานนามนี้จะต้องมีความสำคัญมากในด้านภูมิธรรม โดยเฉพาะความเป็นผู้ยินดีในการปฏิบัติกรรมฐาน ยินดีในการปลีกวิเวก
ประวัติสมเด็จพระวันรัต เจ้าอาวาสวัดบวรนิเวศวิหาร
สมเด็จพระวันรัต ฉายา พฺรหฺมคุตฺโต มีนามเดิมว่า จุนท์ พราหมณ์พิทักษ์ เป็นสมเด็จพระราชาคณะฝ่ายธรรมยุติกนิกาย อดีตผู้ปฏิบัติหน้าที่เจ้าคณะใหญ่คณะธรรมยุต อดีตกรรมการมหาเถรสมาคม อดีตประธานคณะสนองงานในสมเด็จพระสังฆราช และอดีตเจ้าอาวาสวัดบวรนิเวศราชวรวิหาร
เกิดเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 17 กันยายน 2479 ณ บ้านเกาะเกตุ ต.ชำราก อ.เมือง จ.ตราด โยมบิดา-มารดา ชื่อ นายจันทร์และนางเหล็ย พราหมณ์พิทักษ์
วิทยฐานะ
- พ.ศ. 2491 สำเร็จวิชาสามัญศึกษา (ป.4) จากโรงเรียนวัดคิริวิหาร ตำบลชำราก อำเภอเมือง จังหวัดตราด
- พ.ศ. 2495 สอบได้นักธรรมชั้นเอก ในสนามหลวงสำนักเรียนวัดบวรนิเวศวิหาร
- พ.ศ. 2515 สอบได้เปรียญธรรม 9 ประโยค ในสนามหลวงสำนักเรียนวัดบวรนิเวศวิหาร
ลำดับสมณศักดิ์
- พ.ศ. 2517 ได้รับพระราชทานสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะชั้นสามัญที่ พระอมรโมลี
- พ.ศ. 2531 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะชั้นราชที่ พระราชสุมนต์มุนี ตรีปิฎกบวรวิภูสิต ยติคณิสสร บวรสังฆาราม คามวาสี
- พ.ศ. 2535 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะชั้นเทพที่ พระเทพกวี ศรีปริยัติวิภูษิต ตรีปิฎกบัณฑิต ธรรมิกคณิสสร บวรสังฆาราม คามวาสี
- พ.ศ. 2541 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะชั้นธรรมที่ พระธรรมกวี ศรีธรรมประยต วิสุทธิญาณนายก ตรีปิฎกบัณฑิต ยติคณิสสร บวรสังฆาราม คามวาสี
- พ.ศ. 2543 ได้รับพระราชทานสถาปนาสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะเจ้าคณะรองที่ พระพรหมมุนี ศรีวิสุทธิญาณนายก ธรรมสาธกวิจิตรปฎาณ ปริยัติวิธานกิจจการี ตรีปฎกบัณฑิต ธรรมยุตติกคณิสสร บวรสังฆาราม คามวาสี
- พ.ศ. 2552 ได้รับพระราชทานสถาปนาสมณศักดิ์เป็นสมเด็จพระราชาคณะที่ สมเด็จพระวันรัต ศรีวชิรญาณวงศวิวัฒ ปริยัติพิพัฒนพงศ์ วิสุทธิสงฆปริณายก ตรีปิฎกโกศล วิมลคัมภีรญาณสุนทร ธรรมยุตติกคณิสสร บวรสังฆาราม คามวาสี อรัญวาสี
หน้าที่
- เป็นผู้ตรวจสอบการคำนวณปฏิทินหลวง (ปฏิทินจันทรคติไทย) และให้คำแนะนำ ก่อนประกาศใช้ในแต่ละปี
- เป็นกรรมการชำระพระไตรปิฎก ฉบับเฉลิมพระชนมพรรษา 5 รอบ 60 พรรษา พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช
- เป็นกรรมการชำระอรรถกถา ฉบับเฉลิมพระชนมพรรษา 5 รอบ 60 พรรษา สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ
- เป็นกรรมการสภามหาวิทยาลัยผู้ทรงคุณวุฒิ มหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย
- เป็นผู้แสดงพระธรรมเทศนา ในการทรงบำเพ็ญพระราชกุศล, งานพระราชพิธีฯ ในบางโอกาส
- เป็นผู้ถวายการสอนพระธรรมวินัยแด่พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ขณะดำรงพระราชอิสริยยศเป็นสมเด็จพระบรมโอรสาธิราช เจ้าฟ้ามหาวชิราลงกรณ สยามมกุฎราชกุมาร ในคราวผนวช เสด็จประทับ ณ วัดบวรนิเวศวิหาร
- เป็นกรรมการกองตำรามหามกุฏราชวิทยาลัย
- เป็นหัวหน้ากองตำรามหามกุฏราชวิทยาลัย
- เป็นกรรมการมูลนิธิมหามกุฏราชวิทยาลัย
- เป็นประธานคณะกรรมการตำราและวิชาการ มูลนิธิมหามกุฏราชวิทยาลัย
- สนองงานถวายเจ้าพระคุณสมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมหลวงวชิรญาณสังวร ที่ได้รับพระบัญชาในบางโอกาส
การละสังขารอย่างสงบ
สมเด็จพระวันรัต (จุนท์ พฺรหฺมคุตฺโต) เจ้าอาวาสวัดบวรนิเวศวิหาร อาพาธด้วยโรคมะเร็งถุงน้ำดี ได้รับการรักษาอย่างต่อเนื่อง ณ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย ตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม 2564 จนถึงวันที่ 15 มีนาคม พ.ศ. 2565 เวลา 14.22 น. สมเด็จพระวันรัต ได้มรณภาพด้วยอาการสงบ
ที่มาข้อมูล : วิกิพีเดีย