ตำรายาโบราณ “พระโอสถพระนารายณ์” อายุกว่า 300 ปีที่ตกทอดมาถึงปัจจุบัน ถูกนำมาถอดรหัสเพื่อปรับปรุงให้ใช้ได้จริงทั้ง 4 ตำรับ ได้แก่ ยาทาพระเส้น, พระอังคบพระเส้นตึงให้หย่อน, น้ำมันมหาจักร, ยาหอมดุม โดย สถาบันไทยคดีศึกษา ม.ธรรมศาสตร์
รศ.โรจน์ คุณอเนก รองอธิการบดีฝ่ายการนักศึกษา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (มธ.) และอดีตผู้อำนวยการสถาบันไทยคดีศึกษา ในฐานะผู้ริเริ่มการศึกษา “ตำราโอสถพระนารายณ์” เปิดเผยว่า จากการศึกษาคัมภีร์ใบลานด้านการแพทย์ในสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราชที่ตกทอดกันมาถึงปัจจุบัน ที่รู้จักกันในชื่อของ “ตำราพระโอสถพระนารายณ์” ซึ่งมีอายุกว่า 300 ปี
สถาบันไทยคดีศึกษา มธ. พบว่าตำรับยาเหล่านั้นมีสรรพคุณที่ดีและเป็นประโยชน์อย่างมาก ด้วยเป็นตำรับยาโบราณจึงทำให้คนในปัจจุบันอาจมีความเข้าใจผิดหรือมีความเข้าใจที่คลาดเคลื่อน สถาบันไทยคดีศึกษา มธ. จึงได้ทำการศึกษาและค้นคว้าสอบถามภูมิปัญญาแพทย์แผนไทยด้านสมุนไพรอย่างเป็นระบบ ตั้งแต่ปี 2552 โดยมุ่งหวังที่จะฟื้นฟูยาตามตำราพระโอสถพระนารายณ์ที่ถูกต้อง เข้าใจง่าย และเป็นปัจจุบัน
ขณะนี้สถาบันฯ สามารถฟื้นฟูตำราพระโอสถพระนารายณ์ได้แล้ว 4 ตำรับ ได้แก่ ยาทาพระเส้น, พระอังคบพระเส้นตึงให้หย่อน, น้ำมันมหาจักร และยาหอมดุม พร้อมกันนี้ยังได้จัดพิมพ์หนังสือ “สืบสานภูมิปัญญา ตำราโอสถพระนารายณ์” ที่แสดงถึงรายละเอียดของการประกอบยาทั้งสี่ตำรับดังกล่าวให้แก่ผู้ที่สนใจด้วย
ด้านรศ.รุ่งระวี เต็มศิริฤกษ์กุล คณะเภสัชศาสตร์ มธ. กล่าวว่า สรรพคุณของยาทั้ง 4 ตำรับ ได้แก่
1. ยาทาพระเส้น ซึ่งใช้สำหรับทาแก้เส้นผิดปกติ แก้ลมอัมพาต แก้ลมปัตฆาฏ แก้ตะคริว แก้เส้นจับโปง หรืออาการปวดบวมแดงร้อนที่ข้อเข่าและข้อเท้า แก้เมื่อยขบ
2. พระอังคบพระเส้นตึงให้หย่อน ซึ่งเป็นลูกประคบมีสรรพคุณใช้ประคบเส้นที่ตึงให้หย่อนหรือผ่อนคลายลง ใช้ประคบให้คลายเครียดและหลับสบาย
3. น้ำมันมหาจักร ซึ่งมีสรรพคุณจากคุณสมบัติเฉพาะของเครื่องยาแต่ละชนิด จึงอนุมานได้ว่าน้ำมันมหาจักรน่าจะมีประสิทธิผลในการลดอาการปวดเมื่อยได้จากฤทธิ์ของยาในการลดอาการอักเสบ และยังสามารถรักษาแผล จากฤทธิ์ต้านเชื้อแบคทีเรีย ฤทธิ์ลดการอักเสบ เร่งการหายของแผล
4. ยาหอมดุม บรรเทาอาการไข้ ร่วมกับกระหายน้ำ ปวดศีรษะ ปวดเมื่อย เจ็บตามข้อซึ่งเป็นอาการของไข้หวัด ไข้หวัดใหญ่
สำหรับสถาบันไทยคดีศึกษา มธ. ก่อตั้งเมื่อปี พ.ศ. 2514 ในชื่อ "โครงการไทยคดีศึกษา" มีวัตถุประสงค์เมื่อแรกตั้งคือ เพื่อส่งเสริมการวิจัยค้นคว้าเกี่ยวกับสังคมไทย เพื่อส่งเสริมการเรียบเรียงตำราที่เกี่ยวกับสังคมไทย เพื่อสร้างผู้เชี่ยวชาญในเรื่องของสังคมไทยที่จะไปทำการค้นคว้าและสอน และเพื่อเผยแพร่ความรู้เกี่ยวกับสังคมไทยแก่ประชาชนทั่วไป
ต่อมาในปี พ.ศ. 2518 โครงการไทยคดีศึกษาได้รับการยกฐานะขึ้นเป็น "สถาบันไทยคดีศึกษา" มีฐานะเทียบเท่าคณะวิชา ทำหน้าที่เป็นสถาบันเพื่อการวิจัยของ มธ. และได้รับการยกระดับมาจนถึงปัจจุบัน ที่มุ่งให้ความสำคัญต่อการสร้างงานวิจัย การบริการวิชาการแก่สังคมเพื่อสนับสนุนการเป็นสังคมแห่งการเรียนรู้