ปิดคดีฆ่าแหม่มสวิส! ศาลภูเก็ตสั่งจำคุกบังฟารี ตลอดชีวิต

16 มี.ค. 2565 | 14:06 น.

ปิดคดีฆ่าแหม่มสวิตเซอร์แลนด์ ศาลจังหวัดภูเก็ตอ่านคำพิพากษาลงโทษประหารชีวิตบังฟารี แต่เจ้าตัวสารภาพเลยลดโทษเหลือแค่จำคุกตลอดชีวิต

จากกรณีนายธีรวัฒน์ ท่อทิพย์ หรือ บังฟารี ผู้ต้องหาคดีฆ่า นางนิโคล โซเว่น ไวส์คอพฟ์ ชาวสวิตเซอร์แลนด์ เหตุเกิดที่ลำธารน้ำตกโตนอ่าวยน ตำบลวิชิต อำเภอเมือง จังหวัดภูเก็ต เมื่อวันที่ 3 สิงหาคม 2564 ล่าสุดศาลจังหวัดภูเก็ต ได้อ่านคำพิพากษาคดีฆ่าแหม่มสวิส เมื่อวันที่ 15 มี.ค. ระหว่างพนักงานอัยการจังหวัดภูเก็ต โจทก์ นายธีรวัฒน์ หรือบังฟารี หรือบังรี ท่อทิพย์ จำเลย

 

ปิดคดีฆ่าแหม่มสวิส! ศาลภูเก็ตสั่งจำคุกบังฟารี ตลอดชีวิต

โดยคดีนี้พนักงานอัยการโจทก์ฟ้องว่าเมื่อวันที่ 3 ส.ค.2564 เวลากลางวัน จำเลยกระทำอนาจารนางนิโคล โซเว่น ไวส์คอพฟ์ (Ms.Nicole Sauvain Weisskopf) ผู้เสียหาย พยายามข่มขืนกระทำชำเราและฆ่านางนีโคล ผู้ตาย แล้วซ่อนเร้นศพของผู้ตายด้วยการนำพลาสติกสีดำมาปิดคลุมศพและลักเอาเงิน 300 บาท ซึ่งอยู่ในกระเป๋าของผู้ตายไป และข้อหาจำเลยเสพเมทแอมเฟตามีน และเสพกัญชา จำเลยให้การรับสารภาพ

 

ข้อเท็จจริงฟังได้ว่าเมื่อวันที่ 3 ส.ค.2564 ก่อนเกิดเหตุจำเลยขึ้นไปบริเวณน้ำตกโตนอ่าวยนเพื่อไปหากล้วยไม้หรือพันธ์ไม้ป่า ขณะเดินลงมาเห็นผู้ตายซึ่งเป็นหญิงรูปร่างผอมบางผิวขาวใส่เสื้อกล้ามสวมกางเกงขาสั้นนั่งเอาเท้าแช่น้ำอยู่ที่บริเวณลำธารน้ำตกโตนอ่าวยน จำเลยเกิดอารมณ์ทางเพศตั้งใจจะกระทำชำเราผู้ตายจึงเดินเข้าไปใช้ท่อนเแขนล็อคคอผู้ตาย

เมื่อผู้ตายดิ้นรนต่อสู้จำเลยและผู้ตายตกไปในลำธาร ผู้ตายพยายามดิ้นรนต่อสู้จำเลยจึงใช้ท่อนแขนรัดคอผู้ตายอย่างแรงแล้วจับผู้ตายกดศีรษะคว่ำหน้าในลำธารเมื่อผู้ตายหมดสติจำเลยลากผู้ตายขึ้นมาบริเวณริมฝั่งแล้วถอดกางเกงขาสั้นและกางเกงชั้นในของผู้ตายออก เมื่อจำเลยพลิกตัวผู้ตายให้นอนหงายเห็นผู้ตายหน้าเขียวคล้ำลิ้นจุกปาก จำเลยหมดอารมณ์ทางเพศ จำเลยจึงเอาผ้าพลาสติกสีดำซึ่งอยู่บริเวณใกล้ที่เกิดเหตุมาคลุมตัวผู้ตายแล้วเอาก้อนหินทับไว้แล้วค้นกระเป๋าของผู้ตายเอาเงิน 300 บาท ของผู้ตายไป

 

ศาลพิจารณาแล้วเห็นว่าการที่จำเลยใช้แขนล็อคคอผู้ตายทางด้านหลังเพื่อไม่ใช้ผู้ตายขัดขืน ผู้ตายดิ้นรนต่อสู้กระทั่งจำเลยและผู้ตายตกลงไปในลำธาร จำเลยยังใช้แขนรัดคอผู้ตายและกดศีรษะผู้ตายลงไปในน้ำจนมิดจนผู้ตายหมดสติ จำเลยย่อมเล็งเห็นผลว่าอาจทำให้ผู้ตายถึงแก่ความตายได้ เมื่อจำเลยถึงแก่ความตายจึงถือว่าจำเลยมีเจตนาฆ่าผู้ตาย

 

ศาลจึงพิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 199 ,288, 334 ประมวลกฎหมายยาเสพติด มาตรา 104,162 ฐานฆ่าผู้อื่นให้ประหารชีวิต จำเลยรับสารภาพ ลดโทษให้กระทงละกึ่งหนึ่ง ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา78 ประกอบมาตรา52 (2) ฐานฆ่าผู้อื่นให้จำคุกตลอดชีวิตเมื่อรวมทุกกระทงแล้วให้จำคุกตลอดชีวิตสถานเดียว ริบของกลาง ยกฟ้องข้อหาพยายามข่มขืนและข้อหากระทำอนาจาร

 

ในการอ่านคำพิพากษาได้มีนายมาร์ค เอมอล โซเว่น สามีผู้ตาย และบุตรซายผู้ตายอีก 2 คนร่วมฟังคำพิพากษาจากประเทศสวิตเซอร์แลนด์ผ่านระบบประชุมทางจอภาพผ่านระบบ Google meet จากห้องพิจารณาของศาลจังหวัดภูเก็ต และได้กล่าวขอบคุณศาลจังหวัดภูเก็ต พนักงานอัยการจังหวัดภูเก็ต และเจ้าพนักงานตำรวจ ที่ช่วยกันสืบสวนจับกุมคนร้ายจนได้ตัวจำเลยมาลงโทษ และจังหวัดภูเก็ต ที่อำนวยความสะดวกในการประสานงานติดต่อทางญาติของผู้ตาย