สมเด็จพระวันรัต เจ้าอาวาสวัดบวรฯ ละสังขารด้วยโรคมะเร็ง

15 มี.ค. 2565 | 09:44 น.

สมเด็จพระวันรัต เจ้าอาวาสวัดบวรนิเวศราชวรวิหาร ละสังขารด้วยโรคมะเร็งถุงน้ำดี โดยมรณภาพด้วยอาการสงบ สิริอายุ 85 ปี 65 พรรษา

วันนี้ (วันที่ 15 มีนาคม 2565) นายสิปป์บวร แก้วงาม ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) เปิดเผยว่า ได้รับแจ้งจากทางวัดบวรนิเวศวิหาร ว่า สมเด็จพระวันรัต เจ้าอาวาสวัดบวรนิเวศราชวรวิหาร พระอารามหลวง ละสังขารแล้ว เมื่อเวลา 14.22 น.  ที่โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ ส่วนพิธีการต่าง ๆ ทางวัดจะแจ้งให้ทราบต่อไป โดยก่อนหน้านี้ สมเด็จพระวันรัต เข้ารับการรักษาอาพาธอยู่ที่โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์

 

สมเด็จพระวันรัต มรณะภาพแล้ว

 

 

โดยโรงพยาบาลจุฬาฯ ออกประกาศ สมเด็จพระวันรัต
มรณภาพ หลังอาพารด้วยโรคมะเร็งถุงน้ำดี  หลังรักษาอย่างต่อเนื่อง ณ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์สภากาชาดไทย ตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม พ.ศ. 2564 จนถึงวันที่ 15 มีนาคม 2565 เวลา 14.22 น. สมเด็จพระวันรัต (จุนท์
พฺรหมคุตฺโต) ได้มรณภาพด้วยอาการสงบ

 

สมเด็จพระวันรัต เจ้าอาวาสวัดบวรฯ ละสังขารด้วยโรคมะเร็ง

 

 

ประวัติเจ้าประคุณสมเด็จพระวันรัต (จุนท์ พฺรหฺมคุตฺโต ป.ธ.๙) อดีตผู้ปฏิบัติหน้าที่เจ้าคณะใหญ่คณะธรรมยุต อดีตเจ้าอาวาสวัดบวรนิเวศราชวรวิหาร พระอารามหลวง ได้มรณภาพด้วยอาการอย่างสงบ สิริอายุ 85 ปี 65 พรรษา ด้วยโรคมะเร็งต่อมน้ำเหลือง ณ อาคารภูมิสิริมังคลานุสรณ์ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย กรุงเทพมหานคร

“สมเด็จพระวันรัต (จุนท์ พฺรหฺมคุตฺโต)” มีนามเดิมว่า “จุนท์ พราหมณ์พิทักษ์” เกิดเมื่อวันที่ 13 กันยายน 2479  ณ บ้านเกาะเกตุ ต.ชำราก อ.เมืองตราด จ.ตราด

 

สำเร็จการศึกษาชั้นประถมปีที่ 4 จากโรงเรียนวัดคิรีวิหาร ต.ชำราก อ.เมืองตราด จ.ตราด จากนั้น ได้เข้าพิธีบรรพชาเมื่อวันพุธที่ 12 พฤษภาคม 2491  ณ วัดคิรีวิหาร ต.ชำราก อ.เมืองตราด จ.ตราด โดยมีพระวินัยบัณฑิตเป็นพระอุปัชฌาย์ กระทั่งอายุครบ 20 ปีบริบูรณ์ ได้เข้าพิธีอุปสมบท เมื่อวันอาทิตย์ที่ 8 กรกฎาคม 2499 ณ พระอุโบสถวัดบวรนิเวศวิหาร โดยมีสมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมหลวงวชิรญาณวงศ์ (สมเด็จพระสังฆราช พระองค์ที่ 13) เป็นพระอุปัชฌาย์ พระวินัยบัณฑิต (ถาวร ฐานุตฺตโร) วัดคิรีวิหาร จ.ตราด เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และพระครูวิสุทธิธรรมภาณ (แจ่ม ธมฺมสาโร) เป็นพระอนุสาวนาจารย์ หลังอุปสมบทได้ศึกษาพระปริยัติธรรมจนสอบได้เปรียญธรรม 9 ประโยค จากสำนักเรียนวัดบวรนิเวศวิหาร

 

ถ้าย้อนไป เมื่อ 2516 ขณะที่ยังเป็น “พระมหาจุนท์ พฺรหฺมคุตฺโต ป.ธ.๙” ได้นั่งเสลี่ยงอ่านพระอภิธรรมเวียนพระเมรุ 3  รอบ ในงานพระราชทานเพลิงพระศพ พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าเหมวดี  ซึ่งทรงเป็นผู้อุปัฏฐากในคราวอุปสมบทพระมหาจุนท์ วันที่ 8 กรกฎาคม 2499

หากดู พ.ศ. ที่อุปสมบท ปี 2499 ท่านจัดว่าเป็นพระนวกะร่วมสมัยกับในหลวง รัชกาลที่ 9 ที่ทรงผนวชวันที่ 22 ตุลาคม 2499 และประทับที่วัดบวรนิเวศวิหาร จนกระทั่งทรงลาผนวชวันที่ 5 พฤศจิกายน 2499

 

ยิ่งกว่านั้น เมื่อดำรงสมณศักดิ์ที่ “พระอมรโมลี” ยังได้เป็นพระอาจารย์ถวายพระอักษรเรื่องพระธรรมวินัย แด่ในหลวง รัชกาลที่ 10 เมื่อครั้งดำรงพระราชอิสริยยศที่ “สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช ฯ สยามมกุฏราชกุมาร” ที่ทรงผนวชเมื่อวันที่ 6 พฤศจิกายน 2521 ประทับอยู่ ณ วัดบวรนิเวศวิหาร ตลอดจนทรงลาผวชในวันที่ 20 พฤศจิกายน 2521

 

“สมเด็จพระวันรัต” เป็นพระเถระที่หาได้ยากในกรุงรัตนโกสินทร์ เพราะได้รับนิมนต์ให้ปฏิบัติหน้าที่พระเถระชั้นผู้ใหญ่ นั่งเสลี่ยงกลีบบัว (พระยานมาศพระนำ) และราชรถน้อย (รถพระนำ) อ่านพระอภิธรรมนำขบวนพระอิสริยยศ ในการเคลื่อนพระศพ หลายครั้งด้วยกัน ทั้ง ๆ ที่หน้าที่นี้เป็นของ “สมเด็จพระสังฆราช”

 

ในปี 2551 ขณะดำรงสมณศักดิ์ที่ “พระพรหมมุนี” ได้ปฏิบัติหน้าที่พระเถระชั้นผู้ใหญ่ นั่งพระเสลี่ยงกลีบบัว (พระยานมาศพระนำ) และราชรถน้อย (รถพระนำ) อ่านพระอภิธรรมนำขบวนพระอิสริยยศ ในการเคลื่อนพระศพ ในพระราชพิธีพระราชทานเพลิงพระศพสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ จากพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท สู่พระเมรุ ณ มณฑลพิธีท้องสนามหลวง เมื่อวันที่ 15 พฤศจิกายน 2551

 

ในปี 2555  “สมเด็จพระวันรัต” ได้ปฏิบัติหน้าที่นี้อีกครั้งหนึ่ง ปฏิบัติหน้าที่พระเถระชั้นผู้ใหญ่ นั่งพระเสลี่ยงกลีบบัว (พระยานมาศพระนำ) และราชรถน้อย (รถพระนำ) อ่านพระอภิธรรมนำขบวนพระอิสริยยศ ในการเคลื่อนพระศพ ในพระราชพิธีพระราชทานเพลิงพระศพสมเด็จพระเจ้าภคินีเธอ เจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดา สิริโสภาพัณณวดี จากพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท สู่พระเมรุ ณ มณฑลพิธีท้องสนามหลวงอีกวาระหนึ่ง เมื่อวันที่ 9 เมษายน 2555

 

และปี 2560 “สมเด็จพระวันรัต” ได้ปฏิบัติหน้าที่พระเถระชั้นผู้ใหญ่ นั่งพระเสลี่ยงกลีบบัว (พระยานมาศพระนำ) และราชรถน้อย (รถพระนำ) อ่านพระอภิธรรมนำขบวนพระอิสริยยศ ในการเคลื่อนพระบรมศพ ในพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เมื่อวันที่ 26 ตุลาคม 2560

 

ส่วนภาระหน้าที่พิเศษ ยากที่จะหาผู้ใดทำหน้าที่นี้ได้ในยุคปัจจุบัน คือ การที่ได้รับมอบหมายจากเถรสมาคมเป็นผู้ตรวจสอบการคำนวณปฏิทินหลวง (ปฏิทินจันทรคติไทย) และให้ความเห็น ก่อนที่จะประกาศใช้ในแต่ละปี นอกจากนี้ยังเดินหมุดและคำนวณปฏิทินปักขคณนาสำหรับวันลงอุโบสถให้กับคณะสงฆ์ธรรมยุตด้วย

 

ท่านดำรงตำแหน่งสำคัญด้านการศึกษา เช่น เคยดำรงตำแหน่งเป็นแม่กองธรรมสนามหลวง มาเป็นเวลยาวนาน ด้านการปกครอง เช่น เป็นพระอุปัชฌาย์ กรรมการมหาเถรสมาคม เจ้าอาวาสวัดบวรนิเวศวิหาร ผู้รักษาการแทนเจ้าอาวาสวัดมกุฏกษัตริยารามราชวรวิหาร และวัดตรีทศเทพวรวิหาร

 

และวันที่ 15 มีนาคม พุทธศักราช 2565 นายสิปป์บวร แก้วงาม ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) เปิดเผยว่า ได้รับแจ้งจากทางวัดบวรนิเวศวิหาร ว่า เมื่อเวลา 14.22 น. เจ้าประคุณสมเด็จพระวันรัต (จุนท์ พฺรหฺมคุตฺโต ป.ธ.๙) ได้มรณภาพด้วยอาการอย่างสงบ สิริอายุ 85 ปี 65 พรรษา ด้วยโรคมะเร็งต่อมน้ำเหลือง ณ อาคารภูมิสิริมังคลานุสรณ์ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย กรุงเทพมหานคร

 

ที่มา เพจเฟซบุ๊ก สำนักงานเจ้าคณะภาค ๙ ธรรมยุต