"โอมิครอน" ในไทยจากนี้จะพุ่งสูงขึ้น หมอยงแนะฉีดวัคซีนเข็ม 3 ให้มาก-เร็ว

06 ม.ค. 2565 | 01:55 น.

โอมิครอนในไทยจากนี้จะพุ่งสูงขึ้น หมอยงแนะฉีดวัคซีนเข็ม 3 ให้มากและอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะในกลุ่มเสี่ยงเพื่อลดความรุนแรงของโรค

ศ.นพ.ยง ภู่วรวรรณ (หมอยง) หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยาคลินิก ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้โพสเฟซบุ๊ก (Yong Poovorawan) โดยมีข้อความว่า
โควิด-19 (Covid-19) โอมิครอน (Omicron) หยุดยาวช่วงปีใหม่ และการติดต่อง่าย
หมอยง ระบุว่า โอมิครอน เรารู้แล้วว่าติดต่อง่าย ประกอบกับ การสนุกสนานรื่นเริง  และหยุดยาวช่วงปีใหม่
ดังนั้น ผลที่จะพบผู้ป่วยมากขึ้นในช่วงต่อจากนี้ไป ไม่ใช่เรื่องแปลก 
ผมอยู่กับห้องปฏิบัติการ การตรวจทางห้องปฏิบัติการ 2 - 3 วันนี้ รู้แล้วว่าตัวเลขและอัตราการตรวจพบ  โควิด-19 เพิ่มขึ้นมากๆ   
ผู้ป่วย ผู้ติดเชื้อ นับจากนี้ต่อไป จะเริ่มพุ่งขึ้นสูงอย่างแน่นอน จะขึ้นสูงแค่ไหนก็คงขึ้นอยู่กับการปฏิบัติ  ต่อจากนี้ ที่ทุกคนจะต้องร่วมมือกันลดจำนวนตัวเลข ให้อยู่ในระดับที่ระบบสาธารณสุขรองรับได้
 

อัตราการป่วยรุนแรง และเสียชีวิต เมื่อเปรียบเทียบกับจำนวนผู้ป่วย จะน้อยกว่า ช่วงการระบาดของเดลตา 
สิ่งที่สำคัญขณะนี้ จะต้องเร่งกระตุ้นวัคซีนเข็มที่ 3  ให้ได้มากที่สุดและอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะในกลุ่มเสี่ยง 608 ที่เรารู้กันดีว่าอายุเกิน 60  และหรือ มีโรคเรื้อรัง 8 โรค เพื่อลดความรุนแรงให้ได้
การดูแลรักษา จะรับผู้ป่วยที่มีอาการมากเข้าโรงพยาบาล  ในกลุ่มสีเขียว จำเป็นที่จะต้อง แยกตัวที่บ้าน หรือ ในชุมชนที่จัดไว้ community isolate เพื่อเป็นการลดการทำงานของบุคลากรทางการแพทย์จะได้มีเวลาไปดูแลผู้ป่วยที่มีอาการมาก

การติดเชื้อโควิด-19
จากข้อมูลของมหาวิทยาลัยจอห์นฮอปกินส์ ในรูปเราจะเห็นว่าการระบาดของทั่วโลกเกิดขึ้นเป็น 4 ระลอก เมื่อเปรียบเทียบอัตราป่วยตาย จะเห็นว่าอัตราป่วยตายมีแนวโน้มลดลง 
ถ้าเริ่มจากปีแรกอัตราป่วยตายถึง 3 ถึง 5 % พอเข้าสู่ปีที่ 2 เริ่มลดลงเหลือ 2 % และมีแนวโน้มลดลงมาโดยตลอด 
 

จนมาถึงระลอกของโอมิครอน ที่กำลังระบาดอยู่ขณะนี้อัตราการป่วยตายอยู่ที่ 0.3 % และก็หวังว่าจะลดลงอีก ดังแสดงในรูป 
อัตราการเสียชีวิตในช่วงระบาดของเดลตา ของประเทศไทย เราน้อยกว่าเกณฑ์เฉลี่ยของทั่วโลก อัตราการป่วยตาย อยู่ที่ประมาณ 1 เปอร์เซ็นต์ 
และหวังว่าในช่วงการระบาดของ โอมิครอน ก็น่าจะลดลงกว่าเกณฑ์เฉลี่ยของทั่วโลก และถ้าเป็นไปได้ ถ้าทั่วโลกอัตราการป่วยตาย เหลือน้อยกว่า 0.1%  หรือหนึ่งในพัน ก็จะเข้าสู่ยุคของ โรคทางเดินหายใจประจำฤดูกาล ที่จะสร้างปัญหาส่วนใหญ่ให้กับกลุ่มเสี่ยง และกลุ่มเปราะบางอย่างเช่นไข้หวัดใหญ่
สำหรับสถานการณ์การติดเชื้อโควิด-19 ในประเทศไทยวันที่ 6 มกราคม 2565 นั้น "ฐานเศรษฐกิจ" ติดตามข้อมูลจากศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือศบค. พบว่า มียอดผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้น 5,775  ราย  
ผู้ป่วยสะสม(ตั้งแต่ 1 เม.ย.64) 2,216,387 ราย  เสียชีวิตเพิ่ม 11 ราย หายป่วยเพิ่ม 2,673 ราย กำลังรักษา 37,968 ราย หายป่วยสะสม(ตั้งแต่ 1 เม.ย.64) 2,158,076 ราย