ฉีดวัคซีนโควิดเข็ม 3 หลีกเลี่ยงยาก ผู้เชี่ยวชาญชี้ภูมิอยู่ได้แค่ระยะหนึ่ง

16 ส.ค. 2564 | 03:24 น.

หมอเฉลิมชัยเผยข้อมูลจากแพทย์ประจำทำเนียบขาวชี้ฉีดวัคซีนโควิดกระตุ้นเข็ม 3 หลีกเลี่ยงยาก หลังผู้เชี่ยวชาญระบุภูมิคุ้มกันอยู่ได้แค่ระยะหนึ่งเท่านั้นไม่สามารถจะป้องกันไปได้นานเป็นเวลาหลายปี

รายงานข่าวระบุว่า น.พ.เฉลิมชัย บุญยะลีพรรณ (หมอเฉลิมชัย) รองประธานกรรมาธิการการสาธารณสุข วุฒิสภา โพสต์ blockdit ส่วนตัว "ร้อยแปดพันเก้ากับหมอเฉลิมชัย" โดยมีข้อความว่า  
ที่ปรึกษาประจำทำเนียบขาวให้ความเห็นว่าการฉีดวัคซีนโควิดกระตุ้นเข็ม 3 เป็นเรื่องที่หลีกเลี่ยงได้ยาก
จากความรู้เรื่องวัคซีนป้องกันโควิด-19 (Covid-19) ที่ทยอยเพิ่มเติมออกมาเป็นลำดับ มักเป็นความรู้ใหม่ที่เปลี่ยนแปลงไปจากเดิม และมนุษยชาติต้องเรียนรู้อยู่ตลอดเวลา  เช่น วัคซีนเทคโนโลยีเชื้อตาย มีความปลอดภัยสูง เพราะเป็นเทคโนโลยีที่เคยใช้กันมานานแล้ว แต่กระตุ้นภูมิคุ้มกันได้น้อยกว่าวัคซีนเทคโนโลยีไวรัสเป็นพาหะ และเทคโนโลยี mRNA 
วัคซีนเทคโนโลยีไวรัสเป็นพาหะ พบมีปัญหาเริ่มลิ่มเลือด (Blood clot) และเกร็ดเลือด แต่พบได้น้อยมาก
วัคซีนเทคโนโลยี mRNA พบปัญหาเรื่องกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ ( Myocarditis ) łและการแพ้รุนแรงแบช็อก( Anaphylaxis) แต่พบได้น้อยมากเช่นกัน
วัคซีนทุกชนิด มีประสิทธิผลในการป้องกันการติดเชื้อลดลงอย่างมีนัยสำคัญ เมื่อต้องรับมือกับไวรัสกลายพันธุ์สายพันธุ์เดลต้า แต่ยังสามารถป้องกันการป่วยหนักและการเสียชีวิตได้ดี
วัคซีนทุกชนิด จะมีระดับภูมิคุ้มกันลดลงเมื่อฉีดครบเข็มสองแล้วเป็นเวลา 3-6 เดือน
จึงเกิดคำถามขึ้นว่า ผู้ที่ฉีดวัคซีนครบสองเข็มแล้ว มีความจำเป็นมากน้อยเพียงใด ที่จะต้องฉีดกระตุ้นเข็มสาม และควรจะฉีดระยะห่างจากเข็มสองเป็นเวลานานเท่าใด

เมื่อสองสามวันที่ผ่านมา ทางการสหรัฐอเมริกา ได้ประกาศให้การฉีดวัคซีนกระตุ้นเข็มสามด้วยวัคซีนเทคโนโลยี mRNA เป็นเรื่องที่ให้ใช้ได้กับผู้ที่มีภูมิคุ้มกันอ่อนแอ เช่น กลุ่มที่เป็นมะเร็ง กลุ่มที่ได้รับการผ่าตัดเปลี่ยนอวัยวะ และกลุ่มที่ติดเชื้อ เอชไอวี เป็นต้น  ซึ่งมีประมาณ 2.7% ของจำนวนประชากรทั้งหมด แต่ยังไม่มีการประกาศถึงความจำเป็น ที่จะต้องฉีดวัคซีนกระตุ้นเข็มสามให้กับพลเมืองของสหรัฐอเมริกาในขณะนี้
อย่างไรก็ตาม ในประเทศอิสราเอลและเยอรมัน ได้เริ่มให้ประชาชนทั่วไปสามารถฉีดวัคซีนกระตุ้นเข็มสามได้แล้ว

ฉีดวัคซีนกระตุ้นเข็ม 3 หลีกเลี่ยงได้ยาก
Dr. Anthony Fauci ซึ่งเป็นแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ
โควิดระดับโลก และเป็นหัวหน้าที่ปรึกษาทางการแพทย์ ประจำทำเนียบขาวของประธานาธิบดีสหรัฐฯ และยังเป็นผู้อำนวยการสถาบันโรคภูมิแพ้และโรคติดเชื้อแห่งชาติ ( National Institute of Allergy and Infectious Diseases) ได้ให้สัมภาษณ์ว่า ณ ปัจจุบัน เป็นที่ชัดเจนว่า จำเป็นต้องฉีดวัคซีนกระตุ้นเข็มสาม ให้กับผู้ที่มีภูมิคุ้มกันอ่อนแอ เพื่อยกระดับภูมิคุ้มกันเข้ามาอยู่ในโซนที่ป้องกันไวรัสเดลต้าได้ แต่ความจำเป็นในขณะนี้ สำหรับประชาชนทั่วไป ที่จะต้องฉีดกระตุ้นเข็มสามนั้น ยังไม่มี
แต่ในอนาคต ค่อนข้างชัดเจนว่า คงจะหลีกเลี่ยงได้ยาก ที่จะไม่ฉีดวัคซีนกระตุ้นเข็มสาม เนื่องจากมีข้อมูลที่ชัดเจนว่า วัคซีนทุกชนิด แม้ฉีดครบสองเข็มแล้ว เมื่อเวลาผ่านไป ก็มีแนวโน้มที่ระดับภูมิคุ้มกันจะลดลง

การฉีดวัคซีนกระตุ้นเข็มสาม (Booster dose) จึงเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงได้ยาก ซึ่งสอดคล้องกับความเห็นของนักวิทยาศาสตร์ นักวิจัย และคุณหมอผู้เชี่ยวชาญวัคซีนทั่วโลกว่า วัคซีนป้องกันโควิด จะมีระดับภูมิคุ้มกันที่ป้องกันโรคได้เพียงช่วงระยะเวลาหนึ่งเท่านั้น ไม่สามารถจะป้องกันไปได้นานเป็นเวลาหลายปี
การเตรียมวัคซีน เพื่อฉีดให้กับประชาชนเป็นการกระตุ้นเข็มที่สาม จึงมีความจำเป็น และเช่นเดียวกัน การเตรียมวัคซีนรุ่นที่สอง เพื่อรับมือกับไวรัสกลายพันธุ์ในปีถัดไป ก็เป็นเรื่องจำเป็นมากเช่นเดียวกัน
สำหรับสถานการณ์การฉีดวัคซีนโควิดในประเทศไทยนั้น "ฐานเศรษฐกิจ" ติดตามข้อมูลการรายงานจากศูนย์ข้อมูลโควิด-19 กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ตั้งแต่วันที่ 28 ก.พ.-14 ส.ค. 64 พบว่า มีการฉีดสะสมแล้ว 23,476,869 โดส แบ่งเป็น ฉีดเข็มที่ 1 จำนวน 17,879,206 ราย ฉีดครบ 2 เข็ม จำนวน 5,073,672 ราย และเข็มที่ 3 จำนวน 523,991 ราย