"หมอนิธิพัฒน์" ไขข้อสงสัยการให้ฟาวิพิราเวียร์ผู้ป่วยโควิดตั้งแต่เริ่ม

26 ก.ค. 2564 | 01:08 น.

หมอนิธิพัฒน์ไขข้อสงสัยการให้ยาฟาวิพิราเวียร์ผู้ป่วยโควิด-19 ตั้งแต่เริ่มแรกภายใต้ดุลยพินิจของแพทย์ ชี้ยังไม่ต้องห่วงมากเรื่องผลการดื้อยาในอนาคต มองผลดีที่เกิดขึ้นในปัจจุบันก่อน เชื่อยาไม่ขาดแคลน

รายงานข่าวระบุว่า รศ.นพ.นิธิพัฒน์ เจียรกุล หัวหน้าสาขาวิชาโรคระบบการหายใจและวัณโรค ภาควิชาอายุรศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว (นิธิพัฒน์ เจียรกุล) โดยมีข้อความว่า  
อีกเรื่องที่หลายคนเป็นห่วงกันว่า ในสถานการณ์ที่โรคระบาดในวงกว้างควบคุมได้ยากเช่นนี้ การเริ่มให้ยาฟาวิพิราเวียร์กับผู้ป่วยตั้งแต่เริ่มแรกวินิจฉัยภายใต้ดุลยพินิจของแพทย์ ครอบคลุมรายที่เสี่ยงสูงและผลตรวจแอนติเจนเป็นบวก ในระหว่างรอตรวจพีซีอาร์หรือไม่ต้องตรวจก็ได้ถ้าแพทย์เห็นว่าจำเป็น โดยที่ยังไม่มีหลักฐานของปอดอักเสบจากการเอกซเรย์ แต่มีอาการเล็กน้อยหรือมีปัจจัยเสี่ยงโรครุนแรง จะทำให้เกิดผลเสียตามมาหรือไม่ ขอแสดงความเห็นเป็นข้อๆ ดังนี้

1. ผลต่อการดื้อยาในอนาคต ตอนนี้อย่าเพิ่งห่วงมาก เอาผลดีที่อาจเกิดขึ้นในปัจจุบันก่อน หวังว่าจะโชคดีเหมือนที่เราใช้ยาโอเซลตามิเวียร์กันแพร่หลายในช่วงไข้หวัดใหญ่ 2009 ผ่านมาสิบสองปี ก็ยังไม่เห็นมีการดื้อยานี้เพิ่มขึ้นสักเท่าไร
2. ข้อห้ามใช้และผลข้างเคียงของยาพบน้อย แพทย์ที่จะเป็นผู้สั่งยาต้องมีระบบติดตามให้ผู้เกี่ยวข้องไปแนะนำกันต่อด้วย และถ้าเห็นตาขาวมีสีอมฟ้าช่วงสองสามวันแรกไม่ต้องตกใจ มันจะหายได้เองอย่างที่เคยแสดงให้เห็นแล้วครั้งประสบการณ์การใช้ในทัณฑสถาน
3. ที่ห่วงกันว่าจะทำให้สายโซ่อุปทานยานี้ในประเทศขาดแคลนหรือไม่ ผมคาดการณ์ว่าหากโชคร้ายเรามีผู้ป่วยใหม่วันละ 10,000 คนติดต่อกันไป 30 วัน กะว่าแพทย์ใช้ยากับผู้ป่วยสูงถึง 80%โดยใช้ยาสูตร 5 วันและสูตร 10 วันอย่างละครึ่ง เราต้องเตรียมยาไว้ราว 16.8 ล้านเม็ด ขณะนี้ในรูปถ้าเป็นไปตามแผน ฝ่ายจัดเตรียมของเรามีแล้ว 16 ล้านเม็ด เดือนหน้าสั่งไว้แล้ว 40 ล้านเม็ด และที่น่าดีใจคือองค์การเภสัชเราผลิตได้เองอีกเดือนละ 2 ล้านเม็ด และเดือนตุลาคมจะเร่งผลิตให้ได้เพิ่มขึ้นอีก พอหมดห่วงไปเหมือนเรื่องออกซิเจนที่เล่าไปแล้ว

แผนส่งมอบยาฟาวิพิราเวียร์

มาช่วยกันให้กำลังใจคนทำงานทุกภาคส่วน ทุกสีเสื้อ ทุกหมวกทางการเมือง ทุกเสื้อคลุมแห่งผลประโยชน์ เวลานี้เรามาประทุษร้ายกันทั้งทางกายและทางใจไม่ได้อีกแล้ว ใครจะออกไม่ออกเรื่องของเขา มันเป็นวิถีแห่งการเมืองแบบด้อยพัฒนาของประเทศสารขัณฑ์เรา แต่เราก็รักและจะไม่ยอมทิ้งไปไหน และจะไม่ยอมทิ้งใครไว้ข้างหลัง 
ทั้งนี้ "ฐานเศรษฐกิจ" รวบรวมตัวเลขของผู้ป่วยโควิด-19 (Covid-19) ที่กำลังรักษาตัวอยู่วันที่ 25 กรกฎาคม 64 จากศูนย์ข้อมูล COVID-19 กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข พบว่า มีจำนวน 158,550 ราย อยู่ในโรงพยาบาล 91,049 ราย และอยู่ที่โรงพยาบาลสนาม 67,501 ราย โดยเป็นผู้ผู้ป่วยอาการหนัก 4,151 ราย และใส่เครื่องช่วยหายใจ 961 ราย