นายสุทธิพงษ์ วสุโสภาพล รองเลขาธิการคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ เผยว่า สถานการณ์โควิด-19 แพร่ระบาด บทบาทของวัด พระสงฆ์ ชุมชน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ต้องประสานกันเพื่อปกป้องดูแลทั้งพระสงฆ์และฆราวาส หลายวัดทำโรงทานขึ้น เพื่อคนยากจนตามพระดำริของสมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก แต่บทบาทของวัดและพระสงฆ์ไม่ได้มีเพียงเท่านี้ เกี่ยวกับบทบาทพระสงฆ์ในการสู้ภัยโควิด-19 เวลานี้บทบาทของวัดและพระสงฆ์แบ่งเป็น 2 ส่วนหลัก
ส่วนแรกคือ ภายในวัด ที่มีมาตรการป้องกันการแพร่ระบาด ตั้งแต่การคัดกรองประชาชนก่อนเข้าวัด การปฏิบัติศาสนกิจที่ต้องเว้นระยะห่างอย่างน้อย 2 เมตร การจัดบริเวณภายในวัดสำหรับกักตัวคนจากภายนอกชุมชนหรือผู้ที่มีความเสี่ยงเพื่อเฝ้าดูอาการ เป็นต้น ส่วนที่สองคือ ภายนอกวัด พระสงฆ์ลงพื้นที่ร่วมกับอาสาสมัครสาธารณสุข (อสม.) และหน่วยงานต่างๆ เพื่อเยี่ยมชุมชน วิเคราะห์จุดเสี่ยง คัดกรองผู้ป่วย ให้กำลังใจ ให้สติ เป็นการทำงานร่วมกันระหว่างฆราวาสกับพระ ทั้งยังเป็นส่วนสำคัญที่ส่งข้อมูลให้แก่หน่วยงานราชการ
โดยสำนักงานคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ (สช.) จะทำหน้าที่เป็นแกนกลางประสานเครือข่ายต่างๆ อาทิ กระทรวงมหาดไทย กระทรวงสาธารณสุข สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) สถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข (สวรส.) และองค์กรชุมชนต่างๆ รวมถึงมหาเถรสมาคม สำนักงานพุทธศาสนาแห่งชาติ จัดเวทีเสวนา ‘รวมพลังพลเมืองตื่นรู้ ช่วยชาติกู้ภัยโควิด19: ธรรมนูญสงฆ์ รวมพลังบวร สู้วิกฤตโควิด19’
โดยมีสมเด็จพระมหาธีราจารย์ เจ้าอาวาสวัดยานนาวา กรรมการมหาเถรสมาคมและประธานกรรมการฝ่ายสาธารณสงเคราะห์ของมหาเถรสมาคม ประธานกรรมการขับเคลื่อนธรรมนูญสุขภาพพระสงฆ์แห่งชาติ พ.ศ.2560 ฝ่ายบรรพชิต เป็นผู้กล่าวสัมโมทนียกถาเปิดการเสวนาในวันที่ 28 เมษายน 2563 เวลา 13.30 – 15.30 น. ซึ่งจะมีการถ่ายทอดสดผ่านสถานีวิทยุโทรทัศน์โลกพระพุทธศาสนา เฉลิมพระเกียรติฯ วัดยานนาวา และ Facebook: สช. สำนักงานคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ โดยผู้ชมสามารถร่วมพิมพ์แสดงความคิดเห็นหรือตั้งคำถามต่างๆ ได้
"สช. ขับเคลื่อนกระบวนการทำงานร่วมกันผ่านธรรมนูญสุขภาพพระสงฆ์แห่งชาติอยู่แล้ว การจัดเสวนาครั้งนี้ก็เพื่อสื่อสารข้อมูลสถานการณ์ วิธีปฏิบัติตัวไปยังคณะสงฆ์ทุกจังหวัดและเครือข่ายที่เชื่อมโยงกันทั่วประเทศ รวมถึงภาคีจากการขับเคลื่อนธรรมนูญสุขภาพพระสงฆ์แห่งชาติในพื้นที่ต่างๆ รวมถึงยังมีอีก 19 องค์กร ซึ่งแต่ละองค์กรก็มีเครือข่ายของตนเอง เช่น สำนักพระพุทธศาสนาแห่งชาติ เจ้าคณะจังหวัด เจ้าคณะอำเภอ เจ้าคณะตำบล กลุ่มพระนักพัฒนาในชุมชนต่างๆ เครือข่ายฆราวาสและสมัชชาสุขภาพทุกจังหวัด ประเด็นการพูดคุยครั้งนี้คือ วัดและบทบาทของพระสงฆ์ในการสู้ภัยโควิดจะมีอะไรบ้าง ฆราวาสจะหนุนช่วยพระสงฆ์อย่างไร ขณะที่แต่ละหน่วยงานที่มาร่วมก็จะมีประเด็นย่อย"
สำหรับศาสนาอื่นๆ ระยะต่อไปจะจับมือภาคีให้เกิดกระบวนการหารือและสื่อสารร่วมกัน เพื่อนำหลักปฏิบัติของแต่ละศาสนามาเป็นแนวทาง เช่น ต้องปฏิบัติศาสนกิจอย่างไรไม่ให้เกิดผลกระทบสุขภาพต่อผู้คนรอบข้าง การขับเคลื่อนที่ทำร่วมกับองค์กรสงฆ์ จะทำให้พระแข็งแรง วัดมั่นคง ชุมชนเข้มแข็ง บทบาทของพระกับภาคีจึงมีความสำคัญยิ่ง หากร่วมมือดูแลพื้นที่อย่างเข้มแข็ง ปัญหาการระบาดจะควบคุมได้ดียิ่งขึ้น และสิ่งสำคัญที่ต้องย้ำกันอีกครั้งก็คือ ตอนนี้ยังต้องอยู่บ้าน หยุดเชื้อ เพื่อชาติ” นายสุทธิพงษ์ กล่าวทิ้งท้าย