ฝากขังเจ้าของ “แหลมเกต” เจ้าตัวปฏิเสธ-เหลือ90บาทติดตัว

12 ก.ย. 2562 | 01:39 น.

ตำรวจปคบ.ฝากขังเจ้าของ “ซีฟู๊ดแหลมเกต” แต่เจ้าตัวปฏิเสธ ระบุจากเงิน 50 ล้าน เหลือ90บาทติดตัว

 

เมื่อวันที่ 11 ก.ย. 2562 ที่ผ่านมา กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (บก.ปคบ.) พล.ต.ต.ศิร์รัชเขต ครูวัฒนเศรษฐ์ ผบก.ปคบ. พร้อมด้วยผู้เกี่ยวข้อง ร่วมกันแถลงผลจับกุม นายอพิชาต บวรบัญชารักข์ หรือ นายโจม พารณจุลกะ เจ้าของบริษัท แหลมเกต อินฟินิท จำกัด ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาที่ 1089/2562 ลงวันที่ 24 ก.ค.62 ฐานความผิด "ร่วมกันก่อให้เกิดความเข้าใจผิดในแหล่งกำเนิดคุณภาพปริมาณในสินค้าหรือบริการด้วยการโฆษณาด้วยข้อความอันเป็นเท็จ และร่วมกันฉ้อโกงประชาชน" สามารถจับกุมได้ที่คอนโดแห่งหนึ่ง ภายในซอยพหลโยธิน 11 เขตพญาไท กทม. เมื่อวันที่ 6 ก.ย.ที่ผ่านมา

 

พล.ต.ต.ศิร์ธัชเขต เปิดเผยว่า สืบเนื่องจากตำรวจ กก.1 บก.ปคบ. ได้รับร้องเรียนจากผู้เสียหายรวมกว่า 626 ราย ว่า ร้านบุฟเฟ่ต์ซีฟู้ดแหลมเกตได้จัดโปรโมชั่นทานอาหาร 27 รายการอย่างไม่จำกัดในราคาถูก โดยคิดค่าอาหารเป็นรายหัว หัวละ 888 บาท โดยโฆษณาทางเฟซบุ๊กกับเว็บไซต์ของร้านและไลน์ของ แหลมเกต ซีฟู้ด ซึ่งระยะแรกไม่มีปัญหาใดๆ จากโปรโมชั่นดังกล่าวทำให้เป็นที่ดึงดูดของผู้คนให้มาซื้อบัตรรับประทานอาหารจำนวนมาก แต่เมื่อเข้าไปรับประทานอาหารแล้ว กลับพบว่ามีรายการอาหารไม่ตรงตามที่โฆษณา และต้องชำระเงินค่าอาหารเพิ่ม ผู้เสียหายบางรายที่ได้ซื้อบัตรรับประทานอาหารก็เข้าไปรับประทานไม่ได้ โดยทางร้านอ้างเหตุผลต่างๆ และไม่สามารถคืนเงินให้กับผู้เสียหาย แล้วปิดร้านหลบหนีไป รวมมูลค่าความเสียหายเบื้องต้นประมาณ 5 ล้านบาท

จากการสอบสวนเจ้าของร้านแหลมเกตให้การปฏิเสธ ตำรวจได้ส่งฝากขังศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก พร้อมสั่งค้านประกันตัวในชั้นสอบสวน ขณะนี้ตำรวจได้ออกหมายจับผู้กระทำผิดอีกรายแล้ว อยู่ระหว่างเร่งติดตามตัวมาดำเนินคดี

 

เมื่อตรวจสอบพบว่า นายอพิชาต มีพฤติการณ์ว่าจ้างคอลเซ็นเตอร์ให้โฆษณาขายบัตรรับประทานอาหารดังกล่าวจนมีผู้ซื้อ 22,067 ราย รวมกว่า 3 แสนที่นั่ง ซึ่งเมื่อขยายผลการตรวจสอบจำนวนเงินจากผู้ซื้อทั้งหมด รวมถึงคนที่ยังไม่แจ้งความ พบว่ามีมูลค่าความเสียหายกว่า 50 ล้านบาท ซึ่งเจ้าหน้าที่กำลังติดตามเส้นทางการเงินทั้งหมด เบื้องต้นพบว่าผู้ต้องหานำเงินไปใช้ผ่อนชำระค่ารถยนต์ ค่าเช่าคอนโดมิเนียม และค่าบ้าน ล่าสุดมีเงินเหลือเพียง 90 บาทเท่านั้น

อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันกลุ่มมิจฉาชีพในลักษณะขายโปรโมชั่นราคาถูกแบบนี้มีแนวโน้มที่จะรุนแรงมากขึ้น ทั้งการซื้อตั๋วเครื่องบินหรือจองห้องพัก ขอแนะนำว่าหากประชาชนต้องการซื้อโปรโมชั่นใด ต้องสอบถามข้อมูลกับต้นทางเสมอ เช่น สั่งจองที่พัก ให้สอบถามไปยังโรงแรมดังกล่าว เพราะแม้จะซื้อในงานอีเวนต์ก็ไม่ปลอดภัยร้อยเปอร์เซ็นต์ ทั้งนี้ หากผู้เสียหายรายอื่นในคดีนี้ ทั้งผู้ที่ขายวัตถุดิบให้กับร้านแหลมเกต ซีฟู้ดและได้รับเช็คเด้ง หรือผู้ซื้อบัตรรับประทานอาหารที่ยังไม่ดำเนินการแจ้งความ ก็สามารถมาพบเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ บก.ปคบ.ได้.