"ความต่าง" เทคโนโลยีมือถือจาก 1G สู่ 5G

02 ธ.ค. 2561 | 04:21 น.

Thansettakij เว็บไซต์ข่าวฐานเศรษฐกิจ ผนวกไลฟ์สไตล์ Start up SMEs อสังหาริมทรัพย์ การเงิน การลงทุน การตลาด เศรษฐกิจ เทคโนโลยี Breaking News อัพเดตข่าวล่าสุดที่นี่

ถึงตอนนี้เริ่มได้ยินและคุ้นกับคำว่า 5G กันบ้างแล้ว ว่ากันว่า ในหลายประเทศจะเริ่มเปิดให้บริการในปี 2563 เช่นเดียวกับประเทศไทย เพียงแต่รอสหภาพโทรคมนาคมระหว่างประเทศ หรือ ITU กำหนดมาตรฐานคลื่นความถี่

ลองมาดูกันว่า จาก 1G สู่ 5G ต่างกันอย่างไร สำหรับระบบ 1G คือ โทรศัพท์รุ่นแรก ซึ่งเป็นระบบอนาล็อกที่ส่งได้แค่เสียง (voice) เพียงอย่างเดียว

ส่วน 2G ถือว่าเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้โทรศัพท์มือถือเป็นได้มากกว่าการโทร. เพราะสามารถส่งข้อความแบบสั้น (SMS) และข้อความรูปภาพ (MMS) ได้


MP20-3423-A

สำหรับ 3G ถือว่าเป็นยุคเริ่มต้นของโทรศัพท์เคลื่อนที่สมาร์ทโฟน เพราะเป็นเทคโนโลยีอีกขั้นหนึ่ง กล่าวคือ สามารถเชื่อมต่อเมื่อมีความเร็วในการรับส่งข้อมูลได้เร็วขึ้น ทำให้สามารถใช้โทรศัพท์มือถือ Video call และเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตผ่านมือถือได้

ส่วน 4G เป็นเทคโนโลยีที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน ซึ่ง 4G สามารถสนับสนุนการเข้าถึงเว็บบนมือถือเช่นเดียวกับ 3G แต่ด้วยการรับส่งข้อมูลที่รวดเร็วกว่า ทำให้สามารถเล่นเกมดูหนังแบบ HD รวมไปถึงการใช้แอพพลิเคชันอื่น ๆ ที่ต้องการความเร็วสูง

สำหรับ 5G เป็นเทคโนโลยีขั้นแอดวานซ์กว่า เพราะ 5G เป็นเทคโนโลยีระบบเครือข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ ที่จะทำให้การสื่อสารแบบเคลื่อนที่เร็วขึ้นและปลอดภัยมากขึ้น สามารถเชื่อมต่ออุปกรณ์ได้จำนวนเยอะมากขึ้นเช่นกัน ซึ่งขณะนี้มี 5 ประเทศ คือ ยุโรป สหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น เกาหลี และเวียดนาม กำลังพัฒนาสัญญาณเพื่อให้เกิดนวัตกรรมใหม่ ๆ เพราะ 5G เป็นเครือข่ายที่ถูกพัฒนา ใช้คลื่นความถี่ที่มีประสิทธิภาพสูงสุดถึง 20 กิกะบิตต่อวินาที MIMO ประสิทธิภาพสูงซึ่งเร็วกว่า 4G ถึง 10 เท่า

สำหรับ 5G ในประทศไทย เมื่อเร็ว ๆ นี้ มติที่ประชุมบอร์ด กสทช. เห็นชอบ (ร่าง) ประกาศ กสทช. เรื่อง "หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการเรียกคืนคลื่นความถี่ที่ไม่ได้ใช้ประโยชน์ นำมาใช้ประโยชน์ให้คุ้มค่า" ซึ่งเบื้องต้น คลื่นที่เรียกคืน คือ ย่านความถี่ 2600 MHz, 3400-3500 MHz และ 26-28 GHz


5G ทำอะไรได้บ้าง
นายวสิษฐ์ วัฒนศัพท์ หัวหน้าฝ่ายงานปฏิบัติการและสนับสนุนด้านเทคนิคทั่วประเทศ ของ 'เอไอเอส' กล่าวว่า 5G โดดเด่นต่างจาก 4G อยู่ทั้งหมด 3 เรื่องด้วยกัน คือ 1.ยกระดับความเร็วการใช้ดาต้า (Enhanced Mobile Broadband-EMBB) เน้น "ความเร็ว" (Speed), 2.ขยายขีดความสามารถการเชื่อมต่อระหว่างอุปกรณ์ต่ออุปกรณ์ (Massive Machine Type Communications - MMTC) เน้นสนับสนุน IoT ที่จะถูกนำมาใช้อย่างมหาศาล

 

[caption id="attachment_355267" align="aligncenter" width="331"] วสิษฐ์ วัฒนศัพท์ วสิษฐ์ วัฒนศัพท์[/caption]

สุดท้าย คือ เพิ่มคุณภาพเครือข่ายให้สามารถตอบสนองได้รวดเร็วและเสถียรที่สุด (Ultra-Reliable and Low Latency Communications) เน้นประสิทธิภาพความเร็วในการตอบสนอง หรือ Low Latency ที่จะตอบโจทย์รูปแบบการใช้งานที่เกี่ยวข้องกับความปลอดภัยทางการแพทย์ หรือ อุตสาหกรรมยานยนต์อย่าง Self Driving Car อย่างมีประสิทธิภาพ

รายงาน | หน้า 20 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ | ฉบับ 3,423 ระหว่างวันที่ 2-5 ธันวาคม 2561

ดาวน์โหลดอีบุ๊กแทรกข่าว