กบง.เลิกอุ้มก๊าซหุงต้มปีหน้า ส่งสัญญาณอิงตามตลาดโลกหยุดคุมโรงแยก
Thansettakij เว็บไซต์ข่าวฐานเศรษฐกิจ ผนวกไลฟ์สไตล์ Start up SMEs อสังหาริมทรัพย์ การเงิน การลงทุน การตลาด เศรษฐกิจ เทคโนโลยี Breaking News อัพเดตข่าวล่าสุดที่นี่
ผู้บริโภคเตรียมทำใจ รับราคาแอลพีจีพุ่งอีก ปล่อยลอยตัวเต็มรูปแบบเริ่มต้นปีหน้า อิงราคาตลาดโลก เลิกควบคุมราคาหน้าโรงแยกก๊าซฯ จากปัจจุบันควบคุมอยู่376 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อตัน กบง. ส่งสัญญาณแล้ว ล่าสุดขยับแล้ว 10 บาทต่อถัง 15 กก.
กระทรวงพลังงานกำลังส่งสัญญาณให้ผู้บริโภครับทราบถึงนโยบายการปล่อยลอยตัวราคาก๊าซปิโตรเลียมเหลวหรือแอลพีจีเต็มรูปแบบ โดยจะไม่มีการอุดหนุนราคาเหมือนในปัจจุบัน ซึ่งล่าสุดในการประชุมคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน(กบง.) มีพล.อ.อนันตพร กาญจนรัตน์รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2560ได้เห็นชอบให้มีการปรับขึ้นราคาแอลพีจีทุกภาคส่วนอีก 0.67 บาทต่อกิโลกรัม ส่งผลให้ราคาขายปลีกสะท้อนมาอยู่ที่ 20.96 บาทต่อกิโลกรัม จาก 20.29 บาทต่อกิโลกรัม โดยยังมีเงินจากกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงมาช่วยรับภาระในการอุดหนุนอยู่ 556 ล้านบาทต่อเดือน ทำให้ถังก๊าซหุงต้มขนาด 15 กิโลกรัม ปรับราคาขึ้นไป 10 บาทต่อถัง
ทั้งนี้ หากไม่เงินจากกองทุนน้ำมันฯมาช่วยอุดหนุนดังกล่าว จะส่งผลให้ราคาแอลพีจีจะต้องขยับถึง 1.10 บาทต่อกิโลกรัม เนื่องจากราคาแอลพีจีในตลาดโลกปรับตัวสูงขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 555 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อตัน จาก 460 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อตัน ซึ่งถือว่าเป็นขั้นตอนการปล่อยราคาแบบกึงลอยตัวอยู่ หลังจากที่มีการเปิดให้นำเข้าแอลพีจีเสรีได้แล้ว หากระบบการค้าแอลพีจีไม่มีปัญหา การปล่อยลอยตัวเต็มที่จะดำเนินการตั้งแต่ปีหน้าเป็นต้นไป
นายวิฑูรย์ กุลเจริญวิรัตน์ อธิบดีกรมธุรกิจพลังงาน(กธ.) เปิดเผยกับ"ฐานเศรษฐกิจว่า ขณะนี้กระทรวงพลังงานกำลังเตรียมความพร้อมที่จะเปลี่ยนผ่านระบบการค้าแอลพีจีไปสู่การปล่อยลอยตัวราคาแอลพีจีที่เต็มรูปแบบ คาดว่าจะดำเนินการได้ตั้งแต่ปี 2561 เป็นต้นไป หลังจากที่ได้ยกเลิกการผู้การการนำเข้าแอลพีจี และเปิดให้ผู้ค้าตามมาตรตรา 7 สามารถนำเข้าแอลพีจีได้ โดยจะเริ่มมีการนำเข้าตั้งแต่เดือนมีนาคมนี้เป็นต้นไปจากผู้ค้า 3 รายได้แก่ บริษัท สยามแก๊ส แอนด์ปิโตรเคมีคัลส์ จำกัด (มหาชน) นำเข้าในปริมาณ 4.4 หมื่นตัน เพื่อจำหน่ายในประเทศ บริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) นำเข้ามาเพื่อส่งออก ในปริมาณ 2.2 หมื่นตัน และบริษัท ยูนิคแก๊สฯ นำเข้าเพื่อส่งออกในปริมาณ 3,000 ตัน ในขณะที่เดือนกุมภาพันธ์ มีปตท.เพียงเจ้าเดียวที่นำเข้ามา 1.1 หมื่นตัน เนื่องจากการผลิตในประเทศยังขาดแคลนอยู่ ที่เป็นผลจากการหยุดซ่อมโรงกลั่น
ทั้งนี้ การดำเนินงานถึงวันนี้ถือว่าสามารถปล่อยลอยตัวราคาเป็นแบบกึ่งลอยตัวได้แล้ว เพียงแต่ทางกระทรวงพลังงาน ยังไม่ได้ปรับสูตรราคาอ้างอิงของแอลพีจีหน้าโรงแยกก๊าซธรรมชาติเป็นไปตามราคาตลาดโลกโดยยังอยู่ที่ระดับ 376 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อตัน ขณะที่ราคาหน้าโรงกลั่นน้ำมันได้ปรับสูตรอ้างอิงตามราคาตลาดโลกแล้วที่ 555 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อตัน ซึ่งการควบคุมราคาหน้าโรงแยกฯนี้ เนื่องจากกระทรวงพลังงานไม่ต้องการให้ราคาแอลพีจีขายปลีกในประเทศปรับขึ้นมากเกินไป จะทำให้ให้ผู้บริโภคได้รับผลกระทบจากราคาที่สูงขึ้น
ดังนั้น ในช่วงปีนี้ทางกระทรวงจะเตรียมความพร้อม และจะค่อยๆ แก้ปัญหาของระบบการค้าแอลพีจี โดยเฉพาะการยกเลิกควบคุมราคาหน้าโรงแยกก๊าซฯ และคาดว่าการปล่อยลอยตัวแอลพีจีเต็มที่ได้น่าจะเริ่มจากปี 2561 เป็นต้นไป ซึ่งจะส่งผลให้ราคาขายปลีกแอลพีจีขยับตามราคาตลาดโลกที่สูงขึ้นไปได้
ขณะที่การป้องกันปัญหาการขาดแคลนแอลพีจีในประเทศนั้น ล่าสุดกบง.ก็ได้มอบหมายให้กรมฯไปดำเนินการออกประกาศกระทรวงตามพ.ร.บ.การค้าน้ำมันเชื้อเพลิง เพื่อรองรับการการขาดแคลนแอลพีจี โดยให้กรมฯมีอำนาจในการสั่งผู้ค้ามาตรา 7 สามารถนำเข้าแอลพีจีแบบฉุกฉินได้
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,234 วันที่ 9 - 11 กุมภาพันธ์ 2560